ทีโอที-เอไอเอส-ทรู ผนึก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเทคโนโลยี 5G เพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออุปกรณ์สำหรับหน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) เพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันอย่างทันท่วงที
ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2561 หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) ได้ให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองบนรถไปแล้ว 287 ราย ผลสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากเทคโนโลยีระบบการแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine ที่มีการเชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสารภายในรถ ตลอดเวลามีการพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ที่มีอาการตาตก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง แบบเบ็ดเสร็จในรถเปรียบเสมือนการนำโรงพยาบาลไปสู่ชุมชน ทำให้อัตราการเสียชีวิตและพิการลดลงได้ ทว่าในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่มีเทคโนโลยี 5G จึงใช้การเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยี 4G ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยี 5G มาถึง นับว่าประเทศไทยโชคดีมากที่เริ่มเทคโนโลยีนี้เป็นประเทศแรกๆ ทำให้การบริการด้านสาธารณสุขสามารถให้บริการอย่างรวดเร็ว ยิ่งสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้รู้ถึงประโยชน์ของ 5G ว่าสามารถนำมาใช้กับวงการสาธารณสุขได้อย่างลงตัว
หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) เปรียบเสมือนการนำโรงพยาบาลไปสู่ชุมชน เพื่อลดระยะเวลาในการเปิดหลอดเลือดสมองที่อุดตันทำให้อัตราการเสียชีวิตและพิการลดลงได้ โดยจะใช้รักษาผู้ป่วยที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ที่มีอาการตาตก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาอ่อนแรง แบบเบ็ดเสร็จในรถ ตั้งแต่เริ่มมีอาการไม่เกิน 4 ชั่วโมง โดยผู้พบผู้ป่วยสามารถโทรแจ้ง 1669 เข้าศูนย์เอราวัณ ทางศูนย์ฯ จะคัดกรอง แล้วแจ้งต่อไปยังหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ในเขตที่ดูแลเพื่อให้เข้าไปรับผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อตรวจคัดกรองอาการและนำผู้ป่วยมาที่จุดนัดพบสถานีบริการน้ำมัน ปตท.
ขณะเดียวกันทางศูนย์เอราวัณก็จะแจ้งหน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) ที่มีผู้เชี่ยวชาญโรคหลอดเลือดสมองเป็นผู้รับสายและซักถามอาการ และตามทีมแพทย์ พยาบาล นักรังสีการแพทย์ และพนักงานขับรถ ให้ออกปฏิบัติการรับผู้ป่วย เพื่อการรักษาในรถของหน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) ที่จุดนัดพบ ตามที่ได้ประสานงานไว้แล้ว ขณะนี้ รถรุ่นใหม่ หน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช 2020 จำนวน 3 คัน อยู่ระหว่างการผลิต กำหนดแล้วเสร็จของรถคันที่ 2 ประมาณเดือนส.ค. 2563 และคันที่ 3 และ 4 จะแล้วเสร็จภายในปี 2563
นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีโอทีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลศิริราช ในความร่วมมือทางวิชาการ สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากโครงข่าย 5G ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประชาชน ด้วยเป้าหมายให้ประชาชนทุกพื้นที่มีโอกาสได้รับบริการ หรือได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม
ทีโอที ให้ความสำคัญกับการให้บริการโทรคมนาคม และบริการดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจากศักยภาพของโครงข่าย 5G ที่มีจุดเด่นเรื่องความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้การรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ มีความละเอียดสูง สามารถสื่อสารผ่านระบบแพทย์ทางไกลความเร็วสูง ทำให้การสื่อสารมีความสะดวก รวดเร็ว คุณภาพสูง มีความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การประสานงานส่งต่อผู้ป่วยจากหน่วยรถพยาบาลการแพทย์ฉุกเฉิน มาสู่รถ Siriraj Mobile Stroke Unit ด้วยความปลอดภัย ซึ่งการบริการโทรคมนาคมเพื่อสาธารณสุขของไทย ทีโอที ถือเป็นพันธกิจสำคัญในการกระจายโอกาสที่ประชาชนทุกคนจะได้รับบริการที่มีคุณภาพอย่างรวดเร็ว และในอนาคต ทีโอที มีแผนงานที่จะใช้คลื่น 5G นำไปพัฒนาเพิ่มศักยภาพในด้านอื่น ๆ เพื่อจะมีส่วนช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมต่อไป
นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า การรักษาพยาบาลเคลื่อนที่ (Mobility) เป็นการรักษาพยาบาลรูปแบบหนึ่ง ที่สร้างโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาในระยะฉุกเฉินได้อย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เอไอเอสมุ่งนำศักยภาพ เครือข่ายอัจฉริยะ AIS 5G ร่วมพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยรอบด้าน
เอไอเอสนำศักยภาพเครือข่าย 5G, 5G CPE อุปกรณ์รับและกระจายสัญญาณ 5G , ซิมการ์ด 5G เข้ามาเสริมประสิทธิภาพหน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช (Siriraj Mobile Stroke Unit) เพิ่มขีดความสามารถการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยนำเครือข่าย 5G เข้ามาเสริมประสิทธิภาพระบบปรึกษาทางไกลกับแพทย์เฉพาะทางที่อยู่ทางโรงพยาบาล พร้อมกล้องส่งสัญญาณภาพ เพื่อให้แพทย์สนทนากับผู้ป่วยขณะอยู่บนรถ เพื่อวินิจฉัยการรักษาเบื้องต้น และเตรียมพร้อมวางแผนการรักษาก่อนมาถึงโรงพยาบาล เพื่อร่วมดูแลคุณภาพชีวิตคนไทยและยกระดับการรักษาพยาบาลให้เข้าถึงคนไทยได้อย่างไร้ข้อจำกัด สอดคล้องกับแนวคิด 5G ที่จับต้องได้ เพื่อทุกชีวิต
นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หัวหน้าคณะทำงานและกรรมการยุทธศาสตร์ 5G บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่มทรูพร้อมให้การสนับสนุนโรงพยาบาลศิริราช ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยดูแลทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากลุ่มทรูร่วมเป็นช่องทางในการรับบริจาคในหลายๆ โครงการ รวมถึงการร่วมสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรฯ และในช่วงโควิด-19 ทรูได้มอบอุปกรณ์การสื่อสารพร้อมซิมให้แก่ศิริราช เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของโรงพยาบาลให้เป็นออนไลน์มากขึ้น ทั้งการรักษา ติดตามอาการคนไข้ผ่านวิดีโอคอลล์
ในวันนี้ทรูได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลศิริราชและคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการนำศักยภาพเทคโนโลยี True 5G เครือข่ายอัจฉริยะของกลุ่มทรู ซึ่งมีจุดเด่นทั้งเรื่องของศักยภาพความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ และความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลากหลาย มาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ศิริราช โดยเชื่อมต่อด้วยซิม True 5G-Ready และอุปกรณ์รับสัญญาณ CPE 5G ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะ True 5G ที่ได้ติดตั้งไว้แล้วภายในโรงพยาบาล และตลอดเส้นทางที่รถพยาบาลวิ่งผ่าน เพื่อนำส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที ซึ่งคาดหวังว่าจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตหรือพิการของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันได้เป็นอย่างดี