วันนี้ (1 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกของการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งมีสารสำคัญอยู่ 4 ประเด็น คือ
1. การถ่ายรูป-ถ่ายคลิป ติดภาพคนอื่นโดยเจ้าตัวไม่ยินยอมจะผิด PDPA
2. ถ้านำคลิปหรือรูปถ่ายที่ติดคนอื่นไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียโดยบุคคลอื่นไม่ยินยอมจะผิด PDPA
3. ติดกล้องวงจรปิดแล้วไม่มีป้ายแจ้งเตือน ผิด PDPA
4. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ความยินยอมทุกครั้งก่อนนำข้อมูลไปใช้ ถ้าไม่ยินยอมผิด PDPA
ซึ่งทั้ง 4 ประเด็นนี้ จะมีปัญหาในทางปฏิบัติสำหรับพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน และผู้บังคับใช้กฎหมายจะต้องใช้ดุลพินิจเป็นอย่างมาก ในการพิจารณาว่าการกระทำใดเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือไม่ ซึ่งอาจจะเกิดความลักลั่นในการปฏิบัติ และอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้
ส่วนตัวเห็นว่า ประเด็นเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิด จะเป็นประเด็นปัญหามากที่สุด คือ การติดกล้องวงจรปิดไม่มีป้ายแจ้งเตือน จะผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แม้ว่าจะมีการยกเว้นการติดกล้องวงจรปิดภายในบ้าน แต่การติดตั้งกล้องวงจรปิดในที่อื่นๆ ต้องปิดป้ายแจ้งเตือน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เพราะการติดกล้องวงจรปิด เป็นการติดตั้งเพื่อเก็บข้อมูล ป้องกันการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้น และที่ผ่านมา การจับตัวผู้ต้องหา หรือฆาตกร ของเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่จะได้มาจากข้อมูลหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหลายคดี
ถ้าหากจะติดป้ายบอกตำแหน่งติดตั้งกล้องวงจรปิด ก็จะทำให้ผู้กระทำผิดหรืออาชญากร ที่คิดจะก่ออาชญากรรมรู้ตัว หลบเลี่ยงการก่ออาชญากรรม ในบริเวณพื้นที่ที่มีกล้องวงจรปิดได้ และจะไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิด ผ่านทางกล้องวงจรปิดได้ ส่วนใหญ่การติดตั้งกล้องวงจรปิด มักจะติดตั้งแบบลับๆ ต้องการเป็นหลักฐานในการจับกุมผู้กระทำผิดเป็นส่วนใหญ่
จึงเห็นว่า กฎหมายข้อนี้ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย ถ้าหากมีการบังคับใช้กฎหมายข้อนี้อย่างเคร่งครัด จะทำให้การหาข้อมูลในการจับกุม ปราบปรามอาชญากรอาชญากรรมยากขึ้น
จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บังคับใช้กฎหมายได้ทบทวน และแก้ไขเงื่อนไขในการบังคับใช้กับประชาชน ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยจะดีที่สุด