Opensignal เผยผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เข้าถึงประสบการณ์ใช้งาน 5G สูงสุด ชี้ยังเห็นความแตกต่างของแต่ละตลาด ขึ้นกับระยะเวลาเปิดใช้ 5G และประเภทของคลื่นความถี่ไร้สายที่นำมาใช้งานกับเครือข่าย 5G
จากการวิเคราะห์ล่าสุดของ Opensignal ประเทศเกาหลีใต้และไต้หวันนับเป็นคู่แข่งที่สูสีในด้านประสบการณ์การใช้งาน 5G โดยเกาหลีใต้มีความเร็วในการดาวน์โหลด 5G เฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 380.5 Mbps ส่วนไต้หวันพบว่ามีความเร็วในการดาวน์โหลด 5G ที่จุดสูงสุด (847.3 Mbps) และความเร็วในการอัปโหลด 5G เฉลี่ย (51.8 Mbps) แซงหน้าเกาหลีใต้เล็กน้อย
สำหรับประเทศสิงคโปร์นั้นมีความเร็วในการดาวน์โหลด 5G อยู่ในระดับกลางของกลุ่มเอเชียแปซิฟิกเนื่องจากการเพิ่งเริ่มให้บริการ 5G ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับประเทศสิงคโปร์เพราะผู้ให้บริการมีคลื่นความถี่ 5G ย่านกลางที่จำกัดมากกว่าผู้ให้บริการในประเทศอื่นๆ ทั้งยังมีปัญหาด้านการนำคลื่นความถี่หลากหลายมาใช้ร่วมกันที่เป็นความท้าทายหลักของประเทศ ซึ่งเกิดจากประเทศเพื่อนบ้านใช้คลื่นความถี่ย่าน 3.5 GHZ ในการให้บริการทีวีดาวเทียมแบบยิงตรงถึงบ้านและการใช้บริการมือถือในย่านความถี่นี้อาจทำให้เกิดการรบกวนได้
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนต้องการใช้เครือข่าย 5G เพื่อพัฒนาประสบการณ์ในการใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ เมื่อเราเปรียบเทียบวิดีโอที่เปิดใช้งานด้วยเครือข่าย 5G รวมถึงการเล่นเกมแบบมัลติเพลเยอร์และประสบการณ์ที่ได้รับผ่านแอปสื่อสารด้วยเสียงยอดนิยมต่างๆ ทำให้เห็นถึงผลลัพธ์ด้านความเร็วที่แตกต่างกันอย่างมาก
นอกจากนี้ Opensignal ยังพบว่าทุกประเทศในเอเชียแปซิฟิกได้รับประสบการณ์วิดีโอ 5G อยู่ในระดับยอดเยี่ยม (75 ขึ้นไป) ส่วนในด้านประสบการณ์เกม 5G ใน 2 ประเทศเกาหลีใต้และสิงคโปร์ได้รับคะแนนในระดับยอดเยี่ยม อีกทั้งผู้ใช้ในอีก 4 ประเทศ ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง ประเทศไทย และออสเตรเลีย ยังได้รับประสบการณ์เกม 5G อยู่ในระดับดี (75<85) ความแตกต่างระหว่างการวัดค่าทั้ง 2 นี้ทำให้เห็นได้ถึงความสำคัญของการปรับใช้ 5G เวอร์ชันใหม่รวมถึงการเข้าถึงเครือข่ายในแบบสแตนด์อะโลน (SA) ที่มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงประสบการณ์เวลาแฝง (Latency) และการตอบสนองในด้านประสบการณ์มือถือ
ความเร็วเฉลี่ยในการดาวน์โหลด 5G ในทุกประเทศของเอเชียแปซิฟิกมีความเร็วขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับการใช้เทคโนโลยีเครือข่าย 4G โดยต่างกันอย่างน่าประหลาดใจถึง 10.4 เท่าในประเทศฟิลิปปินส์และไต้หวัน และ 2.9 เท่าในประเทศสิงคโปร์
เมื่อ Opensignal เปรียบเทียบคะแนนด้านความพร้อมใช้งาน 5G และการเข้าถึง 5G ที่ยังต่ำของประเทศญี่ปุ่นนั้นทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงในด้านความไม่เสถียรของประสบการณ์การใช้งาน 5G ในประเทศญี่ปุ่นเองและยังเป็นตัวช่วยอธิบายถึงคะแนนประสบการณ์วิดีโอ 5G ประสบการณ์เกม 5G และประสบการณ์แอปสื่อสารด้วยเสียง 5G ในประเทศญี่ปุ่นได้อีกด้วย ขณะที่ผู้ให้บริการเครือข่ายของญี่ปุ่น 3 ค่ายได้เปิดให้บริการ 5G ในช่วงกลางปี 2563 และรายที่ 4 เปิดให้บริการในช่วงปลายปีเดียวกันนั้น ทำให้ความครอบคลุมของสัญญาณยังไม่กว้างขวางนัก
อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการในประเทศญี่ปุ่นทุกรายต่างให้ความสำคัญกับการขยายพื้นที่สัญญาณ 5G ในช่วง 18 เดือนนี้โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2564 (คลิกดูเพิ่มเติมที่ au/KDDI, NTT DoCoMo, SoftBank และ Rakuten) แต่ยังเร็วเกินไปที่จะเห็นผลลัพธ์ของการพัฒนา นอกจากนี้ ทั้งฟิลิปปินส์และออสเตรเลียยังมีผลคะแนนด้านประสบการณ์เป็นที่น่าพอใจด้วยพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ใหญ่กว่า ผู้ใช้งาน 5G ของ Opensignal ในตลาดทั้ง 2 แห่งนั้นใช้เวลาในการเชื่อมต่อ 5G คิดเป็น 10% และได้รับประสบการณ์ 5G เกือบหนึ่งในสาม ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ พร้อมมีคะแนนการเข้าถึง 5G ที่ 3.0 และ 2.9 ตามลำดับ
ผู้ให้บริการประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียแปซิฟิกก็มีการเปิดให้ใช้งาน 5G เช่นเดียวกัน รวมทั้งประเทศนิวซีแลนด์และอินโดนีเซีย Opensignal จะวิเคราะห์เกี่ยวกับความก้าวหน้าของ 5G ในทุกๆ ตลาดอย่างต่อเนื่องรวมไปถึงตลาดอื่นๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ 5G เชิงลึกในอนาคต