xs
xsm
sm
md
lg

Samsung ตอกย้ำภาพไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักของโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซัมซุง ย้ำภาพไทยเป็นฐานการผลิตแห่งแรกนอกเกาหลีใต้ พร้อมฉลองครบ 32 ปี ขับเคลื่อนธุรกิจในไทย มุ่งเป็นฐานการผลิตหลักเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงจาก 28 ประเทศทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนทั่วโลก

นายจุนฮวา ลี ประธานบริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ไทยซัมซุงดำเนินธุรกิจเคียงคู่ประเทศไทยมาแล้วกว่า 32 ปี นับเป็นบริษัทสาขาที่ดำเนินกิจการนอกประเทศเกาหลีใต้ยาวนานที่สุด

“การที่สามารถพัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคง เกิดขึ้นจากแรงสนับสนุนอย่างดีของคนไทย ทั้งจากผู้บริโภค พนักงาน พาร์คเนอร์ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนที่ให้ความไว้วางใจและมอบโอกาสให้เราเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และสัญญาจะขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความใส่ใจ ส่งเสริมพลังคน เดินหน้าสร้างคุณค่าบนรากฐานของความรับผิดชอบต่อสังคมไทย”

ตลอด 32 ปีที่ผ่านมา บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ (โรงงานศรีราชา) มีมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยรวมแล้วกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน แต่ที่มากไปกว่านั้น คือการสร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างรายได้หมุนเวียนสู่ 4,000 ครอบครัว รวมถึงพนักงานจากบริษัทคู่ค้าอีกกว่า 50,000 คนทั่วประเทศ พร้อมให้การสนับสนุนชุมชนทั้งในเชิงโครงสร้างและองค์ความรู้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างยั่งยืน 


ปัจจุบัน ไทยซัมซุงฯ ถือเป็นฐานการผลิตเครืองใช้ไฟฟ้ามีกำลังผลิตสูงสุดใน 28 ประเทศทั่วโลก และมีจำนวนประเภทสินค้า (SKU) มากที่สุด แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เตาอบ และเครื่องล้างจาน

โดยมีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 10 ล้านยูนิตต่อปี คิดเป็นสัดส่วนสินค้าส่งออกถึง 90% เรียกได้ว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงในครัวเรือนทั่วโลกถูกผลิตและส่งออกจากโรงงานแห่งนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มเตาอบและเครื่องล้างจานที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกเพียงรายเดียวในโลก


ในฐานะองค์กรใหญ่ ซัมซุงได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือพาร์ตเนอร์รายย่อยในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้ชัดในช่วงวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้ ที่ทางซัมซุงได้เข้าไปดูแลบริษัทคู่ค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง ช่วยเสริมกำลังทั้งในเรื่องบุคลากรและกระบวนการผลิต

พร้อมให้คำแนะนำด้านการจัดการในสถานการณ์โรคระบาด จึงทำให้ทุกภาคส่วนในระบบห่วงโซ่อุปทานสามารถจับมือเดินหน้าเอาชนะวิกฤตร่วมกันมาได้ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามค่านิยมหลักขององค์กร หรือ “Co-prosperity” ที่ซัมซุงยึดถือมาโดยตลอด ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งพัฒนาสู่ความเป็นเลิศอย่างไม่หยุดนิ่ง จึงทำให้บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ แห่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนธุรกิจเคียงคู่ประเทศไทยด้วยความใส่ใจตลอด 32 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น