การนำ 5G มาใช้งานนั้นจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนมาร่วมกันขับเคลื่อน ทำให้ล่าสุด AIS ได้ร่วมมือกับทาง ZTE และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีนำนวัตกรรม 5G Smart Factory มาจัดแสดงให้ภาคอุตสาหกรรมได้นำไปประยุกต์ใช้งาน
โดย AIS 5G Total Solutions จะครอบคลุมทั้ง 5G Cloud AGV รถเคลื่อนย้ายอัตโนมัติ Inspection หุ่นยนต์ลาดตระเวน 5G AR Remote Guidance ควบคุมการทำงานจากระยะไกล VR Monitoring ตรวจสอบภาพหน้างานแบบเรียลไทม์ และ Robotic Arm แขนกลอัจฉริยะ
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร AIS Business กล่าวว่า ในภาคอุตสาหกรรมเชื่อว่า เทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นหัวใจหลักในการช่วยทรานส์ฟอร์มและขับเคลื่อนภาคการผลิตทุกเซกเตอร์
ในปีที่ผ่านมา AIS ได้ใช้เงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท และเตรียมงบลงทุนกว่า 25,000-30,000 ล้านบาทในปี 2564 เพื่อพัฒนาคุณภาพของเครือข่าย AIS 5G จนครอบคลุมพื้นที่ใช้งานใน EEC 100% ตลอดจนพื้นที่สำคัญด้านสาธารณสุขทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาด
ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการทำงานร่วมกับภาคการศึกษาอย่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ ZTE ที่ร่วมกันพัฒนาโซลูชันให้ตอบโจทย์การใช้งานภาคอุตสาหกรรมได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้าง Smart Factory หรือโรงงานอัจฉริยะให้มีความสามารถตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม
ด้วย 5G Total Solutions for Industrial เพื่อสร้างเป็นต้นแบบให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการยกระดับขีดความสามารถในการบริหารจัดการ พร้อมทรานส์ฟอร์มกระบวนการขั้นตอนการผลิต ท่ามกลางบริบทของภาคอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
นายหลิง จื้อ รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด บริษัท แซดทีอี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ความร่วมมือระหว่าง AIS และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะมุ่งนำเสนอนวัตกรรมที่จะพลิกโฉมโรงงานธรรมดาให้กลายเป็นโรงงานอัจฉริยะด้วยนวัตกรรม
โดยการเริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อกับระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NEEC) ให้ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี โดยมีหลักสูตรเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล หลักสูตรครอบคลุมเทคโนโลยี AI, คลาวด์, IoT, VR และ AR
ยิ่งไปกว่านั้น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ยังมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับขอบเขตของเทคโนโลยี 5G ให้แก่ธุรกิจต่างๆ โดยความร่วมมือระหว่าง ZTE และ AIS เชื่อว่าจะสนับสนุนให้การใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีที่หลากหลาย ผ่านเครือข่ายเทคโนโลยี 5G
สำหรับแนวโน้มในการเทคโนโลยี 5G ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เชื่อว่ามีส่วนช่วยเพิ่มจีดีพี (GDP) โลกเติบโตประมาณ 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีอุปกรณ์ในประเทศจีนที่เชื่อมต่อ 5G มากกว่า 200 ล้านเครื่อง และคาดว่าจะมีการเชื่อมต่อราวพันล้านครั้ง โดย ZTE จะผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการใช้ผ่านเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ กระบวนการผลิตที่เชื่อมต่อข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดเบื้องต้นของโซลูชันที่โรงงานสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ จะมีทั้ง “5G Cloud AGV รถเคลื่อนย้ายอัตโนมัติ” ที่ทำงานในลักษณะของ Machine to Machine สามารถสร้างแผนที่และเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง ทำงานได้รวดเร็ว แม่นยำ และตรงเวลา
ยังมีโซลูชันที่จะมาช่วยเสริมการทำงานภายในโรงงานอย่าง “5G Inspection หุ่นยนต์ลาดตระเวน” ที่จะทำหน้าที่เหมือน รปภ. สอดส่องดูแลพื้นที่ต่างๆ จดจำใบหน้าและแจ้งเตือนเหตุน่าสงสัยภายในพื้นที่ได้ “5G Robotic Arm แขนกลอัจฉริยะ”
“5G AR Remote Guidance ควบคุมการทำงานจากระยะไกล” เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ โดยที่ทุกคนไม่ต้องมาอยู่ที่หน้างานทั้งหมด และสุดท้าย “5G VR Monitoring ตรวจสอบภาพหน้างานแบบเรียลไทม์” เครื่องมือที่จะช่วยตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐานเดียวกัน ตั้งแต่ Material ไปจนถึงตัวสินค้า (Finish Goods)