xs
xsm
sm
md
lg

4 จุดแข็ง HUAWEI MateBook อัปเกรดทั้งงานทั้งลุคในยุคดิจิทัล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การปรับลุคให้ดูดีไม่ได้จำกัดที่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เคสโทรศัพท์ หรือสายคล้องหน้ากากอนามัย แต่ในยุคดิจิทัลแบบนี้ “แล็ปท็อป” ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานและบ่งบอกความเป็นตัวตนได้ ล่าสุด HUAWEI MateBook เสนอตัวเป็นทางเลือกแล็ปท็อปที่สามารถเป็นไอเทมสุดคูลประจำกาย ยกระดับไลฟ์สไตล์ให้ดีขึ้นได้ใน 4 มิติ

มิติแรกคือ ขุมพลังให้พร้อมลุยงานหนัก ที่สามารถคีปคูลได้ไม่ว่าเจอโจทย์ไหน หัวเว่ยอธิบายว่า ในแต่ละวันของการทำงาน ผู้คนมักเจอโจทย์ให้ต้องผลิตงานหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเหล่าฟรีแลนซ์ที่บ้างก็ต้องเขียนบทความ บ้างก็ต้องแต่งรูปภาพ ตัดต่อวิดีโอ อัปโหลดคอนเทนต์ขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งต้องใช้สารพัดมัลติมีเดีย

"ดังนั้น แล็ปท็อปจึงควรจะพร้อมลุยงานหนัก โดยเลือกได้จากการใช้หน่วยประมวลผลหรือชิปเซ็ตที่แรงพอ และจะดีขึ้นไปอีกหากชิปเซ็ตสามารถประมวลผลได้อย่างทรงประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก็ประหยัดพลังงานและระบายความร้อนได้ดี เพราะปัจจัยเหล่านี้จะส่งเสริมและเกื้อหนุนกันอยู่เบื้องหลัง ให้ผู้ใช้สามารถลุยงานหนักบนแล็ปท็อปได้อย่างราบรื่น โดยอาจเลือกดูแล็ปท็อปที่ชิปเซ็ตเป็นรุ่นล่าสุดอย่าง 11 Gen Intel Core processor ซึ่งมากับ HUAWEI MateBook 14 ซึ่งผู้ใช้ยังสามารถเลือกโหมดการใช้งานให้เหมาะกับแต่ละงานที่ทำได้ เพราะมีโหมด Standard ที่เหมาะกับการทำงานเอกสารธรรมดา และโหมด Performance ที่เหมาะกับการเปิดใช้โปรแกรมใหญ่ๆ โดยสามารถสลับระหว่าง 2 โหมดได้ง่ายๆ ด้วยการกด Fn+P” หัวเว่ย ระบุ

นอกจากนี้ เพื่อให้การประมวลผลเป็นไปอย่างทรงประสิทธิภาพสูงสุด HUAWEI MateBook 14 ยังพ่วงท่อระบายความร้อนแบบคู่และพัดลม HUAWEI Shark Fin 2.0 ที่มีใบพัดแข็งแรง สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นอีกด้วย ช่วยให้ใช้งานแล็ปท็อปต่อเนื่องยาวนานโดยที่เครื่องไม่ร้อน


มิติที่ 2 คือ หน่วยความจำให้เหลือใช้ เพราะเครื่องค้างแล้วจะไม่คูล หัวเว่ยเชื่อว่าแล็ปท็อปที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศคูลๆ ควรใช้หน่วยความจำขนาด 8 GB ขึ้นไปเป็นอย่างน้อย (16 GB จะดีที่สุด ณ ยุคนี้) เพราะสิ่งที่ไม่คูลแน่ๆ คือเวลายุ่งกับสารพัดงานแล้วจู่ๆ หน้าจอก็ขึ้นข้อความว่า Not Responding แล้วคนไม่คูลก็ต้องนั่งแกร่ว รอให้โปรแกรมที่ทำงานอยู่ใช้ได้อีกครั้ง หากหน่วยความจำดีจะทำให้คุณเปิดโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างไหลลื่นและไม่ค้าง

สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อแล็ปท็อป ควรต้องดูที่ RAM และ ROM หัวเว่ยย้ำว่า การเลือก RAM จะต้องดูควบคู่กับค่า Frequency หรือ Bandwidth ของข้อมูลที่หน่วยความจำนั้นสามารถรับส่งข้อมูลไปยังชิปเซ็ต รวมไปถึง DDR หรือ Double Data Rate ที่จะช่วยดันประสิทธิภาพของหน่วยความจำให้รับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ซึ่ง ณ ตอนนี้ DDR สูงสุดคือ DDR4 ความเร็วพื้นฐานอยู่ที่ 2133 MHz และสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 4000 MHz ซึ่ง HUAWEI MateBook 14 รุ่นชิปเซ็ต 11 Gen Intel Core processor ใช้หน่วยความจำ 16 GB DDR4 3200MHz หมายความว่าเจ้าแล็ปท็อปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลให้ชิปเซ็ตประมวลผลได้ถึง 3,200,000,000 Cycles ต่อวินาทีนั่นเอง

นอกจากนี้ หัวเว่ยมองว่าฮาร์ดดิสก์หรือแหล่งเก็บไฟล์ต่างๆ ก็ควรเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะต้องพิจารณา ซึ่ง ROM ควรมีขนาดอย่างน้อย 512 GB ขึ้นไป เพื่อรองรับทั้งไฟล์งาน ไฟล์เพลง ไฟล์เกม ไฟล์ภาพ และแน่นอนสเปกของฮาร์ดดิสก์ก็สำคัญ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนคือฮาร์ดดิสก์แบบ HDD เหมาะกับคนที่ต้องการเน้นอายุการใช้งานและต้องการราคาย่อมเยา ส่วนฮาร์ดดิสก์แบบ SSD สำหรับเหมาะกับคนที่เน้นความไว เล่นเกมได้ ประหยัดพลังงาน จุดนี้ HUAWEI MateBook 14 ใช้ ROM 512GB NVMe PCIe SSD หมายความว่ามีความจุ 512GB และเป็นแบบ SSD ดังนั้นจึงช่วยให้แล็ปท็อปมีความไว เล่นเกมและเก็บข้อมูลปริมาณมากได้

มิติที่ 3 คือ มีฟีเจอร์ว้าวๆ ไม่เหมือนใคร สไตล์คนคูล หัวเว่ยพบว่าปัจจุบัน แล็ปท็อปมักใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แต่ผู้ที่ชอบการทำงานแบบ Multi-tasking อาจจะเลือกแล็ปท็อปที่มีนวัตกรรมที่สามารถควบคุมสั่งการหลายหน้าจอได้พร้อมกัน เช่น แล็ปท็อปของหัวเว่ยที่มีเทคโนโลยี HUAWEI Share ฟีเจอร์ที่ช่วยทำ Multi-screen Collaboration โดยนำจอสมาร์ทโฟนขึ้นมาแสดงบนจอแล็ปท็อปได้เพียงแตะตัวสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการล่าสุดคือ EMUI 10.1 ตรงบริเวณ Touchpad ล่าสุดได้ออกเวอร์ชัน 3.0 สามารถเปิดแอปพลิเคชันที่มีอยู่บนสมาร์ทโฟนให้ไปแสดงผลและใช้งานบนจอแล็ปท็อปแบบเรียลไทม์ได้มากถึง 3 แอป 3 จอ ผู้ใช้ HUAWEI MateBook 14 ที่เป็นหน้าจอแบบ Multi-touch Screen ก็จะสามารถสนุกกับการแตะหน้าจอเพื่อเพิ่มหน้าต่างแอป และลากข้อมูลต่างๆ ไปใช้หรือทำงานต่อบนเครื่องได้อย่างง่ายดาย


มิติที่ 4 คือ ดีไซน์บ่งบอกความคูล โดย “ดีไซน์” ในที่นี้ไม่ใช่แค่ความเรียบหรูดูแพงอย่างเดียว แต่เป็นการออกแบบที่มาพร้อมความล้ำสมัย และให้ประโยชน์ได้มากพอๆ รูปลักษณ์ภายนอก หน้าจอที่นิยมกันในยุคนี้ควรให้ภาพเต็มตา เพื่อการทำงานและการเสพคอนเทนต์อย่างคมชัดเต็มอิ่ม รวมถึงการออกแบบปุ่มลัดต่างๆ ให้มีหน้าที่เฉพาะ ไม่ใช่แค่ให้ดูมินิมอลเท่านั้น โดย HUAWEI MateBook 14 ที่ใช้หน้าจอ 2K FullView Display แบบ Multi-touch Screen ขนาด 90% ของตัวเครื่อง ก็มาพร้อมปุ่ม Fingerprint Power Button ที่ใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือให้ผู้ใช้ล็อกอินเข้าเครื่องได้อย่างปลอดภัย รักษาข้อมูลส่วนตัวได้ เป็นหนึ่งตัวเลือกของแล็ปท็อปยุคใหม่ที่รูปลักษณ์โดดเด่นเท่าความไฮเทค

อีกจุดที่ HUAWEI MateBook 14 โดดเด่นคือแบตเตอรี่และสายชาร์จ สามารถดูคอนเทนต์วิดีโอที่ความละเอียด 1080p ต่อเนื่องได้นานถึง 11 ชั่วโมง และยังใช้สายชาร์จ Type-C 65W และยังสามารถใช้แล็ปท็อปเป็นแหล่งเพลงงานชาร์จอุปกรณ์ Type-C อื่นแม้ในขณะปิดเครื่องอยู่ได้อีกด้วย

สำหรับ HUAWEI MateBook 14 สี Space Gray วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคา 34,990 บาท โดยเปิดตัวพร้อมกับ HUAWEI MateBook D 15 และ HUAWEI MateBook D 14 ไปเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น