xs
xsm
sm
md
lg

เอาให้ชัด 4 เรื่องไม่จริง PDPA

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดีอีเอสแนะประชาชนศึกษาข้อมูล กม.PDPA จากช่องทางสื่อสารของกระทรวงดีอีเอส และ สคส.พบมีข้อมูลบนโซเชียลเผยแพร่ 4 เรื่องไม่จริง-บิดเบือน

น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า จากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน 4 เรื่อง เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 เป็นต้นไปนั้น สร้างความสับสนให้สังคม และอาจทำให้มีประชาชนหลงเชื่อ เกิดความเข้าใจผิดต่อประเด็นการให้ความคุ้มครองสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับนี้

ทั้งนี้ พบว่ามีการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูล 4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA ได้แก่ 1.การถ่ายรูป-ถ่ายคลิปติดภาพคนอื่นโดยเจ้าตัวไม่ยินยอมจะผิด PDPA ขอชี้แจงว่า กรณีการถ่ายรูป-ถ่ายคลิปโดยติดบุคคลอื่น โดยผู้ถ่ายรูป-ถ่ายคลิปไม่เจตนา และการถ่ายรูป ถ่ายคลิปดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้ถูกถ่าย สามารถทำได้ หากเป็นการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว

2.ถ้านำคลิปหรือรูปถ่ายที่ติดคนอื่นไปโพสต์ในโซเชียลมีเดีย โดยบุคคลอื่นไม่ยินยอมจะผิด PDPA ในกรณีนี้ยืนยันว่าสามารถโพสต์ได้ หากใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว ไม่ใช้แสวงหากำไรทางการค้าและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

3.ติดกล้องวงจรปิดแล้วไม่มีป้ายแจ้งเตือนผิด PDPA ซึ่งในความเป็นจริงตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ การติดกล้องวงจรปิดภายในบ้านไม่จำเป็นต้องมีป้ายแจ้งเตือน หากเพื่อป้องกันอาชญากรรม และรักษาความปลอดภัยกับตัวเจ้าของบ้าน

และ 4.เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ความยินยอมทุกครั้งก่อนนำข้อมูลไปใช้ ซึ่งในประเด็นนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอม หากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ใน 6 กรณีดังต่อไปนี้

ได้แก่ (1) เป็นการทำตามสัญญา (2) เป็นการใช้ที่มีกฎหมายให้อำนาจ (3) เป็นการใช้เพื่อรักษาชีวิต และ/หรือร่างกายของบุคคล (4) เป็นการใช้เพื่อการค้นคว้าวิจัยทางสถิติ (5) เป็นการใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ และ (6) เป็นการใช้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ หรือสิทธิของตนเอง
 
“หลักการข้างต้นอาจเปลี่ยนแปลงตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นกรณีๆ ไป สำหรับ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 มีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศให้หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไปได้ปฏิบัติตาม โดยนับเป็นหนึ่งในชุดกฎหมายดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมในการใช้บริการออนไลน์ในชีวิตประจำวัน” โฆษกดีอีเอส กล่าว
 
ทั้งนี้ เนื่องจาก PDPA นับเป็นกฎหมายใหม่ที่มีการบังคับใช้ เพื่อให้ประชาชนและสังคม รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเกิดความเข้าใจแนวทางปฏิบัติต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในกฎหมายฉบับนี้ อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง สามารถเข้าไปศึกษาและติดตามข้อมูลโดยตรงจากช่องทางสื่อสารของกระทรวงดีอีเอส และ สคส. โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และโซเชียลที่เข้าถึงได้สะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.mdes.go.th/mission/82 และเพจเฟซบุ๊ก pdpcthailand ที่ https://www.facebook.com/pdpc.th


กำลังโหลดความคิดเห็น