เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่กับแอปพลิเคชัน “moomall” แอปฯ Social Commerce ที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากในขณะนี้ ในงาน Tech The Next Step เปลี่ยนโรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ให้กลายเป็นแหล่งรวมพลคนกระหายการเรียนรู้ เรื่องเทรนด์การช้อปปิ้งออนไลน์ รวมถึงมีวิทยากรชั้นนำในโลกออนไลน์มาให้ความรู้กันแบบไม่มีกั๊ก ได้แก่ คุณป้อม - ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้ง TARAD Group คุณโซอี้ ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี เอล อีโนเวชั่น จำกัด ผู้ก่อตั้งผ้าพันคอแบรนด์ โซอี้ สคาร์ฟ และคุณเปี๊ยก - บุญชัย ลิ่มอติบูลย์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิชัน moomall
ภายในงานบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้เข้าฟังกว่าพันคนเข้าร่วมงาน โดยงานเริ่มต้นให้ความรู้โดย คุณป้อม - ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้ง TARAD Group เล่าถึงตลาด E-Commerce ว่า
“ธุรกิจ E-Commerce ในปี 2561 นั้นมีมูลค่าสูงถึง 3.1ล้านล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปี 2560 ถึง 14.04%
อัตราการเติบโตของธุรกิจประเภท B2B เติบโตขึ้นกว่า 13.55% ซึ่งทำให้เกิดธุรกิจออนไลน์มากขึ้น
อัตราการเติบโตของธุรกิจประเภท B2C เติบโตขึ้นกว่า 14.04% เป็นผลดีต่อพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากขึ้น
อัตราการเติบโตของธุรกิจประเภท B2G เติบโตขึ้นกว่า 15.50% นับได้ว่าเติบโตสูงสุดเลยทีเดียว
“ส่วนช่องทางในการทำ E-Commerce แบ่งออกเป็น Social media 40% E-Marketplace 35% และ E-tailers/Brand 25% สำหรับสินค้าใดขายดีใน E-Commerce
1.แฟชั่น และความงาม
2.อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
3.อาหาร และอาหารเสริม
4.เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
5.ของเล่น และของทำมือ
“หมวดหมู่ที่กำลังจะมาแรง ผมคิดว่าเป็นหมวดหมู่อาหาร เพราะธุรกิจอาหารคือการซื้อซ้ำ อัตราการซื้อก็จะสูงกว่าธุรกิจเสื้อผ้า”
หลังจากอัพเดทเทรนด์ E-Commerce เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณโซอี้ ภญ.โสภา พิมพ์สิริพานิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส ซี เอล อีโนเวชั่น จำกัด ผู้ก่อตั้งผ้าพันคอแบรนด์ โซอี้ สคาร์ฟ ได้เล่าถึงการทำการตลาดออนไลน์ใน Social Media ไว้ว่า
“พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ใจร้อนขึ้น ความจงรักภักดีต่อแบรนด์ลดลง ทำให้การทำการตลาดออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญมาก สิ่งที่คนทำการตลาดออนไลน์ควรรู้คือ ต้องทันความเปลี่ยนแปลงของ Social Media รู้ถึงกลไกการทำงานในแพลตฟอร์มที่ใช้เป็นอย่างดี เช่น Facebook ว่าทำไมคนจึงชอบเล่น Facebook เพราะอัลกอริทึมของ Facebook จะแสดงสิ่งที่ผู้ใช้งานชอบเท่านั้น คำถามคือ Facebook รู้ได้อย่างไร ว่าผู้ใช้งานคนไหนชอบอะไร คำตอบก็คือ
1.เก็บข้อมูลผู้ใช้ (Profile)
2.ติดตามสถานที่ (Places)จาก GPS
3.พฤติกรรมการเล่น Facebook จากการกดไลค์เพจ เนื้อหา และแคปชั่นใน Facebook
4.พฤติกรรมการเล่น Internet จากการท่องเว็บของเรา และเชื่อมโยงไปยังโฆษณาที่เกี่ยวข้อง
“การทำการตลาดออนไลน์บน Facebook จึงควรทำคอนเทนต์ให้ถูกใจกลุ่มเป้าหมาย ใช้แนวคิด เน้นลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง (Media revolution) ภาษาที่ใช้สื่อสารควรเป็นภาษาที่คุยกับเพื่อน คอนเทนต์ที่สื่อออกมาจะต้องจริงใจ เหมือนว่าเจ้าของแบรนด์หวังดีกับเพื่อนคนหนึ่ง ต้องการส่งสิ่งดีๆ ให้เพื่อน”
ปิดท้ายด้วย คุณเปี๊ยก - บุญชัย ลิ่มอติบูลย์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน moomall ได้ไขข้อข้องใจว่า moomall คืออะไร ดังต่อไปนี้
“ปัจจุบันการซื้อสื่อของประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท และเติบโตอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 28.2% โดย Facebook ครองสัดส่วนไปกว่า 29% หรือประมาณ 5,762 ล้านบาท ต้นทุนเฉลี่ยในการกดเข้าดูลิงก์ใน Facebook เฉลี่ย เท่ากับ 1.72 USD (ประมาณ 54บาท) และอัตราส่วนของผู้เข้าดูลิงก์และตัดสินใจซื้อใน Facebook เฉลี่ยเท่ากับ 9.21% เรากำลังจ่ายค่าการตลาดให้ต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสินค้าของเรา ค่าการตลาดตรงนี้ ทำไมไม่เอามาให้ผู้บริโภค ซึ่ง moomall ลดการจ่ายเงินค่าโฆษณาส่วนนี้ได้ โดยอาศัยการบอกต่อ”
“moomall คือแพลตฟอร์มที่เป็น Social Commerce ให้ทุกคนมาร่วมทำการตลาด มาช่วยขายสินค้าหรือบริการ ให้กับคนอื่นๆ โดยเครื่องมือที่ใช้ทำการตลาดก็คือ การบอกต่อ โดยใช้ Influencer แต่ Influencer หรือผู้ทรงอิทธิพลในที่นี้ คือคนใกล้ตัว เช่น เพื่อนสนิท ฯลฯ เมื่อเพื่อนแนะนำเพื่อน ก็จะได้ผลมากกว่าที่คนไม่รู้จักมาแนะนำ และการทำการตลาดแบบนี้ไม่ต้องเสียเงินให้ค่าโฆษณาใดๆ ทั้งสิ้น”
สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามอัพเดทข่าวสารกับ moomall สามารถติดตามได้ที่ไลน์ @moomallofficial และเฟซบุ๊กแฟนเพจ moomallofficial