AIS เผยผลประกอบการไตรมาส 1 รายได้รวมอยู่ที่ 45,861 ล้านบาท เติบโต 7% (YoY) รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาด้วยฐานลูกค้า 42.7 ล้านราย
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า โควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของภาคธุรกิจ แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดระลอก 2 ในช่วงปลายปี 2563 มาจนถึงช่วง 1-2 เดือนแรกของปี 2564 แต่ AIS ก็ยังคงสามารถทำผลงานได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
โดยเป็นผลมาจากความร่วมมือของบุคลากรทั้งองค์กรที่มีความพร้อมในการปรับตัวรับกับสถานการณ์วิกฤตอยู่เสมอ เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการทำงานสนับสนุนภาคสาธารณสุขในมิติของการเสริมศักยภาพการทำงานด้วย AIS 5G เพื่อเป็นการเชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อคนไทยในทุกสถานการณ์วิกฤต
สำหรับไตรมาสแรกของปี 2564 AIS ทำรายได้รวมอยู่ที่ 45,861 ล้านบาท เติบโต 7% (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA ลงลงเล็กน้อย 0.9% (YoY) แต่ในไตรมาสแรกของปีนี้เริ่มฟื้นตัวขึ้น
โดย EBITDA เติบโต 1.6% (QoQ) ซึ่งเป็นผลจาการบริหารจัดการต้นทุน แม้ว่ายังมีการขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G แต่ AIS ยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายการขายและบริหารให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ด้านกำไรสุทธิสำหรับไตรมาสแรกปี 2564 ลดลง 1.7% (YoY) เป็นผลกระทบของโควิด-19 และการแข่งขันที่ยังคงสูงต่อเนื่องมายังปีนี้ ทั้งนี้ กำไรสุทธิลดลงที่ 7.3% จากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) ซึ่งเป็นผลมาจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับในไตรมาส 4/2563
ในส่วนของภาพรวมรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาสแรกของปี 2564 ลดลง 3.2% (YoY) แต่มีการเติบโตขึ้น 1.2% (QoQ) เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากยอดผู้ใช้บริการใหม่ที่เติบโตสูง รวมถึงมาตรการจากภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน
โดยรายได้ในกลุ่มผู้ใช้บริการรายเดือน (Postpaid) ยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีจำนวนเพิ่มขึ้นสุทธิกว่า 442,400 เลขหมายในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนกลุ่มผู้ใช้บริการแบบเติมเงิน (Prepaid) ได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมีจำนวนเลขหมายเพิ่มขึ้นสุทธิ 887,900 เลขหมาย ส่งผลให้ปัจจุบัน AIS ยังครองผู้ให้บริการอันดับหนึ่งที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดถึง 42,767,100 เลขหมาย
“การเติบโตของผู้ใช้บริการ 5G ซึ่งได้ขยายเครือข่าย 5G ครบ 77 จังหวัด โดยเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2563 ซึ่งเมื่อจบไตรมาสแรก ปี 2564 AIS มีผู้ใช้บริการ 5G แล้วกว่า 7 แสนราย โดยตั้งเป้าสู่ 1 ล้านรายภายในปีนี้”
สำหรับธุรกิจเน็ตบ้านยังคงได้รับปัจจัยบวกมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งจากการทำงานที่บ้าน (WFH) ของบริษัทต่างๆ หรือแม้แต่การเรียนของนักเรียน นักศึกษา ที่การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญมากขึ้น โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ AIS Fibre มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 95,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 7% จากปลายปีก่อนหน้า ทำให้มีผู้ใช้บริการรวมแล้วกว่า 1.43 ล้านรายทั่วประเทศ ถึงแม้ว่าระดับรายได้เฉลี่ยรายเดือนต่อลูกค้า หรือ ARPU จะลดลงจากการแข่งขัน แต่ภาพรวมของรายได้ยังคงเติบโตกว่า 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว คิดเป็นรายได้ 1,919 ล้านบาท เอไอเอสไฟเบอร์ยังคงยืนหยัดผู้นำธุรกิจเน็ตบ้านที่เติบโตสูงสุดและแข็งแกร่งเหนือตลาด
นอกจากนี้ ยังพบว่าสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจในไตรมาสแรกปีนี้อาจไม่ได้ส่งผลต่อตัวเลขระยะยาวแต่อย่างใด เพราะขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงการระบาดระลอกที่ 3 ของโควิด-19 ซึ่งอาจจะมีความรุนแรงกระทบต่อภาคธุรกิจตลอดทั้งปี แต่เอไอเอสยังเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามงบประมาณที่ตั้งไว้กว่า 25,000-30,000 ล้านบาท เพื่อนำศักยภาพ 5G เข้าฟื้นฟูประเทศผ่านการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมต่างๆ ในทุกมิติ ซึ่งเป็นแผนงานที่พนักงาน AIS ทุกคนยังคงทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ 5G เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน
“ผลประกอบการไตรมาสแรกนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท ประคับประคอง ตั้งรับ ปรับตัว และต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดจากความร่วมแรง ร่วมใจของชาว AIS เพื่อส่งมอบบริการและเทคโนโลยีดิจิทัลให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงการทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อสนับสนุนภาคสาธารณสุขให้สามารถขับเคลื่อนการรับมือกับโรคระบาดครั้งนี้ด้วยศักยภาพของ 5G ได้อย่างเต็มกำลัง ด้วยการ เชื่อมต่อ ช่วยเหลือ เพื่อให้คนไทยและประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ท่ามกลางความยากลำบากนี้”
