แอปเปิล (Apple) รายงานตัวเลขรายรับจากการจำหน่ายไอโฟน (iPhone) ทะลุ 33,360 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ตัวเลขนี้รวม iPhone 11 รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวช่วงปลายไตรมาสที่ 4 ของปีงบการเงิน 2019 พอดี นักวิเคราะห์ยอมรับแผนวางจำหน่าย iPhone 5G ในช่วงปีหน้าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้ร้อนแรงอีกในอนาคต
ทิม คุก (Tim Cook) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทแอปเปิล (Apple Inc.) ประกาศตัวเลขรายรับจากธุรกิจ iPhone ที่เหนือกว่าคำประเมินของนักวิเคราะห์ ที่คาดว่ารายรับจะอยู่ที่ 32,420 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 980,056 ล้านบาท แต่ผลงานที่ Apple ทำได้ 1 ล้านล้านบาทนี้ถือว่าลดลง 9% ต่อปี ซึ่งเห็นชัดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยอดขาย iPhone ไม่ได้อยู่ในช่วงขาลงเท่านั้น เพราะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ซึ่งรายรับของ iPhone ทำได้ 25,990 ล้านเหรียญ (ราว 785,677 ล้านบาท)
น่าเสียดายที่ Apple เปลี่ยนนโยบายเป็นไม่เปิดเผยยอดขายจำนวนเครื่องของ iPhone โดยให้เหตุผลว่ากำลังพยายามปรับเปลี่ยนภาพการประกาศผลประกอบการเพื่อให้นักลงทุนเข้าใจทิศทางบริษัทที่หันไปเน้นสร้างรายได้จากบริการ แต่ไม่ว่าอย่างไร iPhone ยังคงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสำหรับ Apple ซึ่งเพิ่งเปิดตัว iPhone 11 รุ่นใหม่ล่าสุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์บางรายคาดว่ายอดขาย iPhone จะร้อนแรงมากในไตรมาสหน้า โดยเฉพาะปี 2020 เมื่อ Apple เปิดตัวโทรศัพท์ 5G ซึ่งก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายได้ของ iPhone รายงานจากสำนักพิมพ์นิคเคอิ เอเชียน รีวิว (Nikkei Asian Review) รายงานว่า Apple กำลังวางแผนจัดส่ง iPhone 5G ใหม่อย่างน้อย 80 ล้านเครื่อง โดยอ้างถึงแหล่งข้อมูลลับที่ไม่มีการเปิดเผยนาม
นักวิเคราะห์เชื่อว่าการออก iPhone 5G จะสามารถดึงดูดลูกค้า iPhone จำนวนมากให้อัปเกรดจากรุ่นปัจจุบันที่ถือในมือ เนื่องจากหลายคนติดอยู่กับ iPhone รุ่นเก่าเป็นระยะเวลานานขึ้น
เห็นได้ชัดจากการสำรวจของไปเปอร์ แจฟเฟรย์ (Piper Jaffray) พบว่าในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใช้งาน iPhone จำนวน 1,050 ราย ราว 23% ยอมรับว่าจะอัปเกรดเป็นรุ่น 5G แม้จะวางจำหน่ายในราคา 1,200 เหรียญสหรัฐ สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นจาก 18% ของกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้ iPhone ที่เคยตอบไว้เมื่อกลางปี และการสำรวจพบว่าผู้ใช้บางรายอั้นซื้อเพื่อรอโทรศัพท์ 5G.