xs
xsm
sm
md
lg

หัวเว่ยเดิมพันสูง! แผน 5G ไทยครึ่งปีหลัง “ห้ามพลาด” (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์
ในเวลาที่โลกรับรู้ว่า “หัวเว่ย” พ่ายแพ้ให้โนเกียและอีริคสัน อดเป็นผู้สร้างเครือข่าย 5G หลักในสิงคโปร์ซึ่งวางแผนให้บริการ 5G แบบเต็มทั่วทั้งเกาะภายในปี 2025 ยักษ์ใหญ่แดนมังกรจึงไม่แคล้วถูกมองว่ามีเดิมพันสูงมากในตลาดไทยและประเทศอื่นในอาเซียน โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี 2020

สำหรับ 6 เดือนแรกของปี หัวเว่ยพยายามชูประเทศไทยว่ามีการประมูล 5G เต็มรูปแบบเร็วกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ทำให้ไทยมีก้าวแรกที่นำประเทศอื่นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดจากวิกฤตโควิด-19 ที่ถาโถมประเทศไทยในวันที่มีคลื่น 5G พอดี จึงทำให้ไทยมีโอกาสได้ใช้ 5G ในโรงพยาบาล ส่งให้มีการพัฒนา 5G ด้านเฮลท์แคร์ในหลายรูปแบบ กลายเป็นยูสเคสที่ตอบโจทย์และมีส่วนช่วยควบคุมสถานการณ์ได้ดีหลายยูสเคสแม้จะเพิ่งเริ่มไป 6 เดือน

หัวเว่ยเชื่อว่า 5G มีส่วนช่วยให้ไทยคุมโควิด-19 ได้ดีและโดดเด่นชัดกว่าประเทศอื่น นอกจากนี้ โควิด-19 ยังทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับ 5G ในหลายอุตสาหกรรม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการผลักดัน 5G ให้แข็งแรงและขยายไปได้ทุกที่ในไทย

สำหรับครึ่งหลังของปีนี้ หัวเว่ยการันตีว่าจะสนับสนุนไทยเหมือนที่สนับสนุนหลายประเทศ แต่ด้วยความที่ประเทศไทยมีการเริ่มโครงการจำนวนมาก และหลายโครงการเกิดขึ้นนำหน้าประเทศ อื่น การสนับสนุนของหัวเว่ยจึงทำได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวเลขการลงทุน ให้เหตุผลว่าเป็นการสนับสนุนในหลายลักษณะ ทั้งด้านเทคโนโลยี การเร่งทำงานอย่างรวดเร็ว และการทำงานร่วมกับอีโคซิสเต็มในหลายมุม

สิ่งที่น่าจับตาของแผน 5G ไทยนับจากนี้ คือหัวเว่ยจะโฟกัสทุกเซกเตอร์ที่คิดว่าสามารถทำได้ โดยอธิบายว่าหัวเว่ยทำโซลูชันที่ใช้ได้จริงในหลายอุตสาหกรรมแล้ว ทั้งการเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยว จึงพยายามนำเสนอสิ่งที่สามารถทำได้

ความท้าทายของหัวเว่ยในครึ่งหลังปีนี้ คือแม้หัวเว่ยจะตื่นเต้นที่มี 5G ในไทย และพยายามทำให้ 5G มีประโยชน์ที่สุด แต่หัวเว่ยระบุว่าแค่ 2 ส่วนนี้ไม่เพียงพอ จึงต้องการการผลักดันจากภาพ รวมให้เกิดเป็นทีม 5G ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรมก็ต้องมีทีมเฉพาะทาง เช่นเฮลท์แคร์ก็มีทีมหนึ่ง บันเทิงก็อีกทีมหนึ่ง

ดังนั้นหัวเว่ยจึงพยายามหาความเป็นไปได้ โอกาสที่เห็นชัดคือเรื่อง “VR และ AR” แต่หัวเว่ยยอมรับว่าอาจยังไม่เห็นคอนเทนต์โปรดิวเซอร์สัญชาติไทยที่ทำ AR และ VR ได้เหนือชั้นและมีประสบการณ์โชกโชนเท่าเกาหลีใต้หรือจีนที่เห็นชัดกว่า หัวเว่ยจึงอยากเห็นการเพิ่มความแข็งแรงของอีโคซิสเต็มไทยในส่วนนี้

***ต้องครบทั้งอีโคซิสเต็ม 5G จะได้สมบูรณ์แบบ

อาเบล เติ้ง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวในงานสัมมนาสำหรับสื่อมวลชนภายใต้หัวข้อ “5G อีโคซิสเต็มและอนาคตของประเทศไทย” ว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพด้านเทคโนโลยี 5G ในระดับแนวหน้า โดย 5G จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่ช่วยผลักดันภาคเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในทุกด้าน การมาถึงของ 5G อีโคซิสเต็มจะช่วยพัฒนาทั้งคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานทั่วไปรวมทั้งยกระดับสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

อาเบล เติ้ง
ช่วงก่อนโควิด-19 หัวเว่ยทดลองระบบควบคุมเครนขนส่งจาก ระยะไกลในโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 จนเมื่อโควิด-19 มาแรง หัวเว่ยจึงเน้นสนับสนุนรัฐบาลไทยเพื่อด้านพิษโควิด-19 ด้วยการมอบอุปกรณ์สื่อสารเพื่อการแพทย์ระยะไกล ขณะเดียวกันก็ใจป้ำมอบโซลูชัน AI ตรวจผลโควิด-19 ให้โรงพยาบาลศิริราช ยังมีการมอบหน้ากากอนามัยให้รัฐบาลไทย 500,000 ชิ้น และการมอบรถไร้คนขับขนเวชภัณฑ์และยาในรพ. ศิริราช

ทั้งหมดนี้หัวเว่ยต้องการให้คนไทยเชื่อว่า 5G จะช่วยกู้เศรษฐกิจและเพิ่ม GDP ได้ในยุคนิวนอร์มัล เห็นจากผลสำรวจมากมายที่ระบุว่า 5G มีส่วนช่วยอุตสาหกรรมในประเทศฟื้นตัวเร็ว ทำให้การกู้เศรษฐกิจทำได้เร็วตามไปด้วย

จุดนี้ “วรกาน ลิขิตเดชาศักดิ์” รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีเครือข่ายโทรคมนาคม บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายว่าพฤติกรรมนิวนอร์มัลทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ด้านแรกคือการใช้งานระบบประชุมทางไกลและออน์ไลน์คลาสรูมที่พบว่ามีการใช้งานมากกว่า 3 ชม. ต่อวัน ด้านที่ 2 คือการใช้ระบบถ่ายทอดทั้งเกมออนไลน์ อีเว้นท์เสมือนจริง และเกมการแข่งขันที่ไม่มีผู้ชมในสนาม ด้านที่ 3 คือการกระจายตัวของเน็ตเวิร์ก เปลี่ยนจากการกระจุกตัวที่สำนักงาน มาเป็นที่บ้าน กลายเป็นเทรนด์ “นิวฮอตสปอต” ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงวงการเน็ตเวิร์กบ้านให้มีความสามารถรองรับช่วงพีคที่ยาวนาน และจุดสัญญาณที่กระจายตัวมากขึ้น

หัวเว่ยชี้ว่าความต้องการยุคนิวนอร์มัลเหล่านี้จัดการได้ด้วย 5G เพราะจะสามารถยกระดับให้การสื่อสารและอีกหลายเรื่องทำได้ดีกว่าเดิม พฤติกรรมเหล่านี้จะผลักดันให้เกิดเป็นบริการหรือเซอร์วิสที่หลากหลายแบบไม่เคยมีมาก่อน บางบริการสามารถเติมคำว่าสมาร์ทหรือคอนเน็คเทดเข้าไปได้แบบสมจริง เช่น บริการจอดรถ อัจฉริยะ บรอดแบนด์อัจฉริยะที่ความเร็วสูงขึ้น และบริการที่ต้องการการเชื่อมต่อแบบไม่มีความหน่วง ทั้งหมดเป็นโจทย์ของ 5G อีโคซิสเต็ม ซึ่งจะต้องล้อตามตลาดที่เปลี่ยนไป ต้องใช้หลายภาคส่วนมารวมกัน

ส่วนแรกของอีโคซิสเต็มที่หัวเว่ยมอง คือโอเปอเรเตอร์ ผู้เป็นเจ้าของเน็ตเวิร์ก ซึ่งมีบทบาทสำคัญคือการโรลเอาท์ให้สัญญาณครอบคลุม ส่วนที่ 2 คือผู้คิดโซลูชัน ที่ตอบโจทย์ความต้องการแท้จริงของอุตสาหกรรม ส่วนที่ 3 คืออุตสาหกรรม ซึ่งต้องร่วมพัฒนา 5G ร่วมกันในฐานะผู้ใช้เทคโนโลยีตัวจริง ส่วนที่ 4 คือพันธมิตรท้องถิ่น เพราะแม้หัวเว่ยจะชำนาญเทคโนโลยี แต่ก็ยังต้องการพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อจะได้นำศักยภาพของ 5G มาสร้างเป็นโซลูชันที่มีประโยชน์สูงสุด

“ตรงนี้สำคัญมาก หัวเว่ยอยากให้มีศักยภาพมากขึ้นไปอีก 6 เดือนแรกถือว่าไทยทำได้ดีมาก มีกรณีศึกษาออกมาต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนที่เริ่ม ไทยทำได้ดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในย่านนี้ แต่ก็อยากให้ไทยผลักดันให้ก้าวไปอีก”

ส่วนที่ 5 คือภาครัฐ ภาคเอกชน และสมาคม จะเป็นอีกส่วนช่วยในการผลักดันให้เกิด 5G ที่แข็งแกร่งในไทย ซึ่งจะผลักดันให้ไทยเป็นไทยแลนด์ 4.0 อีกระดับ


1 ใน 4 ประเด็นแรกที่หัวเว่ยมองว่าจะทำให้เกิดการสร้าง 5G ที่มั่นคงในไทย คือรูปแบบธุรกิจใหม่ เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี 4G ทำให้ตลาดเริ่มนิ่ง ทั้งในแง่ราคาและความเร็ว เวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับ 5G เพราะจะทำให้โอเปอเรเตอร์ทำแพคเกจแบบการันตีความเร็วได้แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน หรืออาจมีบริการสำหรับลูกค้าองค์กรทำให้เพิ่มความหลากหลายของบริการได้

ประเด็นที่ 2 คือการผลักดันอีโคซิสเต็มไทย ซึ่งจะต้องอินทริเกรดเพื่อใช้งานได้แบบไร้รอยต่อ ประเด็นที่ 3 คือยูสเคสและกรณีศึกษา ซึ่งปีนี้ 5G ไทยสามารถทำงานได้จริง แทบไม่มีการพูดถึงผลทดสอบในห้องทดลอง และประเด็นที่ 4 คือการนำประสบการณ์ และเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้ในไทย

“4 ประเด็นนี้สำคัญมาก ในส่วนของหัวเว่ยที่จะช่วยพัฒนา 5G อีโคซิสเต็มไทย อย่าลืมว่า 5G เป็นหัวใจของคอนเนคทิวิตี้ ดังนั้นจึงควรเป็น 5G+AI เพราะถ้ามีแค่อันใดอันหนึ่งก็ไม่ได้ผลเต็มที่ ทั้งคู่ส่งเสริมกันและกัน แต่ถ้าให้เต็มรูปแบบคือ 5G+Cloud+AI ต้องรวมกันถึงจะเปลี่ยนอุตสาหกรรมให้อัจฉริยะเต็มรูปแบบ”

***ไม่ทราบใครชะลอการลงทุนเพราะโควิด-19

ผู้บริหารหัวเว่ยยืนยันว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องการชะลอการลงทุนเพราะโควิด-19 แต่ยืนยันว่าทุกคนในอุตสาหกรรมไทยอยากเดินหน้าเต็มที่ ไม่เช่นนั้นคงไม่เห็นยูสเคสที่ทุ่มเททำมาตลอด 6 เดือน


สำหรับแผนการส่งเสริมอีโคซิสเต็มไทยช่วงครึ่งปีหลัง หัวเว่ยจะยังพยายามทำเรื่องอบรมร่วมกับสถานศึกษาต่อไป เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่อยากให้เพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น และจะผลักดันให้เกิดยูสเคสใหม่อีก 
 “ช่วงครึ่งปีแรก ผู้ใช้ได้คุ้นเคยและรู้จักโซลูชัน 5G มากขึ้น คิดว่าอนาคตจะมาถูกทาง” วรกานกล่าวทิ้งท้าย “การใช้ 5G ไทยช่วงครึ่งปีแรกไม่อยู่ในแล็ปเลย เราภูมิใจมาก เพราะเอาอุปกรณ์ไปเซ็ตอัปแล้วมีประโยชน์จริง นอกจากเฮลท์แคร์ เรามองว่าอีกหลายอุตสาหกรรมจะพัฒนาได้อีก โดยเฉพาะกลุ่ม VR เพื่อการท่องเที่ยว และกลุ่มการเกษตร ทั้งคู่มีความเป็นไปได้ ฝั่งเฮลท์แคร์เริ่มมาดีแล้ว แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด หวังว่าจะแพร่หลายมากกว่านี้”


ขอให้สมหวังนะหัวเว่ย.


กำลังโหลดความคิดเห็น