xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดคลาวด์ระอุ ไมโครซอฟท์ควงเอสเอพี ผสานโซลูชั่นบน “อาซัวร์”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ (นั่ง / ซ้ายมือ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และ เวเรน่า เซียว (นั่ง / ขวามือ) กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ภูมิภาคอินโดไชน่า พร้อมด้วยทีมผู้บริหารจากทั้งสองบริษัท
ตลาดคลาวด์แข่งเดือด ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และเอสเอพี ประเทศไทย ประกาศความร่วมมือเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าเอสเอพีในประเทศไทย ต่อยอดความร่วมมือระดับโลกระหว่างทั้ง 2 บริษัทด้วยการผสาน 2 แพลตฟอร์มเข้าด้วยกันบนแพลตฟอร์มคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ ผลคือลูกค้าของเอสเอพีจะสามารถเริ่มต้นใช้งาน SAP S/4HANA® ระบบ ERP อัจฉริยะรุ่นล่าสุด และโซลูชั่นอื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม SAP® Cloud ได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น

เวเรน่า เซียว กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่าการทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์จะช่วยให้ลูกค้าสามารถอัปเกรดมาใช้งาน S/4HANA ได้สะดวกสบายกว่าเดิมมาก ด้วยกระบวนการวางระบบที่คล่องตัว ใช้งานศักยภาพของระบบคลาวด์จากไมโครซอฟท์อย่างเต็มที

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย ผ่านทางความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ทั้งในเชิงกลยุทธ์และการผนึกกำลังกันระหว่างเครือข่ายพันธมิตรของทั้งสองฝ่าย จนทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ ติดตั้ง บำรุงรักษา และสร้างความเชี่ยวชาญในการใช้งานโซลูชั่นของ SAP บนระบบคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์”

ความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์และเอสเอพีจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินหน้าปฏิรูปธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และพร้อมปรับตัวรับมือสภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยเครื่องมือและแพลตฟอร์มชั้นนำที่ยกระดับประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินทรัพย์และการดำเนินงานของธุรกิจ เพื่อให้ทุกองค์กรได้มุ่งความสนใจไปที่การปรับกลยุทธ์และทิศทางในการดำเนินงาน โดยปราศจากความกังวลในด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี


การผนึกกำลังกันในครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดความร่วมมือระดับโลกระหว่างทั้งสองบริษัท ภายใต้โครงการ Project Embrace เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าสำหรับลูกค้าในการปรับเปลี่ยนระบบงานขึ้นสู่คลาวด์ โดยในประเทศไทย ไมโครซอฟท์และเอสเอพีจะทำงานร่วมกันในทุกระดับ นับตั้งแต่การวางแผนงานไปจนถึงการทำตลาด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ลูกค้าได้เข้าถึงนวัตกรรมล่าสุดจากทั้งเอสเอพีและไมโครซอฟท์ได้รวดเร็วกว่าที่เคย และสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้มากขึ้น


นอกจากเอสเอพีและไมโครซอฟท์แล้ว ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมถึงเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในด้านการนำเสนอแพ็คเกจบริการแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งแผนงานโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาระบบ และการทำตลาดโซลูชั่นเพื่อให้ลูกค้าได้เล็งเห็นถึงเส้นทางที่ราบรื่นและชัดเจนในการยกระดับการทำงานขึ้นสู่คลาวด์ โดยไมโครซอฟท์จะร่วมนำเสนอและจำหน่ายโซลูชั่นต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม SAP Cloud ร่วมไปกับคลาวด์ของไมโครซอฟท์เอง จึงทำให้ลูกค้าที่ใช้งานโซลูชั่น SAP ERP และ SAP S/4HANA อยู่แล้ว สามารถถ่ายโอนระบบจากเซิร์ฟเวอร์ขององค์กรขึ้นสู่คลาวด์ได้ง่ายขึ้น ขณะที่ลูกค้าใหม่ก็สามารถสัมผัสกับโซลูชั่นของ SAP บนไมโครซอฟท์ อาซัวร์ได้ ผ่านทางโครงการนำร่อง SAP on Azure Kickstarter Program ที่เปิดโอกาสให้องค์กรต่าง ๆ ได้ทดลองใช้งานฟรี

เอสเอพียังได้ตอบสนองต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการเปิดให้ทุกองค์กรสามารถใช้งานโซลูชั่นของบริษัทบางส่วนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นเพื่อสนับสนุนการทำงานนอกสถานที่ ที่ช่วยให้องค์กรสามารถรับฟังความเห็นของพนักงานได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไปจนถึงการเชื่อมโยงให้ผู้ซื้อและผู้ขายตลอดทั้งซัพพลายเชนยังสามารถเข้าถึงกันและกันได้ ผ่านทาง SAP Ariba Discovery หรือการตรวจสอบสถานะความพร้อมของคู่ค้าด้วยระบบ Supply Continuity Pulse เป็นต้น

ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวเสริมว่าเอสเอพีและไมโครซอฟท์จะทำงานประสานกันในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่ทีมผู้บริหารระดับสูง ไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญฝ่ายวิศวกรรมและทีมสนับสนุนลูกค้าทุกคน เพื่อมอบประสบการณ์บนแพลตฟอร์มของเอสเอพีที่ดีที่สุดบนคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์

“โครงการนำร่อง SAP on Azure Kickstarter Program นับเป็นโอกาสอันดีที่ธุรกิจในประเทศไทยจะได้สัมผัสกับหลากหลายคุณสมบัติและสมรรถนะของโซลูชั่นครบวงจรจากเอสเอพี บนโครงสร้างพื้นฐานที่ทรงพลัง พร้อมรับมือทุกความเปลี่ยนแปลงของธุรกิจจากไมโครซอฟท์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำการลงทุนใด ๆ จึงสามารถทดลองใช้งานและค้นพบความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการยกระดับประสิทธิภาพขององค์กร ด้วยความยืดหยุ่นสูงสุดที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและรับมือกับทุกสภาพการณ์”

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ใช้งาน SAP ERP และ SAP S/4HANA อยู่ในขณะนี้ จะมีคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ เป็นตัวเลือกอันดับแรกในการก้าวขึ้นสู่คลาวด์ ภายใต้แนวทางการปฏิบัติงานที่ผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพมาแล้ว แผนโครงสร้างระบบที่ได้มาตรฐานสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม และบริการครบครันที่เรียกใช้งานได้ผ่านคลาวด์ โดยลูกค้ายังจะได้รับบริการจากเอสเอพีโดยสมบูรณ์ในกรณีที่ตัดสินใจติดตั้งและย้ายระบบ SAP HANA® Enterprise Cloud ที่ใช้งานบริการคลาวด์อื่นอยู่ก่อนแล้วมายังแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ดี เอสเอพียังคงมีนโยบายที่เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มคลาวด์ที่ตอบโจทย์ของธุรกิจได้ตามต้องการเช่นเคย

3 รายละเอียดสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากความร่วมมือภายใต้โครงการ Project Embrace บนแพลตฟอร์มคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ คือ 1. ความสะดวกสบายกับการย้ายระบบจาก SAP ERP บนโครงสร้างพื้นฐานของบริษัทเอง ขึ้นสู่ SAP S/4HANA บนคลาวด์ สำหรับลูกค้าที่ใช้งานชุดผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเอสเอพีและไมโครซอฟท์พร้อมนำเสนอชุดโซลูชั่นคลาวด์ที่ปรับแต่งมาสำหรับความต้องการที่แตกต่างกันไปของแต่ละอุตสาหกรรม พร้อมด้วยแผนโครงสร้างระบบที่ผ่านการรับรองและขั้นตอนการวางระบบที่ทั้งชัดเจนและรวดเร็ว

2. ทีมสนับสนุนลูกค้าจากทั้งไมโครซอฟท์และเอสเอพี ประสานงานกันเพื่อการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ อาซัวร์ และ SAP Cloud ทำให้การย้ายระบบราบรื่นยิ่งขึ้น และสร้างความชัดเจนในการสื่อสารกับลูกค้า และ 3. ขั้นตอนการก้าวสู่คลาวด์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ภายใต้การพัฒนาร่วมกันโดยเอสเอพี ไมโครซอฟท์ และพันธมิตรผู้วางระบบ โดยครอบคลุมถึงการแนะนำโซลูชั่นที่เหมาะสม ภายใต้แผนโครงสร้างระบบที่ตรงกับความต้องการในแต่ละอุตสาหกรรม จึงผสมผสานทั้งผลิตภัณฑ์ บริการ และแนวทางปฏิบัติที่ตอบโจทย์ได้อย่างครบถ้วน

ไมค์ ชาน ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคลาวด์และเอนเตอร์ไพรส์ ไมโครซอฟท์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวอีกว่าเอสเอพีและไมโครซอฟท์ได้รวบรวมทุกศักยภาพ ทั้งในด้านการสนับสนุนลูกค้าและด้านเทคโนโลยี เพื่อมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดกับโซลูชั่นของเอสเอพีบนอาซัวร์ ทั้งยังอำนวยความสะดวกในการทดลองใช้ จัดซื้อ ติดตั้ง และให้บริการกับโซลูชั่นต่าง ๆ ของเอสเอพี

“นอกจากนี้ เรายังมีแผนโครงสร้างระบบที่ได้มาตรฐาน ช่วยให้ลูกค้าได้ใช้งานแอปพลิเคชันของ SAP บนอาซัวร์ได้เต็มประสิทธิภาพในรูปแบบที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ตอบสนองความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงินการธนาคาร พลังงาน ค้าปลีก หรือสาธารณสุข”



กำลังโหลดความคิดเห็น