“วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างมาก โดยเฉพาะ SME ที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ดังนั้น เอไอเอสต้องให้ความสำคัญและจัดสรรรบริการและเทคโนโลยีที่จะนำให้พวกเขาอยู่รอด” หนึ่งในคำกล่าวสั้นๆ จาก นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา และเป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของ AIS SME ต้อนรับศักราชใหม่ในปี 2564 เป็นอาวุธให้ผู้ประกอบการ SME ได้เลือกใช้อย่างครบเครื่อง กรุยทางสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
การก้าวสู่ครอบครัวเอไอเอส นายธนพงษ์ ผู้ที่มีผลงานในธุรกิจและองค์กรชั้นนำ ทั้งในบริษัทที่มีธุรกิจอยู่ทั่วโลก หรือบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการจัดการด้านพลังงานและความยั่งยืนขององค์กรที่หลากหลาย มาเป็นระยะเวลา 29 ปี กับทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการจัดการทั่วไป การบริหารธุรกิจ การขายและการตลาด ในบริษัทชั้นนำ เช่น ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ บทบาทของนายธนพงษ์ ในเอไอเอส สำหรับการดูแลรับผิดชอบในการผลักดันกลยุทธ์ และบริหารธุรกิจเชิงพาณิชย์ในกลุ่มลูกค้าองค์กร และการสร้างความร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ โดยการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดและนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในธุรกิจยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ภายในอุตสาหกรรมองค์กรต่างๆ เพื่อเสริมสร้างและเร่งให้เกิดแนวทางในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อน เพื่อนำพาเอไอเอสและพันธมิตรก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0) และเป็นกระบวนการ Digital Transformation ได้อย่างแข็งแกร่ง
นายธนพงษ์ กล่าวต่อว่า วิสัยทัศน์ในการทำงานจะแบ่งบริการออกเป็น 2 กลุ่ม คือ Telecom Services ซึ่งเป็นบริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการติดต่อสื่อสาร และเครือข่ายขององค์กรต่างๆ จะซึ่งเน้นเรื่องคุณภาพที่ดีสำหรับองค์กร และการครอบคลุมพื้นที่ของทั้งเครือข่ายไร้สายและสายใยแก้วนำแสง และด้านการบริการ Digital Enabler สำหรับธุรกิจต่างๆ จะนำ Digital Technologies ไปประยุกต์ใช้กับยุค Digital Transformation และให้สอดคล้องกับการทำงานแบบ New normal เช่น ระบบ IT, Cloud, IoT, Cyber Security, Digital Marketing รวมถึงเทคโนโลยี 5G ในอนาคต โดยจะนำเสนอการให้บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่เป็น Large enterprises & SMEs เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกธุรกิจ
"โครงการแรกที่ทำในปีนี้ คือ การนำพา AIS SME สู่ดิจิทัล ว่า “วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจมาก โดยเฉพาะ SME ที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศกำลังได้รับผลอย่างหนักหน่วงรุนแรง ดังนั้น เอไอเอสและตนเองจึงมองเห็นช่องทางและเป้าหมายในการพัฒนาเอสเอ็มอีให้สอดรับกับวิถี New Normal โดยนำเครื่องมือดิจิทัลด้านต่างๆ มาช่วยผลักดันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การมี Online Asset สำหรับติดต่อสื่อสาร, การทำ Digital Marketing เข้าถึงกลุ่มลูกค้าซึ่งความท้าทายในครั้งนี้คือ การสร้างโอกาสทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ (New Business Model) ให้เอสเอ็มอี และคาดการณ์ว่า หากเอสเอ็มอีมีการปรับตัวตลาดในส่วนของ Online SME & Technology Startup จะมีการเติบโตต่อเนื่องแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน”
ขั้นตอนต่อไปในการนำพาเอไอเอส สู่ Digital Transformation อย่างแข็งแกร่ง คือการให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าทั้ง SME และ Large Enterprise โดยการสนับสนุนและส่งเสริมอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ประยุกต์ใช้ระบบ 5G ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Smart Manufacturing / Factory, Smart City รวมถึง Public Infrastructures ในกิจการท่าเรือหรือสนามบิน ซึ่งในปัจจุบันเอไอเอสได้มีการทดสอบและทดลองใช้ AIS 5G ในหลากหลายตัวอย่าง ซึ่งปัจจุบัน AIS มีความพร้อมทั้งในแง่สัญญาณ 5G ที่ครอบคลุมเต็มพื้นที่ 100% ในนิคมอุตสาหกรรม EEC รวมทั้งมีความพร้อมทั้งในแง่ Solutions ที่ร่วมกับ Partners จากหลากหลายธุรกิจ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการใช้งาน 5G ในอนาคต