หัวเว่ยเปิดตัวชิปเซ็ต 5G รุ่นใหม่ชื่อ “คิริน 990” (Kirin 990) สำหรับใช้ในอุปกรณ์พกพาของตัวเอง ระบุพร้อมนำมาประเดิมใน Mate 30 แฟลกชิปรุ่นใหญ่ที่จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับไอโฟน (iPhone) รุ่นล่าสุดที่มีคิวเปิดตัว 10 กันยายนนี้ ท่ามกลางสัญญาณชัดเจนว่านักษ์ใหญ่จีนกำลังยื่นมือควบคุมซัปพลายเชนใกล้ชิดกว่าเดิม ในช่วงเวลาที่ได้รับความกดดันเต็มที่จากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
ริชาร์ด หยู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป เปิดตัวชิปเซ็ตระดับแฟลกชิปรุ่นล่าสุดในตระกูล Kirin 990 ระหว่างกล่าวบนเวทีงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค IFA ที่กรุงเบอลิน ระบุว่า Kirin 990 จะมาทั้งรุ่นมาตรฐานและรุ่น 5G ซึ่ง Kirin 990 5G นี่เองที่จะเป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกของโลกที่พร้อมมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G ที่เหนือกว่า ในขวบปีแรกที่เครือข่าย 5G พร้อมทำตลาดในเชิงพาณิชย์
“ชิปเซ็ต Kirin 990 (5G) ได้รับการพัฒนาให้พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในยุค 5G ด้วยสมรรถนะและความประหยัดพลังงานที่เหนือชั้น ศักยภาพเต็มเปี่ยมสำหรับการใช้งาน AI และการถ่ายภาพ จึงสามารถยกระดับการใช้งานสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น”
การเปิดตัวชิป Kirin 990 เป็นหนึ่งในความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นหลังจากที่หัวเว่ยได้รับผลกระทบทั่วโลกจากการถูกขึ้นบัญชี Entity List ของรัฐบาลสหรัฐฯตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2019 ซึ่งเป็นบัญชีที่ไม่อนุญาตให้บริษัทอเมริกันจำหน่ายสินค้า บริการ หรือเทคโนโลยีกับบริษัทที่อยู่ในรายการ EL นี้ หนึ่งในผลกระทบที่ทิ่มตำ Huawei มากที่สุดคือตลาดคอนซูเมอร์ เพราะบริโภคกังวลกันมากว่าสมาร์ทโฟน Huawei อาจใช้บริการของกูเกิล (Google) และเฟซบุ๊ก (Facebook) ไม่ได้ในอนาคต รวมถึงสินค้าและบริการจากบริษัทอเมริกัน ทำให้หัวเว่ยต้องพัฒนาระบบปฏิบัติการ HarmonyOS และชิป Kirin 990 ด้วยตัวเอง
สำหรับชิปเซ็ต Kirin 990 หัวเว่ยยกให้ Kirin 990 (5G) เป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกของโลก และเป็นชิปเซ็ตที่มีขนาดเล็กที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน 5G ด้วยกระบวนการผลิตสุดล้ำแบบ 7 nm+ EUV พร้อมด้วยโมเด็ม 5G ที่ติดตั้งมาในตัว ซึ่งทำให้ขนาดของชิปเซ็ตเล็กลง ทั้งยังใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย นอกจากนี้ Kirin 990 (5G) ยังเป็นชิปเซ็ต 5G รุ่นแรกที่รองรับการเชื่อมต่อครบครันทั้งในแบบ non-standalone (NSA) ซึ่งใช้งานคลื่นความถี่ 4G และ 5G ร่วมกัน และแบบ standalone (SA) ที่ใช้เครือข่าย 5G เต็มรูปแบบ
Kirin 990 (5G) ยังใช้งานได้กับคลื่นความถี่ทั้งแบบ TDD และ FDD จึงตอบโจทย์ในทุกสภาวะเครือข่าย ด้วยนวัตกรรมการเชื่อมต่อ 5G สุดเหนือชั้นจากชิปโมเด็ม Balong 5000 ชิปเซ็ต Kirin 990 (5G) จึงทำความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2.3 Gbit ต่อวินาที และอัปโหลดข้อมูลได้ที่ 1.25 Gbit ต่อวินาที เหนือกว่าทุกประสบการณ์ 5G ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ Kirin 990 (5G) เป็นชิปเซ็ตระดับแฟลกชิปรุ่นแรกที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลปัญญาประดิษฐ์แบบคู่ (dual-core NPU) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากสถาปัตยกรรม Da Vinci โดยประกอบไปด้วยคอร์ประมวลผล NPU ขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่ทำงานร่วมกัน โดยคอร์ขนาดใหญ่จะมอบประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม พร้อมด้วยการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า สำหรับกรณีการประมวลผลที่ต้องการสมรรถนะสูง ขณะที่คอร์ขนาดเล็ก ซึ่งนำมาใช้งานเป็นครั้งแรกของโลก ก็พร้อมรับมือการประมวลผลที่ใช้พลังงานน้อย จึงทำให้มอบประสิทธิภาพการประมวลผล AI ได้เต็มที่ ภายใต้สถาปัตยกรรม NPU ที่ล้ำยุค
ไม่เพียง Kirin 990 (5G) ที่มีประสิทธิภาพเด่นเรื่องการเล่นเกม การถ่ายภาพ และประมวลผลวิดีโอคมชัด แต่ชิปเซ็ต Kirin 990 รุ่นมาตรฐาน ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับรุ่น 5G ก็พร้อมมอบประสิทธิภาพเต็มพิกัด ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงาน สมรรถนะด้าน AI และการถ่ายภาพเช่นกัน ทำให้หัวเว่ยการันตีว่าจะมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับกลุ่มผู้ใช้สมาร์ทโฟน 4G ทั่วไป
รู้กัน 19 กันยายน 62
Mate 30 แฟลกชิปรุ่นใหญ่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งานอีเวนท์ซึ่งหัวเว่ยจะจัดขึ้นที่เมือง Munich สวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 19 กันยายนนี้ แต่ด้วยข้อจำกัดของการที่หัวเว่ยถูกขึ้นบัญชี EL ทำให้ Google ประกาศแล้วว่า Huawei Mate 30 จะไม่สามารถเปิดตัวพร้อมแอปพลิเคชันกลุ่ม official Google apps ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นเอง ทำให้โลกจับตาว่าพิษสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯจะทิ้งระเบิดลูกใหญ่ให้หัวเว่ยหรือไม่ เพราะ Mate 30 คือเรือธงสำคัญที่หัวเว่ยเตรียมมาเป็นอาวุธบุกตลาดโลกในช่วงปลายปีนี้
ในขณะที่โลกรอดู Mate 30 หัวเว่ยหันมาเผยโฉม HUAWEI P30 Pro สีใหม่ Mystic Blue และ Misty Lavender โดย P30 เป็นสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นที่ขายดีที่สุดของหัวเว่ย ซึ่งสี Mystic Blue นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากสีของท้องฟ้าที่สะท้อนจากพื้นผิวน้ำทะเล ขณะที่สี Misty Lavender คล้ายคลึงกับสีชายหาดภายใต้แสงอาทิตย์อัสดง
นอกจากการอัปเกรดรูปลักษณ์ P30 Pro น้องใหม่ทั้ง 2 สียังมาพร้อมกับฟีเจอร์การปรับแต่งภาพถ่ายและวิดีโอที่ดีขึ้น ในขณะที่ EMUI 10 ยังช่วยส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลไม่มีสะดุด รองรับกับไลฟ์สไตล์สุดสมาร์ทของชีวิตคนเมือง
ในงานนี้ ริชาร์ด หยู ยังเผยโฉม HUAWEI FreeBuds 3 ซึ่งเป็นหูฟังไร้สายรุ่นแฟลกชิปของหัวเว่ย หูฟังนี้มาพร้อมกับกล่องเก็บทรงกลม จุดเด่นคือการสวมใส่ที่สบายหู มาพร้อมกับ 2 สีให้เลือก ได้แก่ สีขาวและสีดำ ถือว่า FreeBuds 3 เป็นหูฟังไร้สายตัวแรกที่ใข้ชิปเซ็ต Kirin A1 ทำให้สามารถเชื่อมต่อสัญญาณกับดีไวซ์ต่างๆ ได้เร็วทันใจ
