TKC เดินหน้าเสนอขายไอพีโอ 78 ล้านหุ้น จ่อเคาะราคาขายภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ระดมทุนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการขยายธุรกิจ และงานบริการ ปักธงก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ครอบคลุมด้านโทรคมนาคม-ระบบสื่อสารข้อมูล ภายใน 3-5 ปี
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการนำ TKC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลังจากที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 78 ล้านหุ้น คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยปัจจุบัน สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) แล้ว คาดว่าจะสามารถสรุปและกำหนดราคาเสนอขายไอพีโอได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย.2564
ทั้งนี้ บริษัทมีบริการ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.โครงการรับเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Project หรือ งานโครงการ) ให้บริการรับเหมาออกแบบ วางระบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และบำรุงรักษางานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม (Telecommunications) ระบบสื่อสารข้อมูล (Data Communications) และระบบความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety)
2.งานบริการวิศวกรรมและงานบำรุงรักษา ให้บริการงานวิศวกรรมและบริการดูแลบำรุงรักษาระบบของงานโครงการต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้บริษัท ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประจำอยู่ที่ 20-25% และ 3.งานจัดจำหน่ายอุปกรณ์ โดยจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) โดยรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 5 ปี
สำหรับโครงสร้างรายได้ในงวด 6 เดือนแรกปี 2564 มาจากงานโครงการมากกว่า 70% รายได้จากงานบริการและบำรุงรักษากว่า 29% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากงานจัดจำหน่าย และสัดส่วนลูกค้าเป็นลูกค้าเอกชน 35-40% และลูกค้าภาครัฐ 60-65%
ขณะเดียวกัน บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจในโครงการเกี่ยวข้องกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ (Transmission Networks) ระบบศูนย์ข้อมูลหลักและศูนย์ข้อมูลสำรอง (Data Center) ระบบคลาวด์ (Cloud) ระบบ Smart Solutions ระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลและระบบตรวจสอบเฝ้าระวังและการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Security) รวมถึงงานบริการและบำรุงรักษาต่างๆ เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง
นายสยาม กล่าวว่า บริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญและชำนาญด้านการวางระบบเครือข่ายสื่อสารและเทคโนโลยี ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาออกแบบ วางระบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบงานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 18 ปี บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นธุรกิจหลักที่มีความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์การทำงานด้านรับเหมาการสื่อสารและโทรคมนาคม ทำให้เข้าใจอุตสาหกรรมเป็นอย่างดี เตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอนาคต มีระบบการควบคุมบริหารจัดการแต่ละส่วนงานอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ จากการเป็นผู้รับเหมามาก่อนทำให้บริหารต้นทุนได้ดีกว่าคู่แข่ง และการมีทีมวิศวกรที่มีทักษะ In-House ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ทั้งในแง่ความสามารถในการบริการและราคา รวมถึงมีการดูแลและการให้บริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจและความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่องทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น ไว้ใจและกลับมาใช้บริการ
ด้านผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-2563) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,669.65 ล้านบาท 4,907.25 ล้านบาท และ 2,881.92 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 216.50 ล้านบาท 423.03 ล้านบาท และ 232.85 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,374.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.52% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 152.62 ล้านบาท