ภาพของบริการทางการเงินยุคใหม่ที่เกิดจากการนำข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์มือถือ มาเป็นส่วนหนึ่งในการอนุมัติการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลเริ่มชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่ดีแทค ออกมาประกาศความร่วมมือกับ LINE BK และ KBTG ในการเชื่อมต่อระบบ และลูกค้าที่มีความต้องการใช้งานสินเชื่อส่วนบุคคลให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น
ที่ผ่านมา ดีแทคปลุกปั้นบริการอย่าง ‘ใจดี’ มาให้ลูกค้าเติมเงินใช้งาน อย่าง ‘ใจดีให้ยืมเน็ต’ ให้ยืมเน็ตใช้งาน 24 ชั่วโมง ‘ใจดีให้ยืม’ ให้ลูกค้ายืมค่าโทร.ฉุกเฉิน ‘ใจดีโอนให้’ โอนค่าโทร.ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัว ‘ใจดีแจกวัน’ สำหรับลูกค้าที่วันใกล้หมดขอวันเพิ่มในราคาประหยัดได้
จนถึงล่าสุด บริการ ‘ใจดีช่วยค่ายา’ ที่สามารถนำคูปองจากดีแทคไปใช้รับส่วนลดที่ร้านขายยา ช่วยคนไทยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายบางส่วนตามร้านขายยาที่ร่วมโครงการทั่วประเทศ โดยในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ดีแทคได้เข้าไปดูแลลูกค้าที่ใช้บริการใจดีกว่า 140 ล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นและสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
ฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จํากัด (มหาชน) หรือดีแทค ระบุถึงแนวโน้มการใช้งานของบริการใจดีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริการใจดีให้ยืมที่ให้ลูกค้ายืมค่าโทร. ค่าเน็ต เมื่อต้องการติดต่อสื่อสารฉุกเฉิน แต่อาจจะไม่มีเงิน หรือมีเงินไม่พอ ที่เพิ่มขึ้นถึง 18% ในช่วงปี 2021
‘ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งสะท้อนมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้โดยมีการปรับลดอัตราการเติบโตของจีดีพีในประเทศเหลือ 1.8% เท่านั้น และคนไทยหลายคนได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลง หรือสูญเสียรายได้ไป’
ขณะเดียวกัน พบว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้าได้เผชิญภาวะตึงเครียดทางด้านการเงิน การจัดการค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสม และถูกกฎหมายได้ รวมถึงขาดความรู้ ความเข้าใจ จากการที่มีรายรับเป็นวัน ไม่มีงานประจำ ทำให้เป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ถูกต้องเหมาะสม
โดยเฉพาะลูกค้าดีแทคเติมเงินที่มีรายได้เป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์ ซึ่งมีความไม่แน่นอนทางการเงินสูง รวมทั้งไม่มีเอกสารทางการเงินอย่างเป็นทางการ จนถึงไม่มั่นใจในการติดต่อสถาบันการเงิน ความกลัวที่จะได้รับการปฏิเสธ และที่ท้าทายที่สุดคือการเข้าถึงดิจิทัล ซึ่งดีแทค พบว่า มีลูกค้าเพียง 56% เท่านั้นที่มีการใช้งานแอปพลิเคชันโมบาย แบงกิ้ง
ที่ผ่านมา ดีแทคสร้างประสบการณ์เชื่อมต่อที่ง่าย สะดวก และคุ้มค่า จนก่อให้เกิดอัตราเร่งสู่ดิจิทัล ในการใช้งาน dtac app ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางในการเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ ของทางดีแทค โดยเฉพาะบริการใจดีที่เข้าไปดูแลลูกค้าทั้งใจดีให้ยืม และใจดีช่วยค่ายา ที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมา
ประกอบกับบริการใจดีให้ยืม ที่ลูกค้าดีแทคทุกคนสามารถเข้าใจได้ง่าย ช่วยทำให้ลูกค้าเข้าถึงการเงินที่เหมาะสม ในระดับดอกเบี้ยที่เหมาะสม จนกลายเป็นเงินด่วนอนุมัติไวขั้นพื้นฐานจากการยืมค่าโทร. ค่าเน็ตต่างๆ พร้อมกับปลูกฝังให้เข้าสู่การใช้งานดิจิทัลไปด้วย
จึงก่อให้เกิดบริการใหม่อย่าง ‘ใจดี มีวงเงินให้ยืม’ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง LINE BK และ KBTG บนความเชื่อที่ว่าผู้บริโภคที่ใช้โทรศัพท์สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่ปลอดภัยได้ และจะสร้างจุดเปลี่ยนให้ลูกค้า และสังคม
‘บริการใหม่นี้จะทำให้การกู้ยืมเงินง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ที่ต้องการสินเชื่อสามารถเข้าถึงแหล่งบริการทางการเงินที่ดี ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุสมผล ตรงต่อความต้องการของลูกค้า โดยตัดขั้นตอนการขออนุมัติสินเชื่อแบบเดิมๆ ที่ต้องใช้เอกสารมากมายออกไป และใช้งานได้ทั้งลูกค้าเติมเงิน และรายเดือน’
การใช้งานบริการ ใจดีมีวงเงินให้ยืม จะเป็นการเชื่อมต่อฐานข้อมูลลูกค้าของดีแทค ผ่าน dtac app เชื่อมต่อระบบเข้ากับ LINE BK บริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล ที่ลูกค้าสามารถเข้าไปยื่นขออนุมัติสินเชื่อได้ทันที ภายใต้เทคโนโลยีในการเชื่อมต่อระบบจาก KBTG ในการใช้คะแนนเครดิตจากการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้ในการคำนวณสินเชื่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ในช่วงแรก ใจดีมีวงเงินให้ยืม จะทดลองมอบข้อเสนอให้ลูกค้าดีแทคเฉพาะกลุ่ม ก่อนจะเปิดให้สามารถเข้าสมัครบริการวงเงินให้ยืม (Credit Line) ของ LINE BK ได้ทันทีเพื่อนำเงินไปใช้ประโยชน์ตามที่ผู้กู้ต้องการ เช่น เพื่อการบริโภคและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยลูกค้าสามารถเลือกการเบิกถอนเงินสดตามสะดวกได้ทันทีหลังได้รับอนุมัติวงเงิน โดยมีข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทค รับเงินคืนหรือสิทธิส่วนลด 200 บาท พร้อมโปรโมชันดอกเบี้ยพิเศษจาก LINE BK
ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด อธิบายเพิ่มเติมถึงการขอสินเชื่อแบบดิจิทัลที่มีขั้นตอนกู้ยืมง่าย และเกณฑ์อนุมัติจะผ่อนคลายกว่าการกู้ยืมแบบเดิม เพียงมีรายได้ขั้นต่ำ 5,000 บาท ก็สามารถยื่นขอสินเชื่อได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันการคิดอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของลูกค้า ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 18-33% ต่อปี
สำหรับแคมเปญ ใจดีมีวงเงินให้ยืม ทาง LINE BK นอกจากจะให้เงินคืน 200 บาทแล้ว ยังให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 9.9% ต่อปี นาน 2 เดือนเพิ่มไปด้วย ในการปล่อยสินเชื่อวงเงินประมาณ 1.5 เท่าของรายได้ โดยที่ผ่านมาเฉลี่ยวงเงินอนุมัติอยู่ที่ราว 30,000 บาทต่อราย และสูงสุดที่ 800,000 บาท
‘ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นบนเป้าหมายหลัก 2 อย่างคือ เข้าใจ และเข้าถึงลูกค้าในหลากหลายมิติ อย่างข้อมูลการใช้งานใน LINE จะเห็นลูกค้าในมิติหนึ่ง ในมุมของดีแทคที่เห็นพฤติกรรมการใช้งานมือถือก็จะเห็นในอีกมิติหนึ่ง ทำให้มีความจำเป็นต้องเข้าใจลูกค้าเพื่อนำไปต่อยอดการให้บริการให้ดีที่สุด’
เรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวเสริมว่า การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาช่วยยกระดับประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ดีแทคกว่า 19.2 ล้านคน ผ่าน LINE BK จะสร้างประสบการณ์ทางการเงินบนโลกดิจิทัลได้ง่ายและสะดวกจนน่าตกใจ
‘ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น และจะทำงานร่วมกันต่อในระยะยาวอย่างแน่นอน เพราะจุดประสงค์ของ KBTG คือการทำให้บริการทางการเงินเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากปลายนิ้ว บนความเชื่อที่ว่าถ้าไปคนเดียวจะไปได้ไม่ไกล แต่ถ้าไปร่วมกันจะไปได้ไกล’
จะเห็นได้ว่า เมื่อลูกค้าของดีแทคได้เข้าถึงบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ของ LINE BK ผ่านเทคโนโลยีของ KBTG จึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวซึ่งทุกฝ่ายสามารถขยายฐานลูกค้า ต่อยอดบริการให้เติบโตขึ้นต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อส่วนบุคคล