xs
xsm
sm
md
lg

Twin-Planet เมต้าเวิร์สไทยอัดงบ 20 ล้านบาท ตั้งเป้ากวาดรายได้ 100 ล้านปีแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Twin Planet Lifestyle Metaverse เปิดให้ใช้งานที่ twin-planet.com ตั้งแต่ 31 มีนาคม 65 ผู้ใช้เฟสแรกจะได้เห็นวิวเมืองปารีส บนถนนฌ็องเอลิเซ่ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อม 3 มิติที่นำร่องบนแพลตฟอร์มเสมือนจริง (Virtual Reality Platform)
“ทวิน แพลนเน็ต” อัดงบ 20 ล้านบาทเปิดตัว Twin Planet Lifestyle Metaverse เมต้าเวิร์สเฟสแรกที่หวังโกยผู้ใช้ 1 ล้านคนภายในสิ้นปี 2565 ตั้งเป้ารายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ก่อนขยายเป็น 300-500 ล้านบาทในเฟสถัดไป ชูจุดยืนเป็นพื้นที่สร้างสังคมใหม่เพื่อการท่องเที่ยวและรับประสบการณ์ความบันเทิงในมิติที่แตกต่าง มั่นใจโมเดลเช่าที่ไม่ขายขาดจะรักษาความสวยของสภาพแวดล้อม 3 มิติจนเป็นจุดต่างจากแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงรายอื่น ขีดเส้นเริ่มอีคอมเมิร์ซเต็มตัวกลาง พ.ค.65 พร้อมควบคุมทุกอย่างขาวสะอาด ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย

นางสาวฐิติรัตน์ เฮงสกุล Chief Executive Officer บริษัท ทวิน แพลนเน็ต จำกัด กล่าวว่า Twin Planet Lifestyle Metaverse คือแพลตฟอร์มที่จำลองโลกอีกใบในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริง ผู้ใช้งานสามารถท่องเที่ยวในโลก Twin Planet เพื่อรับความบันเทิง พบปะเพื่อนฝูง และค้าขาย ทำอาชีพ สร้างรายได้ ทำธุรกิจหลากหลายรูปแบบ รวมถึงเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยลงทุนน้อยกว่าการทำธุรกิจในโลกกายภาพ

"แนวทางขยายพาร์ตเนอร์ของ Twin Planet จะไม่มีกำแพงกั้น เราเน้นที่ความต้องการหลากหลายของทุกคน ในระยะยาว เราจะตีโกลบอลโดยเริ่มที่โลคัลก่อน และจะเป็นวันสต็อปเซอร์วิส รองรับทั้งบุคคลธรรมดา องค์กร และนักลงทุน" 

Twin Planet Lifestyle Metaverse เปิดให้ใช้งานที่ twin-planet.com ตั้งแต่ 31 มีนาคม 65 ผู้ใช้เฟสแรกจะได้เห็นวิวเมืองปารีส บนถนนฌ็องเอลิเซ่ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อม 3 มิติที่นำร่องบนแพลตฟอร์มเสมือนจริง (Virtual Reality Platform) จุดเด่นของแพลตฟอร์มในมุมมองของทวิน แพลนเน็ต คือความครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เข้ามาศึกษาเพื่อเป็นทางรอดของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก Digital Disruption ขณะเดียวกัน ผู้คนทั่วไปจะได้ท่องเที่ยว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความบันเทิง

ฐิติรัตน์ เฮงสกุล และกมล จิราพงษ์
นายกมล จิราพงษ์ Chief Technology Officer ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแบบและระบบที่ทันสมัยบน Twin Planet Lifestyle Metaverse ว่าพัฒนาขึ้นบนงบประมาณ 20 ล้านบาท ความแตกต่างหลักจาก Metaverse อื่น คือ Twin Planet มีความสวยงาม เสมือนจริง มีสถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งภายในรวมทั้งโมเดล 3 มิติของสินค้า Twin Planet เน้นความละเอียดคุณภาพของงาน ขณะเดียวกัน ก็ผสานเทคโนโลยี Virtual Reality และ Games รวมถึงระบบ E-Market Place รองรับการซื้อขายสินค้า โดยรองรับเรื่องศิลปะ ความงาม และคุณภาพที่สร้างจุดเด่นให้เกิดประสบการณ์และอารมณ์ของผู้เข้าใช้งานได้อย่างน่าประทับใจ คาดว่าเฟสถัดไปจะพัฒนาโซน night life เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติ และทุกอย่างมีการควบคุมให้ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายบนแพลตฟอร์ม

“เราจะโฟกัสทีละเรื่อง จุดเด่นของ Twin Planet คือการควบคุมสภาพแวดล้อมของเราเอง เราออกแบบเองทั้งเมือง เป็นเมืองที่สวยในธีมเดียวกัน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เราแตกต่าง เราไม่ได้ขายพื้นที่จนทำให้ไม่สามารถควบคุมธีมได้ เราเลือกที่จะสร้างเมืองขึ้นมาและบิลด์ด้วยตัวเอง ช่วงปีแรกจะเน้นกลุ่มผู้ใช้ชาวไทยแล้วจึงขยายไปชาวต่างประเทศ ทุกอย่างมีการควบคุมให้ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย เชื่อว่าปลอดภัย และมั่นใจได้ ทุกอย่างสามารถคุยผ่านอวาตาร์”

เบื้องต้น Twin Planet ยังไม่มีนโยบายเพิ่มทุน แต่บริษัทจะเน้นสร้างรากฐานที่มั่นคงผ่านการ “ไม่ขายที่” และให้เช่าแทนเพื่อให้ได้ความสมจริง ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดคอมมูนิตีจริง ที่สามารถขายของจริงบน Twin Planet โดยขณะนี้มีพาร์ตเนอร์เจ้าใหญ่จะเข้ามาร่วมมือในการทำแฟชั่นโชว์ที่ Twin Planet แล้ว

ร้านค้าบน Twin Planet ที่ได้โชว์ความใกล้เคียงกับบรรยากาศของร้านที่มีอยู่จริง คือร้านเพชรอย่างเจมส์พาวิลเลียน ร้านดอกไม้มิสลิลลี่ ห้องเสื้อรพี Goodies อาหารสัตว์ส่งออก Twin Planet ยืนยันว่าทุกร้านจะมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง และล่าสุด Twin Planet กำลังร่วมมือพัฒนา NFT Gallery กับ Super Brain City และ 333 Art Gallery รองรับคนรักศิลปะ และเป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่ของผู้ที่มีศักยภาพด้านนี้ โดยการซื้อขายบน Twin Planet จะเริ่มทำได้ในช่วงพฤษภาคมปีนี้ เพราะปัจจุบันแพลตฟอร์มได้เชื่อมกับ SCB Payment Gateway ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินออนไลน์ที่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว ซึ่งในอนาคตเมื่อมีความชัดเจนจากภาครัฐในการเปิดให้ใช้ Crypto Currency ทางบริษัทฯ ก็พร้อมเชื่อมต่อระบบสู่ยุค Decentralize ต่อไป

จากปารีส เฟสต่อไปคือญี่ปุ่น และไทยในช่วงปลายปี
เป้าหมายของ Twin Planet ในปีแรกคือการทำยอดผู้ใช้ 1 ลัานบัญชี เชื่อว่าจะมีผู้ใช้จากหลายวงการ ทั้งไลฟ์สไตล์ ธุรกิจ และเอนเตอร์เทนเมนต์ การเข้ามาของผู้ใช้ทุกรายเชื่อว่าจะทำให้ Twin Planet มีรายได้ ทั้งจากการขายแบนเนอร์ในจุดถ่ายรูปและโฆษณา รวมถึงบริการสมัครสมาชิกอื่นๆ โดย Twin Planet มีจุดยืนเปิดกว้างเพื่อเชื่อมต่อกับ “เวิร์สอื่น” ในอนาคตด้วย

“ใน 1 ล้านคนนี้ เชื่อว่าจะทำรายได้ 100 ล้านบาทปี ต่อไปก็จะเพิ่มขึ้น ถ้าเข้าสู่เฟส 2 เราจะมีการเพิ่มดินแดนสัตว์เลี้ยง เชื่อว่าจะเติบโตเป็น 3 เท่าคือ 300-500 ล้านบาท ซึ่งถ้าระบบคงที่ การเพิ่มทุนกับนักลงทุนนั้นทำได้ไม่ยาก”

ร้านค้า Twin Planet จะเน้นร้านใหญ่ ทุกร้านเป็นภาพ 3D ที่มีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาหลักหมื่น-แสนบาท โดยร้านจะอยู่ได้ตลอดไปเพราะจะได้รับไฟล์ไปใช้กับรูปแบบอื่นได้ สินค้าของร้านสามารถกำหนดได้หลากหลายทั้งหลักร้อยหรือหลักพัน มีการเชื่อมกับมาร์เก็ตเพลส ด้านค่าเช่าร้านจะมีอัตราสูงกว่าตู้คีออสก์ที่มีอัตราค่าเช่าหลักพันบาท โดยนอกจากร้าน พันธมิตรสามารถเข้ามาตั้ง “ห้าง” บน Twin Planet ในราคาหลักแสนบาทได้

นายสุทธิพงษ์ วัฒนจัง (ชมพู ฟรุ๊ตตี้) Executive Creative Marketing ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ที่จะดึงดูดและขับเคลื่อนให้มีผู้ใช้บริการเข้ามาในโลกเสมือนจริง Twin Planet Lifestyle Metaverse ว่า Twin Planet เป็นโลกที่ไม่ต้องมีข้อจำกัด เช่น คนสามารถทำงานหลากหลายอาชีพ เช่น อาชีพจริงเป็นหมอ แต่ในโลกเสมือนสามารถเป็นพิธีกร นักร้อง หรือดีเจได้ Twin Planet จึงวางแผนจัดกิจกรรมความบันเทิง โดยเฉพาะการฟังดนตรี หรือ Street show ซึ่งทุกคนจะได้ร่วมงานในรูปแบบอวาตาร์ได้

"เรามีพื้นที่เปิดโอกาสให้คนแสดงความสามารถ ตั้งแต่การประกวดต่างๆ เช่น ประกวดร้องเพลง ประกวดนางงาม ประกวดนางแบบ รวมถึงคอนเสิร์ตที่สามารถจัดในรูปแบบใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม Twin Planet ได้"


กำลังโหลดความคิดเห็น