LINE ประกาศความชัดเจนในการควบรวมธุรกิจระหว่าง LINE และ Z Holding ที่ดูแล Yahoo Japan ว่าปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมทีมนักพัฒนาเข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อรับความท้าทายที่เกิดขึ้น
อึยบิน พาร์ค รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี LINE Corporation กล่าวว่า การที่ทั้ง 2 บริษัทใช้เทคโนโลยีเพื่อเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ ร่วมกัน โดยในขณะนี้ LINE กำลังอยู่ในขั้นตอนของการควบรวมธุรกิจกับ Z Holdings ซึ่ง Yahoo! JAPAN ซึ่งเป็นบริษัทลูกหลักของ Z Holdings
"ยังคงมีอีกหลายอย่างที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยพลังอำนาจของเทคโนโลยี ทั้งในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก กำลังเผชิญหน้ากับประเด็นต่างๆ ในสังคม เช่น โควิด-19 การช่วยให้ชีวิตผู้คนสะดวกสบายและดีขึ้นท่ามกลางสภาวะมากมายเหล่านี้ได้คือเหตุผลสำคัญที่เราต้องการที่จะร่วมงานกัน"
ฟูจิมอน ชิเอกิ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี Yahoo! JAPAN กล่าวเสริมว่า เราตั้งใจที่จะร่วมงานเป็นทีมเดียวกัน เช่นเดียวกับทีมนักพัฒนา เราจะร่วมมือกันรับมือกับความท้าทายทางสังคมมากมายเหล่านี้ไปด้วยกัน
โดยในช่วงที่ผ่านมา บริการด้านต่างๆ โดยความต้องการด้านการสื่อสารดิจิทัลเพิ่มขึ้นในปีนี้ ฟีเจอร์วิดีโอคอลของ LINE ได้มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 235% ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม LINE ยังได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านข้อมูลของ LINE หรือเรียกว่า Information Universe (IU) ประกอบไปด้วยข้อมูล (consolidated data) มากถึง 270 PB (petabytes) และเพิ่มขึ้นในอัตรา 7 แสนล้านเรคคอร์ดต่อวัน
อึยบิน ให้ข้อมูลต่อว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พบว่าอัตราการใช้งานในช่วง peak time เพิ่มขึ้นสูงถึง 16 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ จึงมีการพัฒนา load balancing เพื่อให้ระบบทำงานอย่างเต็มความสามารถ เพื่อให้เก็บข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำเร็จที่สำคัญของ LINE ในประเทศอื่นนอกจากญี่ปุ่น ยังรวมไปถึงการเปิดให้บริการ LINE BK โซเชียลแบงกิ้งบน LINE อย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทย โดย LINE มีแผนที่จะขยายบริการรูปแบบนี้ไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และอินโดนีเซีย และอีกหนึ่งตัวอย่างความสำเร็จทางด้านเทคโนโลยีของ LINE คือบริการยื่นขอทะเบียนบ้านผ่าน LINE สำหรับผู้อยู่อาศัยย่าน Shibuya ในกรุงโตเกียว ที่สามารถยื่นขอทะเบียนบ้านผ่าน LINE และชำระเงินด้วย LINE Pay นับเป็นการใช้งาน eKYC เป็นครั้งแรกโดยองค์กรภาครัฐท้องถิ่นในประเทศญี่ปุ่น และในอนาคตอันใกล้นี้ LINE จะออกบริการ LINE DOCTOR ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยให้คนไข้และหมอสื่อสารกันผ่านทาง LINE วิดีโอแชต เพื่อลดภาระของการไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลอีกด้วย
นอกจากนี้ LINE DEV DAY ยังนำเสนอผลงานการพัฒนาบริการสำหรับภาคธุรกิจมากมาย เช่น ในเดือนกรกฎาคม LINE OA ได้เพิ่มฟังก์ชันการโทร.ด้วยเสียงและวิดีโอเข้ามาได้ ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบคำถามของลูกค้าได้อย่างสะดวกง่ายดายมากยิ่งขึ้น โดยมีแผนเพิ่มบริการจองร้านอาหารภายในปีนี้ และการเชื่อมต่อกับ LINE Pay ภายในสิ้นปี 2563 รวมไปถึงความสำเร็จในการเปิดให้บริการ LINE MINI App เว็บแอปพลิเคชันบน LINE ที่เปิดให้บริการแล้วในปีนี้
แพลตฟอร์ม LINE Blockchain เป็นอีกหนึ่งบริการที่ LINE พัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 โดย LINE ได้เปิดตัว LINE Blockchain Developers ในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปิดให้นักพัฒนาภายนอกสามารถพัฒนาบริการบล็อกเชนอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพบน Mainnet ที่ LINE พัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นอิสระ สร้างความเชื่อถือด้วยระบบอัลกอริธึม โดย LINE มุ่งมั่นที่จะสร้าง Blockchain ใช้งานง่ายที่ออกแบบมาสำหรับทุกคน
