ดีแทค ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นักท่องเที่ยวลดลง รายได้จากลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ และรายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติ ทำให้ปิดไตรมาส 2 ลูกค้าลดลงกว่า 8.35 แสนราย เหลือ 18.8 ล้านราย แต่ยังรักษาการเติบโตของกำไรไว้ที่ 1.9 พันล้านบาท
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงที่มีการระบาดหนักของโควิด-19 รวมถึงการปิดร้านค้านานกว่าหนึ่งเดือน วิกฤติที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้จากกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว แรงงานต่างด้าว รายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติและลูกค้าใหม่
รวมถึงการใช้จ่ายของลูกค้าโดยรวมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าในแง่ของการใช้ข้อมูลและการใช้ช่องทางดิจิทัล ซึ่ทางดีแทค ได้ให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงผู้คนผ่านเครือข่าย และมอบข้อเสนอที่สอดคล้องความต้องการในชีวิตวิถีใหม่พร้อมทั้งช่วยเหลือและสนับสนุนสังคมในวงกว้างผ่านโครงการบรรเทาทุกข์ต่างๆ
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/63 ดีแทคมีฐานลูกค้าจำนวนทั้งสิ้น 18.8 ล้านราย ลดลง 835,000 รายในไตรมาสนี้ จากผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 การสูญเสียลูกค้านั้นมาจากจำนวนลูกค้าใหม่ที่ลดลงจากสถานการณ์ ทั้งจากการปิดให้บริการร้านค้า จำนวนลูกค้าที่ใช้บริการปัจจุบันในแต่ละเดือนเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 เป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไป รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายในไตรมาส 2/63 ลดลง 4.5% จากไตรมาสก่อน และลดลง 3.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่รายได้จากค่าบริการหลักในไตรมาส 2/63 ลดลง 3.3% จากไตรมาสก่อน และลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA เติบโตขึ้น 5.1% จากไตรมาสก่อน และ 4.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2/63 มีมูลค่าทั้งสิ้น 1.9 พันล้านบาท ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับ EBITDA
นายดิลิป ปาล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ท่ามกลางวิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้รายได้ลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เราจัดการการเติบโตของกำไรในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการต้นทุน
ขณะเดียวกัน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโต ดีแทคยังคงรักษาความต่อเนื่อง ในการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนสำหรับเวลาที่เหลือของปี และยึดการปฏิบัติตามแนวทางหลักในการให้บริการที่ขับเคลื่อนด้วยมูลค่าและประสบการณ์เครือข่ายที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
โดยทางดีแทค ได้มีการปรับประมาณการรายได้ของการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายในปี 2563 ที่ตัวเลขติดลบหลักเดียวระดับต่ำEBITDA อยู่ที่จำนวนใกล้เคียงกับปี 2562 และค่าใช้จ่ายในการลงทุนอยู่ที่ 8-10 พันล้านบาท