“Techsauce” ผนึกพันธมิตรระดับโลกเปิดงาน Techsauce Global Summit 2018 งาน Tech Conference รวบรวมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีใหญ่สุดในอาเซียน วิทยากร-นักลงทุน-สตาร์ทอัป-เอสเอ็มอี-ผู้สนใจจากทั่วโลกนับ 10,000 ชีวิตตบเท้าร่วมงาน อัดแน่นสัมมนาผ่าน 10 เวที อาทิ FoodTech LivingTech FinTech Blockchain AI เสริมแกร่งธุรกิจไทยรับมือยุค Disruptive Technology คาดเกิดการจับคู่ธุรกิจกว่า 500 ดีล
น.ส.อรนุช เลิศสุวรรณกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทคซอส มีเดีย จำกัด ผู้จัดงาน Techsauce Global Summit เปิดเผยว่า การจัดงาน Techsauce Global Summit 2018 ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากทั้งพันธมิตรระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Techstars ที่เป็นแอ็กเซอเลอเรเตอร์อันดับต้นๆ ของโลก และพันธมิตรผู้ประกอบการชั้นนำในหลายอุตสาหกรรมของไทย
ที่ประกอบด้วย บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จำกัด dtac Accelerate บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) AddVentures โดยเอสซีจี สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (TCEB) มาร่วมสนับสนุนและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่กำลังมีอิทธิพลต่อโลกกับผู้เข้าร่วมงาน ทำให้การจัดงานในปีนี้สามารถจัดได้อย่างยิ่งใหญ่ตามเป้าหมาย
“ปีนี้มีผู้สนใจซื้อบัตรเข้าร่วมงานกว่า 10,000 ราย ทั้งผู้บริหาร ภาคธุรกิจ สตาร์ทอัป ผู้สนใจในแวดวงเทคโนโลยี โดยมีทั้งกลุ่มที่ซื้อในลักษณะบุคคลทั่วไป และแบบผ่านการสนับสนุนขององค์กร สะท้อนว่าภาพรวมของทุกภาคส่วนกำลังตื่นตัวกับการอัปเดตเทรนด์ด้านเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกขณะนี้”
การจัดงานทั้ง 2 วัน ในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ประกอบด้วยไฮไลท์ ได้แก่ 1. การจัดสัมมนา (Conference) โดยแบ่งโซนสัมมนาออกเป็น 10 เวที คือ 1.1 เวที AgTech & FoodTech 1.2 เวที HealthTech 1.3 เวที LivingTech และ 1.4 เวที FinTech 1.5 เวที Startup 1.6 เวที Venture Capital (VC) 1.7 เวที Deep Tech Showcase & Head to the Future 1.8 เวที Blockchain & Cryptocurrency 1.9 เวที AR & VR และ 1.10 เวที Data Science & AI
“วิทยากรที่จะมาร่วมแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในเวทีต่างๆ มีทั้งซีอีโอ นักลงทุน และวิทยากรด้านเทคโนโลยีจากทั่วโลกรวมกว่า 200 คน อย่าง David Brown ผู้ร่วมก่อตั้ง Techstars แอ็กเซอเลอเรเตอร์อันดับต้นๆ ของโลก Joseph Lubin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum แพลตฟอร์มบนระบบ Blockchain ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวาง Mike Peng กรรมการผู้จัดการ IDEO Tokyo วิทยากรที่ได้รับความนิยมสูงมากจากงานในปีที่ผ่านมา” น.ส.อรนุช กล่าว
2. การจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) แบ่งออกเป็น 3 ห้องต่อวัน รวมกว่า 20 คลาส จัดอบรมให้แก่ผู้ที่ซื้อบัตรแบบ Grand สำหรับเข้าร่วม Workshop แบบเอ็กคลูซีฟ 3. การจัดแสดงผลงาน (Exhibition) ประกอบด้วยบูทของสตาร์ทอัปหลากหลายสายจากทั่วโลก บูทของนักลงทุนที่สนใจลงทุนในสตาร์ทอัป 4. การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เปิดพื้นที่ให้แก่สตาร์ทอัป นักลงทุน และภาคเอกชนที่กำลังต้องการนวัตกรรมเข้ามาเปลี่ยนแปลงองค์กร มีโอกาสได้เจรจาธุรกิจกัน 5. การแข่งขัน Startup Pitching รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ เฟ้นหา “Champion of Champion” จาก 20 ประเทศทั่วเอเชีย-โอเชียเนีย
ทั้งนี้ มั่นใจว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับระบบนิเวศด้านเทคโนโลยี (Tech Ecosystem) ของภูมิภาค พร้อมทั้งช่วยให้ภาคธุรกิจของไทยมีความรู้เพิ่มเติมพร้อมรับมือยุค Global Disruptive Technology และมีการจับคู่ธุรกิจเกิดขึ้นในงานไม่น้อยกว่า 500 ดีล
นายอมฤต เจริญพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Hubba กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 3 และมีผู้เข้างานราว 10,000 คน ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วถึงเท่าตัว ที่มีผู้เข้าร่วมงานราว 5,500 คนในงานมีสตาร์ทอัปกว่า 300 รายที่มาโชว์ผลงานของเขา และมีผู้พูดจากนานาชาติราว 300 คน ที่มาร่วมในงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่นี้
งานสัมมนาครั้งนี้เป็นการนำคนที่เก่งที่สุด ดีที่สุด ฉลาดหลักแหลมที่สุดใน new economy มาแชร์ไอเดีย แชร์ความสำเร็จ และประโยชน์ที่จะมีต่อสังคมโลกในภาพใหญ่ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกัน เป็นหุ้นส่วนกัน และผนึกกำลังกัน เพื่อสร้างความก้าวหน้าในทุกๆ ด้านให้กับสังคม
นายชาล เจริญพันธุ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Hubba กล่าวเสริมว่า ในงานมีทั้งผู้พูด และการพูดคุยแบบกลุ่มย่อยในทุกระดับชั้น และมีเนื้อหาที่ครอบคลุมหลายด้าน ทั้ง ฟินเทค เอไอ บล็อกเชน คริปโต และ HealthTech ทำให้เชื่อมั่นว่านี่จะเป็นงานสัมมนาระดับนานาชาติที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียวกัน เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม และสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศไทย
