ทวิตเตอร์ (Twitter) เผยดำเนินการกับบัญชีที่มีการละเมิดเพิ่มขึ้นกว่า 105% ในปี 2020 ที่ผ่านมา ระบุใช้เทคโนโลยีในการจัดการกับข้อความละเมิดบนแพลตฟอร์มได้มากกว่า 50% หรือ1 ใน 2 ข้อความ มากกว่าเดิมที่จัดการได้ 20% หรือ 1 ใน 5 ข้อความเท่านั้น
ทวิตเตอร์แจงสถิตินี้ในแถลงการณ์ส่งเสริมวันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น หรือ Safer Internet Day ซึ่งก่อตั้งในยุโรปเมื่อปี 2004 และได้ฉลองการเป็นวันระดับโลกเป็นปีที่ 17 ในปัจจุบัน ทวิตเตอร์ทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านความปลอดภัยหลายแห่งใน 140 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ของ #วันการใช้อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยขึ้น และช่วยสร้างความปลอดภัยบนโลกอินเทอร์เน็ตให้แก่ทุกคน
"ความปลอดภัยของทวิตเตอร์และคุณภาพของบทสนทนาสาธารณะนับเป็นสิ่งที่ทวิตเตอร์ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ในปีที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ได้รุกหน้าแก้ปัญหาควบคุมเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมทั่วโลกอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น แม้ยังมีหลายสิ่งที่ยังคงต้องดำเนินอย่างต่อเนื่องแต่เราได้มีความคืบหน้าไปอีกระดับหนึ่ง" แถลงการณ์ระบุ
ปีที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ได้ใช้เทคโนโลยีในการจัดการกับข้อความละเมิดบนแพลตฟอร์ม ซึ่งสามารถจัดการข้อความมากกว่า 1 ใน 2 ข้อความ เมื่อเทียบกับปี 2018 ที่จัดการได้ 1 ใน 5 ข้อความเท่านั้น ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ได้ดำเนินการกับบัญชีที่มีการละเมิดเพิ่มขึ้นกว่า 105% โดยการล็อก หรือระงับบัญชีเนื่องจากทำผิดกฎของทวิตเตอร์
ยังมีฟีเจอร์โควิด-19 และ #ThereIsHelp ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยและให้ข่าวสารที่น่าเชื่อถือบนทวิตเตอร์ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกที่ทำให้ผู้คนหันมาใช้ทวิตเตอร์ในการพูดคุยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและค้นหาข้อมูลล่าสุดด้านสาธารณสุขที่น่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ เดือนมีนาคม 2020 ทวิตเตอร์ได้ออกนโยบายการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 เพื่อสร้างคุณภาพของบทสนทนาสาธารณะ หลังจากนั้น ทีมงานของทวิตเตอร์ได้ดำเนินการบังคับใช้นโยบายนี้กับผู้ใช้งานจำนวน 4,658 บัญชีที่ละเมิดนโยบาย โดยระบบอัตโนมัติของทวิตเตอร์ยังพบว่ามีผู้ใช้งานราว 4.5 ล้านบัญชี ที่มีพฤติกรรมการบิดเบือนข้อมูลและเป็นข้อความสแปม
อีกหนึ่งผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทวิตเตอร์อยากจะสร้างการตระหนักรู้ในสังคมก็คือ ความรุนแรงที่เกิดจากเพศสภาพและความรุนแรงในครอบครัว (shadow pandemic) ที่พุ่งสูงขึ้นมาก ทวิตเตอร์จึงให้การสนับสนุนพันธมิตรที่ไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกให้สามารถลงโฆษณาบนทวิตเตอร์ได้ฟรี และยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร 24 องค์กรเพื่อขยายบริการการแจ้งเตือน #ThereIsHelp ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
สำหรับช่วงวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลกเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทวิตเตอร์ได้ทำงานร่วมกับสมาคมป้องกันการฆ่าตัวตายนานาชาติ (International Association for Suicide Prevention) ด้วยการขยายความร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทั่วโลกกว่า 20 องค์กร และยังร่วมมือกับหน่วยงานด้านสุขภาพจิตในพื้นที่และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอีก 30 หน่วยงานเพื่อกระจายการป้องกันการฆ่าตัวตาย #SuicidePrevention ออกไปในวงกว้างและเพื่อขยายบริการการแจ้งเตือน #ThereIsHelp ที่ช่วยป้องกันการฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตัวเอง
เมื่อมีการค้นหาคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดจากเพศสภาพหรือการฆ่าตัวตาย หรือการทำร้ายตัวเองบนทวิตเตอร์ ผู้ใช้งานจะได้รับข้อความแจ้งเตือนที่เป็นข้อมูลในการติดต่อและสายด่วนของหน่วยงานในพื้นที่และแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้พวกเขากล้าขอความช่วยเหลือ
เดือนธันวาคม 2020 ทวิตเตอร์ได้เพิ่มเติม นโยบายการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งหมายรวมถึงทวีตที่เผยแพร่ข้อความซึ่งมีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19
ทวิตเตอร์ยืนยันว่า มีการขยายนโยบายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยตลอดปี 2020 ทวิตเตอร์ได้มีการอัปเดตกฎระเบียบเกี่ยวกับพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเกลียดชัง เช่น ห้ามใช้ภาษาที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ ความทุพพลภาพ อาการของโรค เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ สัญชาติเดิม รวมถึงการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการบำบัดเพศวิถี (conversion therapy) กับบุคคลหรือในชุมชน LGBTQ+
"เราได้ขยายนโยบายให้มีความครอบคลุมเพื่อปกป้องบทสนทนาของพลเมืองบนทวิตเตอร์ เพราะเป้าหมายของทวิตเตอร์คือการปกป้องเนื้อหาที่อาจทำให้การลงคะแนนเสียงถูกระงับและเพื่อหยุดการแพร่กระจายข้อมูลเท็จที่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของการเลือกตั้งหรือกระบวนการของพลเมืองอื่นๆ"
สำหรับ 5 ทริปเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้งานบนทวิตเตอร์ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นที่การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน โดยเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนเข้าสู่ระบบและ ตั้งค่าพาสเวิร์ดสำหรับการยืนยันตัวตน หลังจากที่เปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนนี้แล้ว จะต้องใช้พาสเวิร์ด พร้อมกับวิธีในการเข้าสู่ระบบขั้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็น โค้ดการยืนยันการล็อกอินผ่านแอป หรือคีย์ความปลอดภัยในการเข้าสู่ระบบบัญชี โดยสามารถเปิดการใช้งานนี้ได้โดยไปที่ความปลอดภัยในหน้าการตั้งค่าบัญชี
ข้อ 2.คือ ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้เต็มที่บนโลกทวิตเตอร์ แต่ก็มีบางทวีตข้อความที่ไม่ต้องการให้ใครบางคนเห็น โดยค่าเริ่มต้นทวีตทั้งหมดจะเป็นแบบสาธารณะ แต่ผู้ใช้สามารถเลือกปกป้องทวีตของตัวเองได้ในการตั้งค่า และระมัดระวังการแชร์ข้อมูลส่วนตัวทุกครั้งบนทวิตเตอร์ ทั้งที่อยู่บ้าน ข้อมูลภายในครอบครัว หรือติดอิโมจิที่ทวีตรูปภาพที่มีรูปเด็ก
3.ตั้งค่าตัวกรองขั้นสูง ผู้ใช้สามารถควบคุมสิ่งที่เห็น และผู้คนที่จะโต้ตอบบนทวิตเตอร์ด้วยการใช้การตั้งค่าตัวกรองขั้นสูงที่จะช่วยปิดการใช้งานการแจ้งเตือนบัญชีผู้ใช้งานบางประเภทที่ต้องการหลีกเลี่ยง นอกจากนั้นแล้ว ถ้าบัญชีหรือทวีตของใครได้รับความสนใจอย่างมากแบบไม่ทันตั้งตัว ก็อาจแทรกการแจ้งเตือนในแท็บการแจ้งเตือน เพื่อให้ได้ปรับแต่งตัวกรองการแจ้งเตือนที่จะช่วยควบคุมสิ่งที่เห็นได้ดียิ่งขึ้น
4.ตำแหน่งที่ตั้ง ทวิตเตอร์เปิดให้เลือกได้ว่าอยากจะระบุโลเกชันลงในแต่ละทวีต หรือแม้กระทั่งโลเกชันบนโปรไฟล์หรือไม่ เพื่อให้ผู้ใช้ไตร่ตรองก่อนทวีตข้อมูลที่อาจเปิดเผยโลเกชันได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่สามารถระบุบ้าน ที่อยู่ที่ทำงาน หรือสถานที่ที่บุตรหลานไปโรงเรียน
สุดท้าย 5.รายงานเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ไม่เฉพาะทวีตเท่านั้น แต่สามารถรายงานแอ็กเคานต์ ลิสต์ รวมไปถึง Direct Message ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถช่วยเหลือทุกคนที่อยู่บนทวิตเตอร์ได้ด้วย
