เจมาร์ท เผยสถิติตลาดซื้อขายโทรศัพท์มือถือไทยไตรมาส 1 และ 2 ที่ผ่านมา อัตราเติบโตไม่สูง ครึ่งปีแรกติดลบ 4-5% ผลจากการซับซิไดซ์ของโอเปอเรเตอร์น้อยลง และเป็นไปตามวงจรการซื้อสมาร์ทโฟนที่มักร้อนแรงช่วงปลายปี ฟันธงต้องรอให้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงปลายปีนี้แจ้งเกิด จึงจะกลับมาบวกได้ คาดรวมทั้งปี 2018 ตลาดมือถือไทยโตไม่เกิน 5%
แม้ตลาดรวมไทยไม่คึกคัก แต่เจมาร์ท มั่นใจว่า บริษัทจะทำรายได้เพิ่มขึ้น 10% จากยอดขายรวมปีที่แล้ว 10,500 ล้านบาท เนื่องจากการให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ล่าสุด เจมาร์ทนำร่องโมเดลบริการหลังการขายแนวใหม่ ด้วยการจับมือบริษัทลูกอย่าง “เจพีประกันภัย” เทงบประมาณดำเนินโครงการราว 5 ล้านบาท ให้ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนราคาเกิน 8,000 บาท กับเจมาร์ท ได้สิทธิฟรีประกันหน้าจอแตก 6 เดือน คู่กับประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองเจ้าของเครื่อง 6 เดือน วงเงินสูงสุด 100,000 บาท
*** สมาร์ทโฟนต่ำกว่า 8,000 บาท หมดสิทธิ
แพกเกจประกันมือถือรูปแบบใหม่ที่คุ้มครองอุบัติเหตุทั้งเครื่อง และคนนี้ ถูกเจมาร์ท ตั้งชื่อว่า “เจมาร์ทวีแคร์” (Jaymart We Care) ผลการต่อยอดจากแคมเปญรับประกันมือถือตลอดอายุการใช้งาน Jaymart Lifetime Warranty ซึ่งเจมาร์ท ระบุว่าได้รับความนิยมสูงมากจนทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนในร้านเจมาร์ท สูงขึ้น 30% ในปี 2017 ที่ผ่านมา เบื้องต้น แคมเปญใหม่ Jaymart We Care ยังจำกัดเฉพาะลูกค้าผู้ซื้อสมาร์ทโฟนราคา 8,000 บาทขึ้นไปเท่านั้น ยังไม่เปิดให้ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 8,000 ซื้อประกันเพิ่มในขณะนี้
ดุสิต สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่ากลยุทธ์ Jaymart We Care เกิดขึ้น เพื่อหวังให้ลูกค้ารับรู้ความแตกต่างเมื่อซื้อโทรศัพท์มือถือที่เจมาร์ท ซึ่งการรับประกันจอแตกที่ลูกค้าจะได้รับเพิ่ม จะคลุมสมาร์ทโฟนรุ่นที่ออกแบบให้หน้าจอติดกับแบตเตอรีด้วย
“ถ้าหน้าจอแตก เราจะเปลี่ยนให้หมดทั้งเซ็ต หวังว่าเมื่อ Jaymart We Care รวมกับ Jaymart Lifetime Warranty เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายเจมาร์ทโตขึ้นได้อีก”
แม้จะไม่ได้พูดชัดเจนถึงเหตุผลที่ต้องเป็นสมาร์ทโฟนราคาหลัก 8,000 บาท แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้องกับระดับราคาเฉลี่ยสมาร์ทโฟนไทย จุดนี้ ดุสิต ให้รายละเอียดว่า ราคาเฉลี่ยสมาร์ทโฟนที่คนไทยซื้อไปต่อเครื่อง เพิ่มขึ้นจากหลัก 7,000 บาทมาเป็น 8,000 บาทในปีนี้
“กลุ่มสมาร์ทโฟน ที่เติบโตเร็ว คือ กลุ่มกลางราคาเกิน 7,000 บาท ซึ่งเติบโตขึ้นมาเป็น 40-45% ของตลาดรวม” ผู้บริหารเจมาร์ท เผยว่า ตลาดรวมสมาร์ทโฟนไทยปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ราว 18 ล้านเครื่อง เติบโตเป็นเลข 1 หลัก
สำหรับ “เจพี ประกันภัย” เป็นธุรกิจประกันภัยในเครือเจมาร์ท ซึ่งเชื่อว่าจะมีบริการผูกพ่วงอื่นอีกในอนาคต จุดนี้ ดุสิต ย้ำว่า เจพีฯ เพิ่งเริ่มให้บริการปีนี้เป็นปีแรก หลังจากเจมาร์ท เข้าซื้อกิจการประกันภัยมา ขณะนี้เจพีฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการประกันภัยแบบ non life ให้บริการประกันภัยรถยนต์ และ พ.ร.บ. ทิศทางของเจพี คือ จะเป็นบริษัท insure tech โดยเตรียมเปิดตัวบริการประกันภัยด้วยเทคโนโลยีอื่น ขณะเดียวกัน ก็จะ Synergy เข้ากับธุรกิจรีเทลของกลุ่มเจมาร์ท เต็มที่
สถิติสำคัญที่บ่งบอกว่า ทำไมเจมาร์ทจึงเลือกทำแคมเปญประกันภัย คือ ฐานสมาชิก Enjoy Card บริการที่เจมาร์ท เปิดให้ผู้ซื้อสมาร์ทโฟนสามารถจ่ายเงินเพิ่ม 300 บาท แลกกับการขยายเวลารับประกันเปลี่ยนเครื่องใหม่นาน 30 วัน (เพิ่มจากปกติ 7 วัน) ความกังวลของผู้ซื้อที่ห่วงว่า โทรศัพท์มือถือจะมีปัญหาหลังสัปดาห์แรกของการใช้งานนั้นมีสูงมาก จนทำให้ Enjoy Card ของเจมาร์ท มีฐานผู้ใช้รายใหม่ 15,000 รายต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม อัตราการเคลมประกันหน้าจอแตกของลูกค้าเจมาร์ท อยู่ในสัดส่วนต่ำ คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 5% ถือเป็นกำไรที่เจมาร์ท คว้าไปได้จากเล่นบนความเสี่ยงในใจผู้บริโภค
***ปีนี้ เจมาร์ท ขยาย 60 สาขา
ปัจจุบัน เจมาร์ท เปิดบริการ 205 สาขา ปีนี้ตั้งเป้าเปิดร้านใหม่เพิ่มราว 60 สาขา บนงบประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะมีการปิดร้านบางส่วน เบ็ดเสร็จปีนี้คาดว่าจะมีร้านเจมาร์ท ราว 240 แห่งทั่วไทย
เจมาร์ท คือ ผู้ค้าปลีกโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์อันดับ 1 ของไทย รายได้หลักของเจมาร์ท 78% มาจากธุรกิจค้าปลีกของเจมาร์ทโมบาย นอกจากนี้ เจมาร์ทยังทำธุรกิจค้าปลีกกล้องดิจิทัลในชื่อ เจมาร์ทคาเมรา ให้บริการ 11 สาขา คู่กับธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีในกลุ่มไอทีจังก์ชัน ผ่านซูเปอร์สโตร์อย่างบิ๊กซี 52 สาขา ขณะที่ยอดขายสินค้ากลุ่มอุปกรณ์เสริม หรือแอสเซสซอรี ยังเป็นสัดส่วนเลข 1 หลัก แม้จะกินพื้นที่วางจำหน่ายเกิน 40% ของร้านสาขา
นโยบายเปิดร้านของเจมาร์ท สวนทางกับภาวะตลาดอีคอมเมิร์ซบูม จุดนี้ดุสิตย่ำว่า ตลาดค้าปลีกสมาร์ทโฟนออนไลน์วันนี้มีผลกับตลาดไทยบางส่วนเท่านั้น แม้แต่ประเทศจีนก็เริ่มอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากการบริการที่ด้อยกว่า ขณะที่คนไทยยังไม่ชำนาญเรื่องการโอนข้อมูล
สำหรับความร่วมมือระหว่างแบรนด์ที่จับมือกับโอเปอเรเตอร์จำหน่ายเครื่องแบบเอ็กซ์คูลซีฟ เช่น เสี่ยวหมี่ ที่จับมือเอไอเอส จำหน่ายสมาร์ทโฟนราคาพิเศษ ผู้บริหารเจมาร์ท มองว่าไม่ได้รับผลกระทบ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแบรนด์ที่ให้ส่วนแบ่งการขายที่สูงกว่า.