โมโตโรลา กลับมาโฟกัสตลาดไทยเป็นหนึ่งในคีย์มาร์เกตของภูมิภาคอาเซียน หลังผลงานปีที่ผ่านมาทำได้ดีเกิดเป้าหมายที่วางไว้ เดินหน้าจับเทรนด์สมาร์ทโฟน 5G ในราคาเข้าถึงได้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคทั้งกลุ่มสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต
ธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว กล่าวถึง ภาพรวมธุรกิจโมบายบิสิเนสของโมโตโรลา หลังจากที่เริ่มกลับมาทำตลาดอีกครั้งพบว่า ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทั่วโลก โดยคิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 90% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ส่วนในตลาดประเทศไทยที่เริ่มนำกลับมาทำตลาดในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยการร่วมมือกับโอเปอเรเตอร์อย่างทรู ช่วยให้โมโตโรลา เริ่มกลับมาชิงส่วนแบ่งในตลาดได้เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ จนทำให้ไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศหลักของภูมิภาคที่โมโตโรลาให้ความสำคัญ
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาในแง่ของการขาดแคลนชิปเซ็ตที่คาดว่าจะลากยาวไปถึงช่วงกลางปีหน้าทำให้ทีมงานทั้งธุรกิจมือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้สามารถนำสินค้าเข้ามาให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคในไทยได้ ซึ่งมั่นใจว่าทั้งเลอโนโว และโมโตโรลาจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในปีนี้
สุภมาส บุญประมุข ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเลอโนโว โมบาย บิสซิเนส กรุ๊ป ประจำไทย ให้ข้อมูลถึงการทำตลาดโมโตโรลา ในประเทศไทยว่า มีการแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย จาก 2 กลุ่มหลักๆ คือกลุ่ม Moto Smart Value ที่เน้นความคุ้มค่า จาก moto G ซีรีส์ และ moto E ซีรีส์ อีกกลุ่มคือ motorola Premium ที่มีรุ่นหลักอย่าง razr เพิ่มเติมด้วย motorola edge เข้ามาเสริม
กลยุทธ์ของธุรกิจมือถือในเวลานี้ คือ ปรับเหลือสมาร์ทโฟนแบรนด์เดียวในการลงทุน และการทำตลาดด้วยการนำ 5G มาชูโรง เน้นการสร้างการรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมไปกับการสร้างแบรนด์จากหน้าร้านด้วยการเข้าไปทำงานร่วมกับช่องทางจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั้งออนไลน์ และออฟไลน์
สำหรับสมาร์ทโฟนที่โมโตโรลานำเข้ามาเสริมเพื่อทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ ประกอบไปด้วย motorola edge 20 pro สมาร์ทโฟนกล้อง 108 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้างที่สามารถจับภาพระยะมาโคร และเลนส์เทเลโฟโต้ให้ซูมได้ 5 เท่า รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 8K
โดยมีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว OLED รองรับการแสดงผลสีระดับ 10 บิต HDR 10+ 144 Hz รองรับการเชื่อมต่อ 5G และ WiFi 6 ทำงานบนชิปเซ็ต Snapdraon 870 5G พื้นที่เก็บข้อมูลตัวเครื่อง 256 GB RAM 12 GB รองรับชาร์จเร็ว TurboPower 30 ชาร์จ 10 นาทีใช้งานได้ต่อเนื่อง 9 ชั่วโมง
ถัดมาคือ motorola edge 20 fusion หน้าจอ OLED 6.7 นิ้ว 90 Hz แต่ปรับมาใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U 5G RAM 8 GB ROM 128 GB แบตเตอรี่ 5000 mAh และ moto g50 5G หน้าจอ 6.5 นิ้ว กล้อง 48 ล้านพิกเซล ทำงานบน MediaTek Dimensity 700 5G
ทั้งนี้ motorola edge 20 PRO ราคาเปิดตัว 17,999 บาท motorola edge 20 fusion ราคา 10,999 บาท วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ตุลาคม 2021 ส่วน moto g50 5G วางจำหน่ายแล้วในราคาที่ 7,499 บาท
***เสริมตลาดแท็บเล็ตด้วย Lenovo Tab
อีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในเวลานี้หนีไม่พ้นแท็บเล็ต ที่มารองรับการใช้งานทั้งความบันเทิง ใช้เรียน และเล่นอินเทอร์เน็ต โดยเลอโนโว ได้ร่วมมือกับ CSC และ TG Fone นำเข้าแท็บเล็ตเลอโนโวมาทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ
สำหรับผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตที่เปิดตัวจะมีทั้ง Lenovo Tab P11 Plus, Lenovo Tab P11 5G, Lenovo Tab M7 (3rd Gen), Lenovo Tab M8 (2rd Gen) และ Lenovo Tab M10 FHD (2nd Gen) มีทั้งรุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว จนถึงแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว เพื่อใช้งานในครอบครัว ทำตลาดในช่วงราคา 3,690-15,990 บาท
