xs
xsm
sm
md
lg

“ชัยวุฒิ” เผยลงดาบมือโพสต์เฟกนิวส์วัคซีน-โควิด-19 แล้ว 18 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส แถลงร่วมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลุยสกัดกั้นข่าวปลอมวัคซีน-โควิด-19 ระลอก 3 แจ้งดำเนินคดีมือโพสต์แล้ว 6 ราย และอาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ข้อ 6 ในมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งลบโพสต์อีก 12 ราย

วันนี้ (24 พ.ค.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร) มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม./หัวหน้าชุดบังคับบัญชาฝ่ายประสานงานกับกระทรวงดีอีเอส เข้าร่วมแถลงข่าวการดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง บิดเบือน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้กระทำการโพสต์เสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือบิดเบือนข่าวสาร สร้างความเข้าใจผิด ส่งผลให้เกิดความเสียหาย สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนและสังคมในวงกว้าง ตลอดจนกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ ดังนั้น จึงได้มีความร่วมมือระหว่างกระทรวงดีอีเอสและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งดำเนินการตรวจสอบการกระทำความผิด และดำเนินคดีที่เกี่ยวกับการเสนอข่าวอันไม่เป็นความจริง บิดเบือนข่าวสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามหมายค้นเป้าหมาย และติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว 18 ราย แบ่งเป็น มีการดำเนินคดี 6 ราย และปฏิบัติการโดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ข้อ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จำนวน 12 ราย

สำหรับผู้กระทำความผิดที่อยู่ในกระบวนการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กระจายอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา โดยมีข้อมูลได้รับการตรวจสอบยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ข้อความโพสต์ของทั้ง 6 รายเป็นข่าวปลอม ประกอบด้วย 1.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สาวสกล… โพสต์ว่า “พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่วัดสังฆทาน จำนวน 300 ราย” 2.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Stanley… โพสต์ว่า “ศบค.ประกาศเคอร์ฟิว เวลา 23.00-04.00 น. พื้นที่สีแดง 18 จังหวัด”

3.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก จิ๊บ... โพสต์ว่า “เคอร์ฟิวทั่วประเทศ ห้ามออกจากบ้านตั้งแต่ 4 ทุ่ม-ตี 4 เริ่มวันที่ 23 เม.ย.64 นี้” 4.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก กะทิ... โพสต์ว่า “พบผลข้างเคียงรุนแรง เลือดออกในสมอง หลังจากฉีดวัคซีน Sinovac” 5.ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @tuykal... โพสต์ว่า “พยาบาล รพ.หนองม่วง แพ้วัคซีนคับ” และ 6.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Wadfhan... โพสต์ว่า “พยาบาล รพ.หนองม่วง แพ้วัคซีนคับ”

โดยจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้โพสต์ข้อความทั้ง 6 รายข้างต้น ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ยังได้ปฏิบัติการโดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ข้อ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 อีก 12 จุด พบตัวผู้กระทำผิด 12 ราย ประกอบด้วย 1.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thanapol... 2.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Aom... 3.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธัญชนก... และ 4.ผู้ใช้เฟซบุ๊กแบงค์... โดยทั้ง 4 รายนี้ได้โพสต์ว่า “สธ.ประกาศฉุกเฉิน ระวัง 35 พื้นที่สีแดง เสี่ยงโควิด-19” ซึ่งทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม

5.ผู้ใช้ทวิตเตอร์ 𝐾ℎ𝑢𝑛 𝑀𝑖𝑧... โพสต์ว่า “โรงพยาบาล Medpark เปิดให้ลงทะเบียนจองวัคซีน Moderna” ซึ่งทาง ศบค. แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม 6.ผู้ใช้ทวิตเตอร์น้องโย... โพสต์ว่า “ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อที่เยาวราช เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก” โดยทางสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม

7.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Keawjah... 8.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Mai... 9.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chanyaphut... 10.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เรืองชัย... 11.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ธนกฤต... และ 12.ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ศุภชัย... โพสต์ว่า “The Old Siam ปิด 1 อาทิตย์ หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียมาใช้บริการ” ซึ่งทางเพจ The Old Siam Shopping Plaza แจ้งว่าเป็นข่าวปลอม

“ทั้ง 12 รายนี้ ผู้กระทำผิดกระจายอยู่ในพื้นที่หลายจังหวัดทั้งกรุงเทพฯ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ราชบุรี อุดรธานี สกลนคร สุรินทร์ ระนอง ซึ่งผู้โพสต์ได้รับว่ากระทำผิดจริง จึงได้อาศัยอำนาจตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) ข้อ 6 ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ให้ผู้โพสต์ระงับ สั่งให้แก้ไขข่าว ผู้โพสต์จึงลบโพสต์ดังกล่าว และรับว่าจะไม่กระทำแบบนี้อีก” นายชัยวุฒิ กล่าว

รมว.ดีอีเอส กล่าวย้ำว่า อยากขอเตือนประชาชนที่จะโพสต์ข้อมูลข่าวสารอันไม่เป็นความจริง หรือบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เกิดความหวาดกลัว การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


กำลังโหลดความคิดเห็น