xs
xsm
sm
md
lg

iPrice เปิดเคล็ดลับสู้โควิดด้วย 'Facebook Ads' เปลี่ยนให้ธุรกิจรุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่เราต้องอยู่ร่วมกับการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งสถานการณ์ดูไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น แม้หลายคนจะเริ่มได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม ส่งผลให้เศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศทรุดตัวลง ยิ่งในช่วง Lockdown (ล็อกดาวน์) บรรดาพ่อค้าแม่ขายถือเป็นกลุ่มหลักๆ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุให้การตลาดออนไลน์ผ่าน Facebook Ads เฟื่องฟูขึ้น มีข้อมูลงานวิจัยปี 2020 จาก eMarketer ชี้ว่าการทำการตลาดผ่าน Facebook Ads สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้กว่า 59%

การทำการตลาดผ่าน Facebook Ads เป็นหนึ่งใน Digital Marketing ซึ่งมีหลายปัจจัยยิบย่อยที่ต้องคำนึงเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด เข้าถึงผู้ซื้อมากที่สุด รวมไปถึงประหยัดงบไปในตัวด้วย ซึ่ง iPrice Group บริษัทวิจัยตลาดได้ร่วมมือกับ Team Digital สถาบันจัดอบรมการตลาดออนไลน์ในประเทศไทยเพื่อเผยข้อมูลการยิง Facebook Ads ที่มือใหม่หัดยิงควรรู้ รวมไปถึงกลเม็ดเคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยให้ผู้ค้ายุคโควิดจับลูกค้าออนไลน์ได้อยู่หมัดกว่าเดิม ดังนี้

ข้อมูลควรรู้ก่อนยิง Facebook Ads


ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการโปรโมตโพสต์บน Facebook กับการทำโฆษณาบน Facebook หรือที่เรียกกันว่า Facebook Ads นั้นแตกต่างกัน และก็มีวิธีลงทุนต่างกันด้วย

เริ่มจากการโปรโมตโพสต์บน Facebook ที่คุณสามารถทำได้โดยเลือกโพสต์ที่ต้องการโปรโมต และกดเลือก Boost Post จากนั้นก็กำหนดเป้าหมายและจ่ายเงินค่าโปรโมต เป็นวิธีดั้งเดิมที่ได้ผลลัพธ์น้อยกว่าการสร้างบัญชีโฆษณา Facebook Ads ที่จะต้องผ่านตัวจัดการโฆษณาซึ่งมีลูกเล่นเหนือชั้นกว่าเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้มากที่สุด และนอกเหนือจากโปรโมตบนหน้าฟีด Facebook ปกติแล้ว ยังสามารถเลือกตำแหน่งให้ขึ้นโปรโมตในหลายๆ พื้นที่ เช่น ด้านข้างฟีด Facebook, โฆษณาบน Messenger, Instagram Stories, Instant Articles และ Audience Network เป็นต้น โดยจะมีงบประมาณการยิง Facebook Ads แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ต่อวัน $1 หรือประมาณ 32 บาท และต่อแคมเปญแบบตั้งล่วงหน้าซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วจะไม่ต่ำกว่างบประมาณแบบต่อวัน

หลักๆ แล้ว การยิง Facebook Ads จะมีประโยชน์ดังนี้

เพิ่มการรับรู้ของธุรกิจ : ทั้งธุรกิจที่เปิดใหม่ หรือเปิดมานานแล้วแต่ต้องการขยายการรับรู้ของแบรนด์ พร้อมโปรโมตสินค้าใหม่ๆ ไปในตัว

เพิ่มการเข้าชมเนื้อหาบนเพจ : ยิ่งจำนวนผู้กดไลก์เพจมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เพจได้มากเท่านั้น และยังมีผลพลอยได้เป็นการเข้าถึงเว็บไซต์ หรือร้านค้าออฟไลน์อีกด้วยหากคุณมีการใส่ข้อมูลเหล่านี้ไว้ในเพจ

เพิ่มคอนเวอร์ชัน : เช่น เพิ่มรายได้ ยอดขาย หรือแม้กระทั่งยอดสมัครสมาชิก (ถ้ามี) อย่างน้อยหากลูกค้าสนใจ แม้จะไม่สั่งซื้อสินค้าในทันที แต่ส่วนใหญ่ก็จะกดไลก์ และติดตามข่าวอัปเดตของเพจเพื่อการสั่งซื้อในอนาคต

สำหรับมือใหม่หัดยิง Facebook Ads อาจต้องเจอปัญหาหลายอย่างที่ต้องคอยสอบถามกับเจ้าหน้าที่อยู่เสมอ และปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือ การยิงโฆษณาพร้อมจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ถือเป็นปัญหาที่ผู้ยิงต้องตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียดก่อนไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ โดยจะมี 2 กรณีหลักๆ ด้วยกัน คือ

เคยยิงมาก่อน ข้อมูลคล้ายคลึงกับแบบเดิม ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้เข้าข่ายละเมิดนโยบายก็สามารถยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและอนุมัติได้เลย

ไม่เคยยิงมาก่อน หรืออาจเคยยิงแต่ได้รับอนุมัติเป็นครั้งคราว ต้องแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลการละเมิดนโยบายดีๆ โดยเฉพาะหากเข้าข่ายเป็นเพจสายเทา หรือเสนอสินค้าผิดกฎหมาย ควรลบโฆษณาทิ้ง และทางที่ดีไม่ควรติดต่อสอบถามกับพนักงาน เพราะอาจโดนปิดเพจได้

ปัจจัยที่ทำให้ Facebook Ads แสดงผลลัพธ์ได้ถึงขีดสุด


เมื่อลงทุนจ่ายเงินไปแล้วก็ต้องอยากได้ผลลัพธ์ดีๆ กลับมาเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเจ้าของธุรกิจ แม้ Facebook Ads จะช่วยเพิ่มยอดขาย และเพิ่มการรับรู้แบรนด์ให้ได้ แต่เจ้าของเพจก็ต้องวางแผนจัดการบริหารเพจให้ดีด้วย หลักๆ จะมี 5 ข้อที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้

อย่าลงเพจน่าเบื่อ : แม้เนื้อหาโฆษณาจะดูน่าสนใจ แต่ร้อยทั้งร้อยผู้คลิกก็มักเข้ามาส่องความเป็นไปภายในเพจก่อนกดไลก์ กดติดตาม หรือสั่งซื้อสินค้า หากลงเพจน่าเบื่ออาจมีคนเผลอคลิกเข้ามาแล้วก็ออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มคอนเวอร์ชันให้เพจแต่อย่างใด

อย่าตั้งระบบตอบลูกค้าอัตโนมัติ (Robot) : หากไม่มีแอดมินดูแลเพจตลอด 24 ชั่วโมง อาจตั้งเป็นข้อความต้อนรับ แนบโปรโมชัน หรือแจ้งช่วงเวลาทำการได้ แต่ไม่ควรใช้ Robot ตอบทั้งหมด ปกติคนทั่วไปจะต้องการสนทนากับคนจริงๆ หากตอบโดย Robot ลูกค้าจะเริ่มกังวลว่าอาจไม่ได้รับการบริการดีเท่าที่ควร และส่วนใหญ่ก็จะออกจากแชตเพื่อตัดปัญหาแล้วไปซื้อเจ้าอื่นที่มีแอดมินซึ่งเป็นคนจริงๆ ตอบ หากเป็นแบบนี้การยิง Facebook Ads ก็จะสูญเปล่า

อย่ายิง Facebook Ads แบบหลอกให้คลิก : เพราะคลิกเข้ามาได้ ก็ออกไปได้เช่นกัน ลูกค้าบางคนพอรู้ตัวว่าโดนหลอกให้คลิกอาจไม่พอใจกดรายงาน (Report) เพจอีกต่างหาก

อย่าตอบช้า : ชาวโซเชียลล้วนชื่นชอบความเร็วในการโต้ตอบ ไม่เช่นนั้นคงเลือกค้นหาข้อมูลผ่าน Google แล้วอีเมลสอบถามกับเว็บไซต์และรอการตอบกลับไปแล้ว เมื่อเลือกที่จะลงทุนกับ Facebook Ads ก็ควรตั้งแอดมินเพจเพื่อการตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วย

อย่าใช้ภาพสวยงามเกินจริง : กรณีเดียวกับหลอกให้คลิก หากสวยงามเกินไป แม้จะหลอกขายได้ แต่ก็ต้องยอมรับการรีวิวแย่ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้าท่านอื่นในอนาคตด้วย ทางที่ดีควรถ่ายจากรูปสินค้าจริง ใช้การรีวิวจริงๆ จะมัดใจลูกค้าได้มากกว่า

นานาคำถามที่ผู้ยิง Facebook Ads มือใหม่กำลังหาคำตอบ


สำหรับผู้ยิง Facebook Ads มือใหม่ก็ดี หรือผู้ที่กำลังพัฒนาฝีมือก็ตาม ที่ต้องระวังเป็นพิเศษมักเป็นข้อมูลด้านการชำระเงินซึ่งส่วนใหญ่ล้วนกลัวการโดนแฮก หรือกลัวลงทุนเกินงบโดยบังเอิญ หลักๆ แล้วการชำระเงินเพื่อสร้างโฆษณากับ Facebook Ads จะมี 3 ช่องทางด้วยกัน ดังนี้

บัตรเครดิต : ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลาดำเนินการชำระเงินหลายๆ ครั้ง ประหยัดเวลาอย่างมากสำหรับผู้ที่ตั้งงบเป็นรายวัน แถมยังได้ Cash Back หรือสะสมแต้มได้อีกตามเงื่อนไขของบัตร แต่มีข้อเสียคือง่ายต่อการถูกแฮกมากที่สุด

บัตรเดบิต : เป็นวิธีชำระเงินที่ได้รับการแนะนำว่าปลอดภัยที่สุดแล้วสำหรับการยิง Facebook Ads ช่วยประหยัดเวลาได้เหมือนบัตรเครดิต แต่ป้องกันความเสียหายจากการโดนแฮกสูง ถ้าโอนเงินเข้าบัตรยอดใกล้เคียงกับงบการลงทุนก็ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดจากการโดนแฮก

PayPal : ทำงานคล้ายบัตรเดบิต แต่หากเกิดข้อผิดพลาดอาจขอเงินคืนได้ยาก เพราะสำนักงานใหญ่อยู่ต่างประเทศ การดำเนินการอาจล่าช้าและยุ่งยากกว่า

นอกจากนี้ ยังมีขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ ที่ผู้ยิง Facebook Ads สามารถกระทำได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาสอบถามเจ้าหน้าที่ เช่น วิธีกำหนดกลุ่มเป้าหมาย วิธีเผยแพร่โฆษณาไปยังหน้าเพจ วิธีเปลี่ยนเนื้อหาโฆษณาหลังได้รับการอนุมัติ และส่งคำขอตรวจสอบบัญชี เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น