กรุงเทพฯ 30 กรกฎาคม 2564 – สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เผยผลการประเมินคุณภาพภายนอกในรอบปี 2564 ประเมินเสร็จสิ้นแล้วกว่า 13,003 แห่ง พร้อมพบว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน โดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนรู้ที่ต้องมีรูปแบบและกิจกรรมใหม่ ๆ นอกจากนี้ ยังเดินหน้าประเมินต่อเนื่องโดยในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 กำลังอยู่ในช่วงการประเมินเพิ่มอีก 8,330 แห่ง และคาดว่าหลังจบการประเมินรอบปี 2564 จะสามารถรับรองผลการประเมินคุณภาพภายนอกให้สถานศึกษาได้ 21,333 แห่ง ซึ่งมากกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้กว่า 20%
ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า การประเมินคุณภาพภายนอกในรอบปี 2564 (ตุลาคม 2563 -กันยายน 2564) ซึ่งเป็นการประเมินภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ด้วยรูปแบบการประเมินแบบออนไลน์ 100% ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างมาก โดยสามารถประเมินคุณภาพภายนอกและรับรองผลให้แก่สถานศึกษาการศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อนุบาล 1-3 และประถมศึกษา-มัธยมศึกษา) และด้านการอาชีวศึกษาได้แล้วจำนวน 13,003 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มี 3,825 แห่ง เป็นสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินและมีการรับรองผลการประเมินคุณภาพภายนอกเสร็จเรียบร้อยทั้ง 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การประเมินและวิเคราะห์รายงานผลการประเมินตนเอง (SAR) และระยะที่ 2 การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหรือการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลของสถานศึกษาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ (Site Visit Online) ซึ่ง สมศ.ได้แจ้งผลการประเมินไปยังสถานศึกษาเรียบร้อยแล้ว และมีสถานศึกษาจำนวน 9,178 แห่ง ที่ประเมินระยะที่ 1 และได้รับการรับรอง โดยคณะกรรมการ สมศ. เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลผลการประกันคุณภาพของสถานศึกษาในการศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อนุบาล 1-3 และประถมศึกษา-มัธยมศึกษา) และด้านการอาชีวศึกษา ที่เข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกในระยะที่ 1 การประเมินและรายงานผลการประเมินตนเอง (SAR) จำนวนรวมทั้งสิ้น 12,404 แห่ง ซึ่งมีการประเมินผลตามรายมาตรฐานโดยมีระดับคุณภาพ 3 ระดับ ได้แก่ ดี พอใช้ ปรับปรุง ดังนี้ พบว่าส่วนใหญ่ของสถานศึกษามีผลประเมิน “ด้านผู้เรียน” อยู่ที่ระดับคุณภาพ “ดี” รายละเอียดดังนี้
•การศึกษาปฐมวัย (ศูนย์พัฒนาเด็ก) มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมินจำนวนทั้งสิ้น 4,540 แห่ง พบว่าสถานศึกษา พบว่ามีผลการประเมินด้านคุณภาพของเด็กปฐมวัย อยู่ในระดับดีจำนวน 3,307 แห่ง คิดเป็น 73%
•ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (อนุบาล 1-3 และประถมศึกษา-มัธยมศึกษา) มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมินจำนวน 7,526 แห่ง พบว่ามีผลการประเมินด้านคุณภาพของเด็ก/ผู้เรียน อยู่ในระดับดีจำนวน 7,034 แห่ง คิดเป็น 93%
•ด้านการอาชีวศึกษา มีสถานศึกษาเข้ารับการประเมินจำนวน 338 แห่ง มีผลการประเมินด้านคุณลักษณะของผู้สำเร็จการศึกษาอาชีวศึกษาที่พึงประสงค์ อยู่ในระดับดีจำนวน 277 แห่ง คิดเป็น 82%
“ตัวเลขข้างต้นสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้สอน ผู้เรียน และภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ต่างให้ความสำคัญกับการร่วมมือพัฒนาสถานศึกษา - เพื่อให้การเรียนการสอนให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นและเห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ สถานศึกษาหลายแห่งมีการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในชั้นเรียนต่างจากการประเมินในรอบที่ผ่านมา ด้วยการประยุกต์ใช้กระบวนการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด แต่ได้เห็นถึงแผนงานและเป้าหมายที่แต่ละสถานศึกษาจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
ดร.นันทา กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับการประเมินคุณภาพภายนอกในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 สมศ. ได้มีการวางแผนการทำงานให้เกิดความต่อเนื่องจากการประเมินในครึ่งปีแรก โดยในเดือนสิงหาคม 2564 กำลังอยู่ในขั้นตอนของการประเมินผลจากการวิเคราะห์ SAR เพิ่มอีกจำนวน 8,330 แห่ง ซึ่งคาดว่าผู้ประเมินภายนอกจะทำการวิเคราะห์เสร็จสิ้นและส่งกลับมายัง สมศ. ได้ภายในช่วงกลางเดือนกันยายน 2564 ดังนั้นในรอบการประเมินปี 2564 ที่จะสิ้นสุดในเดือนกันยายนนี้ จะทำให้ สมศ. สามารถประเมินและรับรองผลการประเมินคุณภาพภายนอกให้แก่สถานศึกษา ทุกระดับทั่วประเทศได้มากถึง 21,362 แห่ง ซึ่งมากกว่าเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ที่ 17,000 แห่ง กว่า 20% นอกจากนี้ สมศ. ยังคงดำเนินการส่งเสริมสถานศึกษาทุกระดับที่มีจำนวนกว่า 61,000 แห่งในรูปแบบออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานศึกษาเข้าใจถึงแนวทางการประเมินรูปแบบใหม่ผ่าน “โครงการส่งเสริมสถานศึกษาและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์ COVID-19” โดยมีกิจกรรมส่งเสริมผ่านการส่งเอกสารให้สถานศึกษาดาวน์โหลดด้วยแสกนคิวอาร์โค๊ดเพื่อศึกษาแนวทางการประเมินของ สมศ. การจัดทำอินโฟกราฟิก และคลิปวีดิโอสั้นๆ เกี่ยวกับการประเมิน และรูปแบบการประเมิน เพื่อให้สถานศึกษาเข้าใจได้ง่าย ตลอดจนการจัดโครงการส่งเสริมฯ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กไลฟ์ของ สมศ. ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประเมิน สถานศึกษา ต้นสังกัดเข้ารับชมพร้อมกันเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในบทบาทของแต่ละฝ่าย และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรม เป็นกลาง โปร่งใสในการประเมินภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ที่ผู้ประเมินกับผู้รับการประเมิน ได้ทราบว่าผู้ประเมินจะประเมินอะไรและผู้ถูกประเมินต้องปฏิบัติตัวอย่างไรอีกด้วย
“ทั้งนี้ ในส่วนของสถานศึกษาที่ได้รับการประเมินคุณภาพภายนอกไปแล้วนั้น ขอให้นำข้อเสนอแนะที่ได้รับจาก สมศ. ในด้านต่าง ๆ ไปปรับใช้เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาต่อไป และสำหรับสถานศึกษาที่ยังไม่ได้รับการประเมินหรืออยู่ในกระบวนการประเมินนั้น สมศ. ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ต้องกังวลว่าการประเมินคุณภาพภายนอกจะสร้างภาระเพิ่มเติมให้ เพราะการประเมินจะดำเนินการตามบริบทของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา โดยจะพิจารณาจาก SAR ที่สถานศึกษาส่งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเท่านั้น และในการประเมินแต่ละครั้ง สมศ. จะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานต้นสังกัดก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ ฉะนั้นขอให้สถานศึกษามั่นใจว่าการประเมินของ สมศ. เป็นไปเพื่อการให้ข้อเสนอแนะในการพัฒนาสถานศึกษานั้นๆ ให้ดียิ่งขึ้น”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 0-2216-3955 หรือเข้าไปที่ www.onesqa.or.th
สำหรับการประเมินในปี 2564 สมศ.ได้ดำเนินการประเมินภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยมีรูปแบบการประเมิน 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การประเมินและวิเคราะห์รายงานผลการประเมินตนเอง (SAR) และระยะที่ 2 การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหรือการตรวจสอบหลักฐานและข้อมูลของสถานศึกษาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ (Site Visit Online) และสมศ. ได้เน้นย้ำให้ผู้ประเมินดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้แนวทางการทำงานแบบ “กัลยาณมิตร” โดยไม่สร้างภาระเพิ่มเติมแก่สถานศึกษา ประเมินตามสภาพบริบทของสถานศึกษารวมทั้งให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เพื่อให้สถานศึกษาสามารถนำข้อเสนอที่ได้ไปพัฒนาและเพิ่มศักยภาพแก่ผู้เรียน ซึ่งเป็นการประเมินเพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของสถานศึกษา และผู้เรียนอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ สมศ. ยังได้ดำเนินการส่งเสริมสถานศึกษาทุกระดับที่มีจำนวนกว่า 61,000 แห่งในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สถานศึกษาเข้าใจถึงแนวทางการประเมินรูปแบบใหม่ผ่าน “โครงการส่งเสริมสถานศึกษาและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์ COVID-19” โดยมีกิจกรรมส่งเสริมแบบออนไลน์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมให้ความรู้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ของ สมศ. พร้อมเปิดโอกาสให้สถานศึกษาสอบถามรายละเอียดในขั้นตอนการประเมินผ่านช่องทางดังกล่าว นอกจากนี้สถานศึกษายังสามารถดาวน์โหลดเอกสารและข้อมูลสำคัญหรือรับชมVDO ย้อนหลังโดยการแสกน QR Code หรือเข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊ก สมศ.ที่ https://www.facebook.com/onesqa ได้ทันที