xs
xsm
sm
md
lg

“รมว.ดีอีเอส” ชี้ยกเว้นภาษีนักลงทุนสตาร์ทอัป ดึงดูดการลงทุน 3 แสนล้านบาทภายในปี 2569

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชัยวุฒิ” ชี้มาตรการยกเว้นภาษีผู้ลงทุนสตาร์ทอัป จะช่วยดึงดูดการลงทุนมากกว่า 3.2 แสนล้านบาท ภายในปี 2569 เกิดการจ้างงานเพิ่มกว่า 4 แสนตำแหน่ง และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 7.9 แสนล้านบาท

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการยกเว้นภาษี หรือ Capital Gain Tax เป็นเวลา 10 ปีแก่นักลงทุนไทยและต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัปไทยภายใต้ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยจะต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 24 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมานั้นจะส่งผลดีต่อสตาร์ทอัปสัญชาติไทย

โดยเฉพาะสตาร์ทอัปในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมพัฒนาคนและการศึกษา 

สอดคล้องกับภารกิจสำคัญของดีอีเอสโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า ที่ต้องการส่งเสริมและยกระดับศักยภาพของดิจิทัลสตาร์ทอัปไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครือข่ายและระบบนิเวศสตาร์ทอัป เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตของดิจิทัลสตาร์ทอัปไทย พร้อมก้าวสู่ระดับสากล ซึ่งถือเป็นแผนงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 

สำหรับมาตรการยกเว้นภาษี Capital Gain Tax โดยความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และดีป้า จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนไทยและต่างชาติผ่านธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital : VC) สนับสนุนให้สตาร์ทอัปไทยสามารถระดมทุนได้เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดสตาร์ทอัปรายใหม่

อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในประเทศ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคเศรษฐกิจของไทย เปลี่ยนระบบเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมสู่เศรษฐกิจดิจิทัลมูลค่าสูงต่อไป โดยสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ประเมินว่า มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการระดมทุนในสตาร์ทอัปจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในสตาร์ทอัปไทยมากกว่า 3.2 แสนล้านบาท ภายในปี 2569 เกิดการจ้างงานเพิ่มกว่า 4 แสนตำแหน่ง และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 7.9 แสนล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น