ฟอร์ติเน็ต (Fortinet) เปิดตัวระบบปฏิบัติการฟอร์ติโอเอส (FortiOS) เวอร์ชัน 7.0 ระบบปฏิบัติการหลักของฟอร์ติเน็ตด้วยฟีเจอร์ใหม่กว่า 300 รายการ ส่งให้ FortiOS 7.0 เพิ่มความสามารถของ Fortinet Security Fabric และศักยภาพของฟอร์ติเน็ตให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในปัจจุบัน ทั้งการทำงานจากภายนอกองค์กร (Remote Worker) การเพิ่มมาตราการให้ครอบคลุมและรองรับระบบเครือข่ายในจุดต่างๆ เช่น SASE Edge ก่อนเชื่อมต่อไปยังคลาวด์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ Operation Technology
จอห์น แมดิสัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และรองประธานอาวุโส ฝ่ายผลิตภัณฑ์แห่งฟอร์ติเน็ตมั่นใจว่า นวัตกรรมใหม่ใน FortiOS 7.0 จะสานต่อความมุ่งมั่นของฟอร์ติเน็ตในการนำเสนอแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ปกป้องพื้นผิวในวงกว้าง ผสานรวมและเป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อปกป้องอุปกรณ์ ข้อมูลและแอปพลิเคชันขององค์กรในทุกขนาด
ในภาพรวม ระบบปฏิบัติการ FortiOS ใหม่ถูกย้ำว่าจะช่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรม โดยปัจจุบัน เมื่อเข้าสู่ยุค Cloud สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไม่สามารถรองรับแนวคิดด้านเครือข่ายและการใช้งานรูปแบบใหม่ๆ ได้อีกต่อไป เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายใหม่ๆ ขึ้นเป็นจำนวนมากที่ส่วน Network Edge เชื่อมโยงการใช้งานของดาต้าเซ็นเตอร์ WAN, LAN, LTE, off-net, ระบบ Operational Technology (OT) CASB (Cloud Access Security Broker), SASE (Security Access Service Edge), อินเทอร์เน็ตและการใช้งานจากที่บ้าน (Home edge)
ทั้งหมดนี้ได้ทำให้ขอบเขตของโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดขยายตัวออกไปมาก ดังนั้น กระบวนการด้านการรักษาความปลอดภัยจำเป็นต้องก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเครือข่ายและความต้องการด้านประสิทธิภาพในปัจจุบัน โดยที่ศักยภาพการมองเห็น ข้อมูล การวิเคราะห์ การตรวจจับและการตอบสนองที่ประสานงานกันอย่างทันท่วงทีต่อการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งหมายถึงความจำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มแบบบูรณาการ
Fortinet Security Fabric เป็นแพลตฟอร์มการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอุตสาหกรรมซึ่งขับเคลื่อนโดย FortiOS เพื่อให้สามารถรักษาความปลอดภัยได้อย่างครอบคลุม ยืดหยุ่นและสอดคล้องกันของเครือข่ายทุกรูปแบบ
ด้วยรูปแบบการใช้งานที่มากกว่าผู้จำหน่ายรายอื่นทั้งแบบกายภาพ แบบเสมือน ระบบคลาวด์และแบบบริการจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุด สามารถครอบคลุมการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย SD-WAN สวิตชิ่ง การเข้าถึงแบบไร้สาย การควบคุมการเข้าถึงเครือข่าย การรับรองความถูกต้องความปลอดภัยบนคลาวด์สาธารณะและส่วนตัว ความปลอดภัยสำหรับการใช้งานปลายทาง และโซลูชันการป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ ทั้งหมดนี้ล้วนสร้างขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดียวกัน จึงส่งให้ฟอร์ติเน็ตช่วยองค์กรในทุกขนาดสามารถรักษาความปลอดภัยและลดความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานไอทีของตนได้
ตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ใน FortiOS 7.0 คือการเข้าถึงเครือข่ายประเภท Zero Trust Access โดยมีการเพิ่มความสามารถ Zero Trust Network Access (ZTNA) ที่มาแทน VPN รูปแบบเดิม และเพิ่มการควบคุม Application Control : FortiOS 7.0 ช่วยให้ลูกค้าผู้ที่ใช้งานไฟร์วอลล์ FortiGate ทุกรายสามารถใช้ความสามารถ ZTNA ได้ทันที ทำให้ฟอร์ติเน็ตเป็นผู้จำหน่ายรายเดียวที่เปิดใช้งาน ZTNA ที่ใช้ไฟร์วอลล์
ทั้งนี้ การใช้งาน ZTNA ที่เปิดใช้งานโดย FortiOS 7.0 จะช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้โดยรองรับวิวัฒนาการของการเข้าถึงระยะไกล (Remote access) ที่ดีขึ้นแทนที่ VPN รูปแบบเดิม
นอกจากนี้ ยังลดช่องการโจมตี ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากผู้ใช้งานประเภท Remote Worker ที่เชื่อมต่อมาจากภายนอกองค์กร โดยการยืนยันผู้ใช้และอุปกรณ์สำหรับทุกเซสชันของแอปพลิเคชัน ในขณะเดียวกัน ยังช่วยป้องแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญทางธุรกิจจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้การใช้งานปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ZTNA จากฟอร์ติเน็ตช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการโดยใช้นโยบายการเข้าถึงเดียวกันไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเครือข่าย
ขณะเดียวกัน ก็เน้นเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานจากทุกที่ด้วย Cloud-based SASE ช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นที่จำเป็นในการช่วยให้พนักงานทำงานได้จากทุกที่ ด้วยการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรที่สอดคล้องกันไม่ว่าจะเป็นในสำนักงาน บนคลาวด์ (โดยใช้บริการประเภท Security-as-a-Service : SaaS) ยังมีการเพิ่มประสิทธิภาพของ SD-WAN ด้วย Self-healing SD-WAN และการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อและการใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี 5G และ LTE แบบไร้สายที่หลากหลาย ให้องค์กรสามารถมีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ปลอดภัย ปรับขนาดได้ และพร้อมใช้งานสูงได้ทุกที่
ระบบใหม่ยังเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยการใช้งาน Cloud Workload ในรูปแบบมัลติคลาวด์ คู่กับการเพิ่มคุณสมบัติด้าน Automation สำหรับการบริหารจัดการ NOC/SOC มีการเพิ่มการใช้ข้อมูลภัยอัจฉริยะจาก FortiGuard Labs ทั้งหมดนี้ FortiOS 7.0 จะพร้อมให้ใช้งานในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 64
ฟอร์ติเน็ตยังเตรียมจัดงานใหญ่ Accelerate 2021 Digital Edition ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคมศกนี้ จัดหัวข้อเหมาะสมเฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันและโซลูชันที่จำเป็นในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท