ผ่าแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 64 ของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดฮิตอย่าง ‘ติ๊กต็อก’ (TikTok) จากบริษัทที่อุบเงียบไม่ยอมเผยตัวเลขสถิติใดให้ใครรู้ง่ายๆ ทั้งจำนวนผู้ใช้งาน และสถิติการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มที่ล้วนเป็นความลับ วันนี้ TikTok กำลังเริ่มเปลี่ยนตัวเองด้วยการโชว์ผลวิจัยทรงพลัง เพื่อเตรียมพร้อมระเบิดศึกแย่งชิงงบโฆษณาสำหรับธุรกิจในตลาดไทยอย่างเต็มที่ หลังจากที่เริ่มตั้งไข่บริการมา 1 ปีเต็ม
หนึ่งในตัวเลขชุดแรกที่ TikTok ภูมิใจเปิดเผย คือ ผลสำรวจที่พบว่า 84% ของผู้ใช้เกิดความอยากซื้อสินค้าเมื่อได้ชมวิดีโอจากแบรนด์บน TikTok ตัวเลขนี้เรียกพลังมาสู่ TikTok For Business โซลูชันการตลาดดิจิทัลครบวงจรสำหรับธุรกิจทุกขนาดที่ TikTok เริ่มจุดพลุเมื่อมิถุนายน 63 ให้สามารถออกแรงรบได้เต็มที่ในช่วงเทศกาลเมกะเซลส์ (Mega Sales) ปลายปี ทั้งมหกรรม 9 เดือน 9, 10 เดือน 10 เรื่อยไปจนถึง 12 เดือน 12 ปี 64
สิ่งที่ TikTok มองคือเทศกาล Mega Sales นั้นมีอิมแพกต์ยิ่งใหญ่ต่อธุรกิจการค้า บริษัทจึงขีดเส้นเตรียมรบเต็มที่ในมหกรรม Mega Sales ปีนี้ เพราะถือเป็นโอกาสดีที่แบรนด์จะได้เข้าถึงนักชอปที่รอคลายเครียดจากการล็อกดาวน์ด้วยการซื้อ ซึ่งจะได้ 2 เด้งที่ธุรกิจโฆษณาของ TikTok จะเติบโตแบบก้าวกระโดดไปด้วย
ความมั่นใจของ TikTok มาจากข้อมูลเชิงลึกที่ชี้ว่าผู้บริโภควันนี้อยากซื้อสินค้าแบบสนุกและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ดังนั้น แบรนด์ธุรกิจทั้งเก่าและใหม่จึงควรลองสร้างเนื้อหาน่าสนใจ ให้เป็นแบรนด์ที่ถูกค้นพบและบอกต่อ ก่อนจะถึงช่วง Mega Sales ปีนี้ที่การสำรวจพบว่าผู้คนรอจับจ่ายจริงจัง
***รอกันจริงจัง
สิรินิธิ์ วิรยศิริ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการตลาดของ TikTok กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา มหกรรมการลดราคาสินค้าบนออนไลน์นั้นขยายตัวในประเทศไทยต่อเนื่อง จนกระทั่งโควิด-19 เป็นตัวเร่งกระตุ้นให้ผู้คนเริ่มชอปปิ้งมากขึ้น ทำให้จากที่มีการจัดเทศกาลลดราคาปีละ 2 ครั้ง ก็ถูกเพิ่มเป็นเดือนละ 1 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เทรนด์ที่ TikTok เห็นคือความเข้มข้นของ Mega Sales ที่จะเริ่มตั้งแต่ 9 เดือน 9 ไปจนถึงปลายปี บริษัทจึงเรียกเฉพาะช่วงมหกรรมลดราคา 9 เดือน 9 เป็นต้นไปว่าเป็น Mega Sales และเป็นช่วงเวลาทองที่ TikTok จะกระตุ้นให้ธุรกิจมาลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มมากขึ้น
‘ช่วง Mega Sales มีความสำคัญจริงๆ ที่จะต้องทำการตลาด เพราะ TikTok เปิดโอกาสให้แบรนด์ทั้งเก่าและใหม่สามารถถูกพบและซื้อได้ TikTok ยังเป็นศูนย์รวมชุมชนที่กระตุ้นการเชื่อมต่อให้เกิดการซื้อขายในระยะยาว เราไม่อยากให้แบรนด์พลาดโอกาสสำคัญในการต่อยอดธุรกิจครั้งนี้’
TikTok พบว่าแคมเปญ Mega Sales ที่จัดขึ้นทุกเดือนส่งผลให้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยโตขึ้น 15% สัดส่วนนี้เป็นตัวเลขที่น่าสนใจเพราะว่ามีอัตราเติบโตเท่ากับตลาดใหญ่ของอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย และจากที่เคยเข้าห้างสรรพสินค้า การสำรวจของ TikTok ชี้ว่าปี 63 ที่ผ่านมา ผู้คนหันมาชอปปิ้งออนไลน์ โดย 1ใน 3 ของผู้บริโภคระบุว่า ซื้อสินค้าครั้งแรกเพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งถ้าเหตุการณ์ดีขึ้นกว่านี้ 80% บอกว่าจะยังคงซื้อของออนไลน์เพราะว่าพฤติกรรมเปลี่ยนไปแล้ว
TikTok พบอีกว่าวิดีโอสั้นเป็นรูปแบบเนื้อหาที่นักชอปดูแล้วอยากซื้อ จุดนี้เสริมความเชื่อมั่นว่า TikTok จะได้อานิสงส์จาก Mega Sales เพราะวิสัยทัศน์เรื่องการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ในขณะที่หลายคนใช้ TikTok ทุกวันและมีช่วงอายุผู้ใช้ที่กว้างขึ้น รับกับอัตราการเข้าชมที่เพิ่มขึ้น แม้แต่คุณย่าคุณยายก็เริ่มทำวิดีโอสั้นบน TikTok แล้ว
***เทรนด์แรง ‘ชอปปิ้ง’ ต้องสนุก
TikTok วิเคราะห์ว่าเทศกาล Mega Sales นั้นเกี่ยวข้องกับความสุข เนื่องจากขณะนี้คนไทยได้รับผลกระทบทั้งจากเรื่องส่วนตัวและหน้าที่การงาน ความเหงาบวกกับการไม่ได้คุยกับเพื่อน รวมถึงการไม่ได้ออกไปชอปปิ้งทำให้ช่วงเวลาครึ่งปีหลังนับจากนี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนต้องการหาความสุขและผ่อนคลาย
TikTok พบ 2 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างยอมรับว่าการซื้อสินค้าเล็กน้อยทำให้ได้ผ่อนคลายและมีความรู้สึกดีขึ้น ขณะที่ 1 ใน 3 บอกว่า นอกจากการซื้อ ยังมีความต้องการเรื่องความบันเทิงด้วย ผลการวิจัยนี้ทำให้ TikTok มั่นใจว่า Mega Sales เป็นช่วงเวลาที่ดีในการลงโฆษณา เพื่อเข้าถึงผู้คนและผู้บริโภคที่ต้องการซื้อ
จุดยืนของ TikTok คือการตอบโจทย์แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการค้นพบ ความบันเทิง และการสร้างชุมชน TikTok จึงพยายามชูว่าตัวเองเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เกิดการค้นพบสิ่งใหม่ โดยการสำรวจพบว่า ในขณะที่ผู้ใช้ TikTok กว่า 79% พบและซื้อสินค้า ราว 60% ระบุว่าพบสิ่งของอย่างอื่นที่นอกเหนือจากรายการชอปปิ้งที่วางแผนไว้
TikTok มั่นใจว่าตัวเองมีจุดแข็งต่างจากแพลตฟอร์มอื่น Algorithm ของ TikTok มีจุดเด่นจนทำให้ผลการศึกษาของ TikTok ประเทศไทยพบว่าเนื้อหาที่เกี่ยวกับการชอปออนไลน์บนแพลตฟอร์มมียอดวิวเพิ่มขึ้น 7.5 เท่าตัว และมีการรับชมเพิ่ม 10.3% สะท้อนว่าผู้ใช้ TikTok ไม่รังเกียจเนื้อหาที่เน้นขายสินค้า
การสำรวจยังพบว่า ผู้ใช้ TikTok มีอัตราซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 62% และซื้อเพิ่มขึ้นไปอีกในช่วง Mega Sales ถือเป็นสัดส่วนที่มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ท่ามกลางสินค้าที่ขายดีของชาว TikTok คือสินค้าความงาม เสื้อผ้าแฟชั่น และเครื่องใช้ไฟฟ้า
TikTok ย้ำด้วยว่า ผู้ซื้อวันนี้วางแผนซื้อและซื้อมากขึ้นในช่วง Mega Sales มีการวางแผนล่วงหน้าก่อนวันซื้อโดย 51% ระบุว่าวางแผนล่วงหน้า 3-4 สัปดาห์ ทั้งเปรียบเทียบราคาในสินค้ากลุ่มแฟชั่น และการดูรีวิวในสินค้ากลุ่มความงาม
เมื่อการวิจัยพบว่า ผู้บริโภคเตรียมตัวล่วงหน้านานนับเดือน TikTok จึงกระตุ้นให้แบรนด์ทำแคมเปญที่มีประสิทธิภาพแบบวางแผนล่วงหน้า เช่น ช่วง 1 เดือนก่อน Mega Sales ควรนำเสนอรีวิวเปรียบเทียบราคาหรือรีวิว จากนั้นช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาลจึงเสนอโปรโมชันให้ต่อเนื่อง จนถึงช่วง 1-2 วันก่อนเทศกาล อาจใช้วิธีกลับไปเตือนลูกค้าเก่าเพื่อกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น
***คลุมทั้งเล็ก กลาง ใหญ่
วิสัยทัศน์ของ TikTok นับจากนี้คือการหนุนธุรกิจเล็ก-กลาง-ใหญ่ โดยจะเดินหน้าจัดงานสัมมนาบนเว็บเพื่อให้ความรู้ลงลึกถึงโซลูชันที่ TikTok มีให้บริการ
‘ปัจจุบัน TikTok For Business อยู่ในตลาดมาเกือบปี ทำให้เห็นว่า SME ไม่มีการเตรียมล่วงหน้าเหมือนแบรนด์ใหญ่ หลักคิดของ TikTok คือการจัดสัมมนาให้ SME มีข้อมูลเฉพาะทางฟรี ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรเช่น Lazada และอีคอมเมิร์ซอื่นๆ เพื่อต่อยอด Mega Sales ที่กำลังจะถึงนี้’
ในภาพรวม TikTok ยืนยันว่าเห็นจำนวนผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น บนธุรกิจที่ลงโฆษณากับ TikTok ที่มีทุกขนาด แต่ละแบรนด์มีความหลากหลายตั้งแต่กลุ่มโทรศัพท์มือถือ ด้านการศึกษา หรือรถยนต์ เรียกว่าเห็นบริษัททุกขนาดที่เข้ามาทำตลาดบน TikTok ท่ามกลางเนื้อหาบนแพลตฟอร์มวันนี้ที่มีมากกว่าการร้องเพลงเต้นระบำ
นอกจากนี้ การซื้อโฆษณาบน TikTok ยังสามารถซื้อได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านเอเยนซี มีบริการเซอร์วิสโซลูชันที่ธุรกิจสามารถเลือกได้เอง ทั้งหมดนี้จะดึงไปปิดการขายในมาร์เกตเพลสเช่น Lazada และบนเว็บไซต์ของสินค้านั้น ราคาเริ่มต้นลงโฆษณาอยู่ที่หลัก 200 บาท
‘ขณะนี้ยังไม่มีการจบการขายบน TikTok แต่เรานำการขายไปยังร้านที่เพจของแบรนด์ได้’ ผู้บริหารระบุ ‘ปีที่แล้ว TikTok เป็นน้องใหม่ในตลาด เราพยายามเรียนรู้และปรับตัวจน 1 ปีที่ผ่านมา TikTok ใช้เวลาศึกษาและทำความเข้าใจดีมานด์ของแบรนด์ มีการนำโซลูชันมารวมกันเพื่อเตรียมพร้อมที่จะบอกแบรนด์ว่า TikTok สามารถช่วยเพิ่มยอดขายช่วง Mega Sales ได้ เชื่อว่าจะเกิดผลดีทางธุรกิจทั้งกับแบรนด์และกับ TikTok เองจากข้อมูลที่มอบให้’
TikTok ยืนยันว่าธุรกิจโฆษณาในปีนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว บริษัทมั่นใจว่าทุกอย่างครบพร้อมรบจริง โดย 1 ปีที่ผ่านมา พบการกลับมาโฆษณาของแบรนด์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องไม่มีรายใดหายไป ทำให้เชื่อว่าการโฆษณาบน TikTok ได้ผลดีเรื่องการรับรู้และการสร้างแบรนด์
การเตรียมความพร้อมในปีนี้ TikTok ระบุว่าจะไม่เพียงเตรียมโซลูชัน แต่จะเตรียมทีมดูแลเพื่อแนะนำว่าโซลูชันใดเหมาะกับใคร คาดว่าถัดจากการแชร์พฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อให้มีแนวทางทำตลาดในช่วง Mega Sales มากขึ้น ก็จะมีข้อมูลการชอปปิ้งช่วงสงกรานต์มาแบ่งปันในปี 65
ที่สุดแล้ว TikTok ปฏิสธที่จะเปิดเผยตัวเลขผู้ใช้งาน โดยระบุเพียงว่า 2-3 ปีที่ผ่านมาเห็นรอบการใช้งานในแต่ละวันเพิ่มมากขึ้น ผู้ใช้เปิดเข้าและออกจากแพลตฟอร์มตลอดวัน โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นทั้งในแง่จำนวนผู้ใช้และเวลาที่ใช้งาน
นอกจากนี้ TikTok ระบุว่าไม่อาจเปิดเผยว่างบประมาณวิจัยและพัฒนาถูกเตรียมไว้ในปีนี้เท่าใด แต่ย้ำว่าจะมีงานวิจัยต่อเนื่องโดยเฉพาะพฤติกรรมผู้บริโภคซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีตัวเลขเปิดเผยออกมา แต่ต่อไปนี้จะมีสถิติเปิดเผยมากขึ้น และนอกจากงานวิจัย TikTok จะพัฒนาโซลูชันเพื่อให้ตอบรับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและความต้องการของแบรนด์ได้ดีขึ้นตลอดปีนี้และปีต่อไป
