การศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญของสังคมไทย และเป็นกลไกในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เมื่อโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่ยุคสังคมดิจิทัลทำให้การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว ส่งผลให้การศึกษาต้องปรับตัว การนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนการศึกษา จะช่วยเปิดโอกาสให้เด็กในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงระบบการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำและเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น
ทรู 5G พร้อมนำอัจฉริยภาพ 5G สนับสนุนภาคการศึกษาไทย จึงร่วมกับ Huawei ASEAN Academy และ Techsauce จัดงานสัมมนา 5G พลิกโฉมประเทศไทย “True 5G Tech Talk” ในหัวข้อ “Education” ผ่าน True VROOM พร้อมถ่ายทอดสดที่ทรูไอดี โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมด้านการศึกษาร่วมเปิดมุมมองในการนำเทคโนโลยี 5G มาช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา พร้อมอัปเดตเทรนด์การศึกษาไทยยุค 5G
การศึกษาในยุค 5G ต้องปรับตัว
ดร.เดวิด กาลิเปอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท SDGx และผู้อำนวยการบริษัท Yunus Center Near Future lab องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทำวิจัยด้านเทคโนโลยีที่มีผลกระทบต่อสังคม กล่าวว่า ระบบการศึกษากำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่จากการแพร่ระบาดของไวรัส นักเรียนจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ เทคโนโลยีจึงเข้ามาช่วยเสริมภาคการศึกษาให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งปัญญาประดิษฐ์ และประมวลผลแบบคลาวด์ การศึกษาจะไม่ได้ถูกจำกัดเพียงแค่นักเรียน นักศึกษาเท่านั้น แต่วัยทำงานและคนทั่วไปก็ต้องเพิ่มทักษะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ การปรับตัว เพื่อจะเรียนรู้และรับมือกับความเปลี่ยนแปลง มนุษย์ควรมีทักษะที่หลากหลาย พัฒนาตัวเองทั้งในแง่ของการศึกษา และทักษะอื่นๆ เพราะในอนาคตหุ่นยนต์จะถูกพัฒนาให้มาทำงานแทนมนุษย์ได้ทุกอย่าง
เรียนออนไลน์สนุกได้ด้วย 5G
การนำเทคโนโลยี 5G เข้ามาช่วยยกระดับด้านการศึกษานั้น ดร.เดวิด กล่าวว่า เทคโนโลยี 5G จะเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง ทั้งการสร้างหุ่นยนต์ การพัฒนาด้าน Smart City รวมถึงการพัฒนาการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมให้มีการเรียนตามความต้องการเฉพาะบุคคลช่วยให้เกิดการเรียนรู้ในทุกที่ ทุกเวลา ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ นอกจากนี้ 5G ยังช่วยเอื้อให้การเรียนออนไลน์เป็นไปได้สะดวก สนุก และล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เติมเต็มความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียนที่หายไป เช่น การใส่แว่น VR ที่ช่วยให้เห็นห้องเรียนแบบเสมือนจริงในวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้เรียน 5G จึงเป็นการปฏิสัมพันธ์แบบ 2 ทางที่ทุกคนต้องเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงใน 5 ปีต่อจากนี้
live-long-learning เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
เมื่อพูดถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ หรือ EdTech ในประเทศไทย หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคย ซึ่ง ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านความเป็นเลิศทางธุรกิจและการศึกษา บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า เทคโนโลยีได้เปลี่ยนโลกของการเรียนรู้ไปอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้จะไม่จำกัดเพศและวัย เรียนรู้ได้ตลอดชีวิตแบบ live-long-learning ไม่ยึดติดแค่ในห้องเรียน โดย 5G เข้ามาเชื่อมต่อในด้านการศึกษา ทำให้ความรู้กระจายไปในพื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น เข้าถึงข้อมูลได้เร็วขึ้น มีการพัฒนาด้านคอนเทนต์และเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยกลุ่มทรู ได้นำเทคโนโลยีมอบให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ผ่านโครงการทรูปลูกปัญญา และได้พัฒนาเพิ่มช่องทางต่างๆ ทั้งแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือ School tour เป็นต้น เพื่อสร้างระบบนิเวศที่อยู่ใกล้ตัวทั้งครูผู้สอนและเด็กนักเรียน รวมถึงโครงการ CONNEXTED ที่ภาคเอกชนร่วมกับภาครัฐขับเคลื่อนการพัฒนาด้านการศึกษา เพื่อผลิตเด็กไทยให้เป็นเด็กดีและเด็กเก่ง เรายังมองว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการมอบเทคโนโลยีทางการศึกษา คือ กระบวนการการนำไปใช้ที่ดีและถูกต้อง ซึ่ง ICT Talent ผู้นำเทคโนโลยีด้านการศึกษาที่ดูแลในแต่ละโรงเรียน จะช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้ และแนะนำกระบวนการการนำเทคโนโลยีไปใช้ได้อย่างถูกต้องและเกิดประโยชน์สูงสุด
5G เสริมสร้างจินตนาการในการเรียนรู้
ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารบริษัท StartDee แอปพลิเคชันด้านการศึกษาครบทุกวิชาหลัก กล่าวถึง EdTech ในภาพรวมว่า เทคโนโลยีช่วยเสริมทั้งการเรียนรู้ภาคบังคับตามหลักสูตรในห้องเรียน และการเรียนรู้นอกหลักสูตร นอกห้องเรียนหรือนอกระบบ อย่างการ upskill และ reskill การเข้าสู่สังคมสูงวัย เป็นอีกเหตุผลที่ควรให้ความสำคัญในเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาทางการศึกษา อินเทอร์เน็ตคือกุญแจสำคัญสู่การเข้าถึงการเรียน เทคโนโลยี 5G มีความเร็วมากขึ้นก็จะช่วยเสริมสร้างจินตนาการใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น StartDee ต้องการช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงการศึกษาที่ดี ทำลายกำแพงทั้งเรื่องของคุณภาพการศึกษา ความเหลื่อมล้ำ และการหาความรู้นอกห้องเรียนจากการเรียนพิเศษ โดยทำให้การศึกษาที่ดีอยู่ในสมาร์ทโฟน ครบทุกหลักสูตรในแอปเดียว ทั้งยังนำเทคโนโลยีมาสร้างการเรียนรู้ให้สนุก ไม่น่าเบื่อ รวมถึงการใช้ AI เข้ามาประเมินผล พร้อมปรับให้เข้ากับการเรียนของนักเรียนแต่ละคนแบบ personalized มากขึ้น