เอไอเอส ไฟเบอร์ เชื่อตลาดเน็ตบ้านยังมีความต้องการใช้งานต่อเนื่อง แต่พฤติกรรมลูกค้าอาจมีการลดค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19 พร้อมเดินหน้าแคมเปญ เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า นำเสนอความเร็วมาตรฐานในการใช้งาน 1 Gbps เพิ่มช่องทางรับชม AIS Play และความสะดวกในการติดตั้งใช้งาน
นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวถึงภาพรวมตลาดในช่วงที่ผ่านมา จากสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้องค์กรธุรกิจหลายภาคส่วนได้รับผลกระทบ และลูกค้าจำเป็นต้องประหยัดค่าใช้จ่าย แต่กลายเป็นธุรกิจเน็ตบ้าน สามารถหาลูกค้าใหม่ได้ เพราะกลายเป็นความจำเป็นพื้นฐานในการทำงาน และเรียนผ่านระบบออนไลน์
“ช่วงล็อกดาวน์ทำให้ลูกค้ามีความต้องการติดเน็ตมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ทำตลาดได้ยากขึ้น เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าด้วยวิธีการปกติได้ การมี WFH ช่วยประคองให้ไม่ผิดไปจากแผนที่วางไว้ ขณะเดียวกัน ด้วยการที่ผู้บริโภคต้องการลดค่าใช้จ่าย ทำให้เลือกสมัครแพ็กเกจเริ่มต้นมากกว่าแพ็กเกจความเร็วสูง”
ในส่วนของการแข่งขันนั้น พบว่า การแข่งขันราคาดีขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา โดยอยู่ในภาวะที่สมเหตุสมผลมากขึ้น ทั้งนี้ระดับราคาเริ่มต้นจะปรับขึ้นเป็น 399 บาทต่อเดือน จากปีที่ผ่านมาเริ่มต้นที่ 299 บาท ในขณะที่มุมของเทคโนโลยี เชื่อว่าทุกรายจะขยับความเร็วพื้นฐานขึ้นเป็น 1 Gbps ซึ่งอาจจะทำให้เกิดเซกเมนต์ใหม่ที่ต้องการเน็ตความเร็วต่ำ ราคาต่ำ ทำให้ตลาดแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง เอไอเอส ไฟเบอร์ เชื่อว่า ตลาดจะยังคงได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พอสมควร แต่เชื่อมั่นว่าลูกค้ามีความต้องการติดเน็ตบ้าน น่าจะเติบโตไม่น้อยไปกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งปีที่ผ่านมาเอไอเอส ไฟเบอร์เติบโตทางด้านรายได้กว่า 30% และมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 แสนราย
นอกจากนี้ ยังมองถึงการให้บริการเน็ตในอาคาร โดยเฉพาะคอนโดที่พักอาศัย เนื่องจากเทคโนโลยี vDSL ถึงทางตันของการให้บริการแล้ว เพราะให้ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 50/50 Mbps ทำให้ เอไอเอส เร่งขยายพื้นที่ให้บริการในกลุ่มคอนโดมิเนียมให้เป็นสายไฟเบอร์แทนแล้วราว 100 อาคาร และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 500 ตึก
ส่วนในอนาคตทาง เอไอเอส ไฟเบอร์ มีแผนที่จะนำคลื่น 5G mmWave 26 GHz ซึ่งประมูลเรียบร้อยแล้ว มาให้บริการแก่ลูกค้าคอนโดในช่วงปี 2021 - 2022 เนื่องจากต้องรอต้นทุนอุปรณ์ให้มีราคาเหมาะสม และปริมาณความต้องการใช้งาน
ย้ำภาพ “เร็วกว่า ดีกว่า ง่ายกว่า”
ก่อนหน้านี้ เอไอเอส ไฟเบอร์ ถือเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเสนอระบบ Mesh WiFi เพื่อให้การกระจายสัญญาณ WiFi ครอบคลุมทั่วทั้งบ้าน และยังเป็นรายแรกที่นำเราเตอร์ SuperMesh WiFi ที่ให้ความเร็วในการเชื่อมต่อ 1 Gbps ซึ่งตอบสนองในแง่ของ ‘เร็วกว่า’
โดยในวันนี้ เอไอเอส ได้เสริมการให้บริการเราเตอร์ด้วยเทคโนโลยีใหม่อย่าง อุปกรณ์กระจายสัญญาณ WiFi 6 เสริมไปให้ผู้บริโภคที่ต้องการใช้งาน ด้วยการทำโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้าได้เราเตอร์กระจายสัญญาณฟรี เมื่อมีค่าใช้บริการรายเดือนเกิน 500 บาท ในรูปแบบของการชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,490 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์เสริม WiFi 6 ไปต่อพ่วงกับเราเตอร์หลัก ซึ่งจะทยอยรับเงินคืนเต็มจำนวนในแต่ละเดือน
ในมุมของ ‘ดีกว่า’ เอไอเอส ได้มีการยกระดับบริการ AIS Play ที่เปิดให้รับชมทั้งผ่านสมาร์ทโฟน และกล่องทีวี ได้มีการอัปเดตให้รองรับการใช้งานบนดีไวซ์อื่นๆ มากขึ้น อย่างการเข้าไปจับมือกับทางแอปเปิล ให้บริการในกลอ่ง Apple TV 4K และสมาร์ททีวีของ Samsung ที่มีแอป AIS Play ให้บริการโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ ยังเสริมคอนเทนต์ในส่วนของกีฬา หลังจากได้ลิขสิทธิ์ BeIN Sport มา และมีการเพิ่มช่องใหม่อย่าง Discovery มาเพิ่มในเพื่อให้ความบันเทิงภายในบ้าน รวมถึงการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตจากการที่เอไอเอส เข้าไปเป็นพันธมิตรกับทางจีเอ็มเอ็ม
สุดท้ายในของความ ‘ง่ายกว่า’ ในการใช้งาน ที่ผ่านมาเอไอเอส ได้แนะนำฟีเจอร์อย่าง SpeedToggle ให้ผู้ใข้สามารถสลับความเร็วอินเทอร์เน็ตใช้งาน ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้มีการใช้งานมากกว่า 2 แสนครั้ง โดยนิยมปรับไปใช้งานเพิ่มความเร็วดาวน์โหลดสูง และดาวน์โหลดอัปโหลดเท่ากันมากกว่า 30%
โดยทางเอไอเอส มีการนำเสนอแพ็กเกจ AIS Fibre Serenade ใหม่ 699 บาท จะให้ความเร็วในการให้บริการปกติที่ 500/500 Mbps แต่ถ้ามีการปรับ SpeedToggle ไปดาวน์โหลดจะเพิ่มความเร็วในการอัปโหลดให้เป็น 1000 / 300 Mpbs เช่นเดียวกันถ้าปรับไปเพิ่มความเร็วอัปโหลดจะเพิ่มความเร็วดาวน์โหลดให้เป็น 300 / 1000 Mbps
ในกรณีที่ติดตั้ง AIS Fibre สามารถแจ้งพนักงานให้ติดตั้งจุดกระจายสัญญาณเพิ่มเติมได้ทันที ในกรณีที่เราเตอร์หลักไม่ครอบคลุม ซึ่งแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ที่ไม่สามารถเพิ่มจุดกระจายสัญญาณได้ตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง