xs
xsm
sm
md
lg

'พุทธิพงษ์' จูงมือทีมพัฒนาแอป 'หมอชนะ' ร่วมแจง ยันไร้ปัญหาทำงาน แต่ทำระบบใหญ่ขึ้นจำเป็นต้องโอนให้รัฐดูแล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"พุทธิพงษ์" นำทีมพัฒนาแอปพลิเคชัน 'หมอชนะ' ร่วมแถลงข่าว ยันไม่มีปัญหากัน ยังทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง แต่เมื่อทำให้ระบบใหญ่ขึ้นต้องมีทีมงานและงบประมาณ จึงต้องโยนมาให้รัฐดูแล ลั่นรัฐดูแลทำให้อยู่ภายใต้กฎหมายไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแน่นอน



วันนี้ (18 ม.ค.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายอนุชิต อนุชิตานุกูล และนายสมโภช อาหุนัย ทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ร่วมแถลงข่าวประเด็นที่สังคมมีคำถามเรื่องแอปพลิเคชัน “หมอชนะ”

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า แอปพลิเคชันหมอชนะ ในแง่ของการทำงานกับทีมพัฒนาอาสายังคงทำงานด้วยกันอย่างดี และยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาอยู่ แต่เมื่อมีการโปรโมตและมีการใช้งาน ระบบจึงใหญ่ขึ้น ต้องมีทีมทำงานประจำ และมีงบประมาณในการทำงานจึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการโอนให้รัฐดูแล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการโอนย้าย และการจัดหางบประมาณ กำลังคน โดยให้ สพร.และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ดูแลระบบหลังบ้าน

ดังนั้น การทำงานของแอปดังกล่าวยังใช้งานได้เป็นอย่างดี และต้องมีการใช้งานจำนวนมาก เพื่อให้ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดภาระในการติดตามโรคและแจ้งเตือนโดยกรมควบคุมโรค ไม่ต้องเสียเวลาในการดูไทม์ไลน์ผู้ติดโรคแต่ละคนซึ่งทำได้ยากกว่าการใช้ระบบดิจิทัลช่วย

"ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากัน เพราะผมเข้าไปร่วมทำงานตั้งแต่แรก แต่เมื่อเปิดตัวและจะใช้งานตอนนั้น การระบาดของโรคน้อยลงแล้ว จึงเห็นว่าใช้การเช็กอินไทยชนะ ก็เพียงพอ แต่เมืองมีการระบาดรอบใหม่ จึงถึงเวลาเหมาะสมที่จะนำมาใช้ เพื่อง่ายต่อการติดตามและสอบสวนโรครวมถึงผู้สัมผัสด้วย"


ส่วนเรื่องการเปลี่ยนสีของคิวอาร์โค้ดในระบบไม่สามารถเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเองได้ เมื่อมีการเดินผ่านผู้ติดเชื้อ แต่จะมีการตรวจสอบจากรัฐก่อนว่ามีการสัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ติดหรือไม่ จากนั้นจะดำเนินการเปลี่ยนสีและแจ้งเตือนให้เข้าสู่ระบบการสอบสวนโรค ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลสำคัญของคนไข้ รัฐต้องดูแลให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายโดยเฉพาะเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล

ด้าน นายอนุชิต กล่าวว่า ทีมอาสาสมัครหมอชนะ ได้พัฒนาแอปพลิเคชันมาระยะหนึ่ง และจำเป็นต้องส่งต่อให้รัฐบาลในการใช้งานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทีมอาสาสมัครผู้พัฒนาแอปพลิเคชันหมอชนะ ทำงานร่วมกับ รมว. ปลัดกระทรวงดีอีเอส และ สพร. รวมถึงกรมควบคุมโรค มาตั้งแต่ ก.พ.2563 จนเมื่อถึงระดับการใช้งานที่ขยายมากขึ้นจึงส่งต่อให้ทางรัฐบาลดูแลและใช้งานอย่างเป็นทางการ และสิ่งสำคัญคือต้องมีกระบวนการการสื่อสารที่ชัดเจนและมาในทิศทางเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดความสับสน พร้อมกันนี้ ขอให้คนไทยร่วมมือกันใช้แอปพลิเคชันหมอชนะนี้ ในการช่วยต่อสู้กับโควิด-19 อย่างจริงจัง ให้เราชนะให้ได้

ขณะเดียวกัน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ว่า ได้ทำงานร่วมกันกับคณะทำงานผู้พัฒนาแอปพลิเคชันกับทาง สพร. มาตั้งแต่ต้น ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนสีสถานะของแต่ละบุคคล ต้องผ่านคนกลางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรคแต่ละพื้นที่ ส่งข้อมูลไปยังกระทรวงดีอีเอส หากมีการเปลี่ยนสี และส่งต่อไปให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันอัปเดตข้อมูลสถานะสีให้ และจะเปลี่ยนสีก็ต่อเมื่อโรงพยาบาลได้ยืนยันการติดเชื้อแล้วเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น