ทรูไอดี (TrueID) แอปพลิเคชันสำหรับเข้าถึงแพลตฟอร์มความบันเทิงกลุ่มทรู กลายเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด ถึง 3.1 ล้านดาวน์โหลด ในไตรมาสแรกของปี 2563 หลังคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมในการเข้าถึงคอนเทนต์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19
ไมเคิล กรีซีลส์ กรรมการบริหาร บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป เปิดเผยว่า ช่วงวิกฤตโควิด-19 คอนเทนต์มีบทบาทสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้ประชาชนที่ต้องอยู่บ้าน ยังคงสามารถใช้ชีวิตที่บ้านได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข โดยตลอดช่วงที่ผ่านมานี้ พบว่า พฤติกรรมการเลือกรับชมคอนเทนต์ ในด้านสาระบันเทิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะการเลือกรับคอนเทนต์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งมีความหลากหลายสามารถตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ และเป็นที่น่ายินดีที่จากผลสำรวจของ App Annie บริษัทวิจัยข้อมูล รายงานว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 ทรูไอดีก้าวกระโดดขึ้นอันดับ 1 หมวดผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้านบันเทิง โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นสูงสุด ถึง 3.1 ล้านดาวน์โหลดในเดือนมกราคม - มีนาคม 2563 ทั้งบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ iOS
“จากการสำรวจพบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเฉพาะในส่วนของบริการ TrueID In-Trend ซึ่งเป็นการนำเสนอคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นจากผู้ใช้ (User Generated Content) เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดคาดว่าเป็นผลจากการหยุดกิจการชั่วคราวของบางธุรกิจ ทำให้มีผู้สมัครมาเป็นนักเขียนเพิ่มขึ้นถึง 180% สูงกว่าเดิม 3 เท่าตัว”
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการเข้ามาใช้งานในระหว่างวันจันทร์ - ศุกร์ ช่วงเวลา 12.00 น. - 19.00 น. เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า มีนักเขียนที่เขียนบทความเกี่ยวกับโควิด-19 มากกว่า 500 คน มีบทความกว่า 1,000 ผลงานได้รับการเผยแพร่ และมีผู้อ่านกว่า 100,000 คน เพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์และเมษายนที่ผ่านมา โดยเพิ่มมากที่สุดในกลุ่มอายุ 25-34 ปี ซึ่งสูงขึ้นกว่า 70%
สำหรับประเภทบทความที่ได้รับความนิยมอ่านสูงสุดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ บทความหัวข้อบันเทิง รีวิวหนัง และซีรีส์ ยิ่งไปกว่านั้นในส่วนของคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ได้แก่ อนิเมะ โดยเรื่องนารูโตะมียอดวิวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 78% ขณะที่โคนันเพิ่มขึ้น 62% และโปเกมอนเพิ่มขึ้น 52% ตามลำดับ
“หลังจากนี้ ทรูไอดีจะเดินหน้านำคอนเทนต์ใหม่ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น หนังดังฟอร์มยักษ์ ซีรีส์เด่นยอดนิยม แอนิเมชัน กีฬามันส์ ทุกประเภท เพลงยอดนิยม รวมถึงรายการวาไรตี้ต่างๆ มาให้รับชม รวมถึงเสริมฟีเจอร์ใหม่ “โทรฟรี” ทุกเครือข่ายโดยไม่เสียค่าอินเทอร์เน็ต ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากด้วยยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 160% เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ใช้บริการ สามารถติดต่อสื่อสารได้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
