จากที่เคยคุมภาคพื้นยุโรป ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ได้ประกาศแต่งตั้ง "ซังโฮ โจ" เป็นประธานและซีอีโอคนใหม่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย
นายซังโฮ โจ ประธานและซีอีโอคนใหม่ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย นั้นมีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปีในหลากหลายวงการธุรกิจทั่วโลก ทำให้ซัมซุงมั่นใจว่า นายซังโฮ โจ พร้อมที่จะนำเอากลยุทธ์การบริหารจากประสบการณ์หลายศตวรรษมาปรับใช้กับซัมซุงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย
"ในยุค Digital disruption เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันอุตสาหกรรมและสังคมแห่งดิจิทัลในภูมิภาคนี้ เพื่อที่จะส่งเสริมศักยภาพของผู้คนผ่านเทคโนโลยีแห่งอนาคต”
ซัมซุงนั้นมองตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียเป็นส่วนสำคัญในแผนการเติบโตระยะยาว ในแถลงการณ์ระบุว่า ด้วยศักยภาพของภูมิภาคที่จะสามารถก้าวผ่านความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วทางเศรษฐกิจในศตวรรษหน้า บนพื้นฐานของความมุ่งมั่นในการสร้างเมือง อุตสาหกรรม และชุมชนแบบดิจิทัล นายซังโฮ พร้อมจะนำธุรกิจก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและคว้าโอกาสสำหรับการเติบโตในระยะยาวผ่านการเพิ่มความร่วมมือ การสร้างการปฏิบัติการที่เป็นเลิศ และการสร้างความเชื่อมั่นต่อองค์กรในกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มลูกค้าองค์กร
ก่อนหน้านี้ นายซังโฮ โจ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานและซีอีโอของซัมซุงภาคพื้นยุโรปซึ่งเขาได้นำธุรกิจไปสู่การเติบโตทางการค้าแบบยั่งยืนและสร้างความเป็นที่นิยมต่อองค์กรในปี 2020 และในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา เขาได้ดำรงตำแหน่งในฐานะประธานบริหารของซัมซุงประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี (ปี 2019) สหราชอาณาจักร (ปี 2015-2017) สวีเดน (ปี 2012-2014) ออสเตรีย (ปี 2011) ประเทศกลุ่มบอลติก (ปี 2009-2010) และยังได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจจอภาพของซัมซุงภาคพื้นยุโรป โดยดำเนินงานในประเทศเกาหลี (ปี 2017-2018) อีกด้วย
นายซังโฮ โจ ยังมีความคุ้นเคยกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจากการที่เคยทำงานร่วมกับซัมซุงที่สิงคโปร์ (ปี 1997) เวียดนาม (ปี 1998-2000) และมาเลเซีย (ปี 2007-2008)
“ผมมีความยินดีที่ได้กลับมาทำงานในภูมิภาคนี้อีกครั้ง และได้รับเกียรติในการนำทัพองค์กรในภูมิภาคที่มีความโดดเด่นและน่าตื่นเต้น โดยจะมุ่งมั่นพัฒนาความสัมพันธ์ที่เรามีกับคู่ค้าและลูกค้าของเรา รวมถึงสำรวจกลุ่มลูกค้าและคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อให้ซัมซุงได้ก้าวไปสู่อีกขั้นของการเติบโตในภูมิภาคนี้” นายซังโฮ กล่าวทิ้งท้าย