‘ดีแทค’ เน้นให้ความสำคัญกับลูกค้าปัจจุบัน ยืนยันแผนการติดตั้งเทคโนโลยี Massive MIMO ช่วยให้ลูกค้ากว่า 76% ในเครือข่ายได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น ตอบรับกับเทรนด์การใช้งานดิจิทัลที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงโควิด-19 มุ่งช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ในช่วงที่ลูกค้าส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น ทำให้ ดีแทค ปรับมุมมองในการทำตลาดในการเข้าไปดูแลลูกค้า และช่วยสังคมให้ก้าวพ้นวิกฤตไปได้
“อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ทำให้ที่ผ่านมา ดีแทค มีการขยาย Massive MIMO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานชึ้น 3 เท่า ทำให้สามารถรองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้น 44% ในช่วงที่ผ่านมาได้ ขณะเดียวกัน ยังพบปริมาณการใช้งานแอปพลิเคชันในการทำงานจากที่บ้านเพิ่มขึ้นถึง 3,000%”
สิ่งที่ดีแทคทำคือ ทำอย่างไรให้เครื่องที่ผู้บริโภคมีอยู่ในมือสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้จากเสาสัญญาณที่ปล่อยคลื่นความถี่ 2300 MHz เพราะเป็นคลื่นความถี่ที่สมาร์ทโฟนกว่า 76% ของดีแทค สามารถใช้งานได้ทันที
“ระยะเวลาเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 36 เดือน ดังนั้น การปรับปรุงเครือข่าย 4G TDD ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จะเข้าไปช่วยผู้ใช้งานทั่วประเทศมากกว่า”
นอกจากนี้ เมื่อเริ่มเห็นแนวทางในการย้ายถิ่นฐานกลับภูมิลำเนา ดังที่เห็นจากปริมาณการใช้งานดาต้าในพื้นที่ต่างจังหวัดเติบโตสูงกว่าในกรุงเทพฯ ถึง 5 เท่า ทำให้ดีแทค มีการทุ่มเม็ดเงินลงทุนเพื่อขยายเทคโนโลยีดังกล่าวให้ครอบคลุมการใช้งานทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่ครอบคลุม 20,000 สถานีฐานภายในสิ้นปีนี้
สำหรับการเข้าไปช่วยเหลือลูกค้า ดีแทค ได้มีการนำแพกเกจพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตทำงานอยู่ที่บ้าน เพิ่มแพกเกจพิเศษรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน ในระดับราคาที่ลูกค้าทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้ร่วมผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน
นายฮาว ริ เร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด กล่าวเสริมว่า การแข่งขันในยุคของ 5G เป็นเหมือนการแข่งขันมาราธอน ที่จะใช้ระยะเวลาในการแข่งขันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งไม่ได้หมายความว่าดีแทค ไม่ให้ความสำคัญ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
โดยภายในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้จะเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของ ดีแทค ในการนำ Use Case การให้บริการ Fixed Wireless Access บนคลื่น 26 GHz และการติดตั้งให้บริการ 5G บนคลื่น 700 MHz ที่ยังต้องรอคลื่นจากทาง กสทช. อยู่
อย่างไรก็ตาม การให้บริการ 5G แก่ผู้บริโภคบนคลื่น 700 MHz ไม่ใช่แผนเดียวของดีแทค เพราะก่อนหน้านี้ ดีแทค เคยเข้าไปร่วมศึกษาการนำคลื่น 2300 MHz ของทีโอที มาให้บริการ 5G เช่นเดียวกัน แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากทาง กสทช. ก่อน เช่นเดียวกับความหวังที่จะเปิดประมูลคลื่น 3500 MHz ที่รอรับการจัดสรรอยู่