ในปีที่ผ่านมา แอปเปิล (Apple) ได้ประกาศแผนความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 และหนึ่งในพื้นที่ที่แอปเปิล เข้ามาลงุทนทางด้านพลังงานสะอาดคือเกาะจิก ในประเทศไทย ที่นับเป็น 1 ใน 10 แห่งทั่วโลก
รายละเอียดเบื้องต้นคือ Apple เข้าไปมีส่วนในความร่วมมือเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนและแบตเตอรี่ที่ใช้เก็บพลังงานเพื่อให้สามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำพลังงานนั้นมาใช้แทนเชื้อเพลิงดีเซลที่ก่อให้เกิดมลภาวะในหมู่บ้านชาวประมงที่อยู่ห่างไกล ซึ่งมักต้องอาศัยตู้เย็นในการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ปลา
ด้วยการเข้าไปติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 90 kWp และแบตเตอรีที่ใช้เก็บพลังงาน ช่วยเพิ่มกำลังผลิตพลังงานสะอาดให้กับไมโครกริดแบบออฟกริดที่ชุมชนใช้งานอยู่ การอัปเกรดจะทำให้สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมๆ กับใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิงดีเซลที่ก่อมลพิษ มอบแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่เสถียรให้กับชุมชนที่มีสมาชิก 400 คนซึ่งอาศัยอยู่ใน 100 ครัวเรือน
ปัจจุบัน หมู่บ้านประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานเนื่องจากความจุ PV แสงอาทิตย์ไม่เพียงพอและแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ จนต้องใช้เครื่องปั่นไฟดีเซลเพื่อให้พลังงานเพิ่มเติม และเนื่องจากผู้อาศัยท้องถิ่นเกือบทั้งหมดเป็นชาวประมง ตู้เย็นจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อมอบความเย็นในการรักษาคุณภาพของปลาที่หาได้ ผู้อยู่อาศัยจะจ่ายค่าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นค่าธรรมเนียมที่ตกลงไว้ซึ่งน้อยกว่าพลังงานที่ได้จากเครื่องปั่นไฟดีเซล จึงช่วยให้เศรษฐกิจในชุมชนมีเงินเพิ่มขึ้นแทนที่จะใช้่จ่ายเพื่อนำเข้าพลังงานฟอสซิล
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดของแผนการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น Apple ได้ออกมาเปิดเผยว่า มีจำนวนซัพพลายเออร์ที่จะเข้าร่วมการใช้พลังงานสะอาด 100% เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปีที่ผ่านมา รวมเป็น 175 ราย ที่จะเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน
นอกจากนี้บริษัทและซัพพลายเออร์เหล่านั้น ยังจะนำพลังงานสะอาดมาใช้ทั่วโลกเพิ่มอีกมากกว่า 9 กิกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดการปล่อย CO2e ได้มากกว่า 18 ล้านเมตริกตันต่อปี เทียบเท่ากับการนำรถยนต์ออกจากท้องถนน 4 ล้านคันในแต่ละปี
Lisa Jackson ซึ่งเป็นรองประธานฝ่ายโครงการด้านสิ่งแวดล้อม นโยบาย และกิจกรรมทางสังคมของ Apple กล่าวว่า ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดกลับไม่มีปากมีเสียง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาเนิ่นนาน และควรเกิดการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว และเราก็ตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงนี้"
"โครงการใหม่ที่เราร่วมกันทำจะช่วยชุมชนเหล่านี้โดยการริเริ่มโครงการพลังงานหมุนเวียนใหม่ๆ ในท้องถิ่นเพื่อสร้างโลกที่ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นและเท่าเทียมกันมากขึ้น พร้อมกับยกระดับการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น"
