ภาพของการที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 นอกจากการผลักดันของรัฐบาลแล้ว ในส่วนของภาคเอกชนที่ให้บริการทางด้านโครงสร้างพื้นฐานก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ที่จะช่วยยกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยให้ล้ำสมัย บนเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่าง IoT
ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การประกาศเปิดให้บริการเครือข่าย NB-IoT ของ เอไอเอส (AIS) ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการนำเทคโนโลยี IoT หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งมาใช้ จากการขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด
ส่งผลให้มีหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน เริ่มนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปปรับใช้เพื่อให้บริการอย่างการที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นำระบบ Smart Environment เซ็นเซอร์ตรวจวัดสภาพอากาศ และบริหารจัดการน้ำ ไปใช้งานจริงแล้วที่เทศบาลนครหาดใหญ่ และจังหวัดภูเก็ต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำ Smart Trash Bin มาช่วยแก้ไขปัญหาขยะล้นถัง เพื่อใช้ดูแลทัศนียภาพ และความสะอาดภายในมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พัฒนาโซลูชันในการดูแลคุณภาพยาและเวชภัณฑ์ภายในคลังยา เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสม และนำไปใช้งานจริงแล้วภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยสุรนารี
ส่วนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำโซลูชัน Smart City มาใช้อย่าง Smart Locker ล็อกเกอร์อัจฉริยะเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่อาคาร หรือที่อยู่อาศัย, ระบบอ่านป้ายทะเบียน เพื่อควบคุมบุคคลเข้าออกสถานที่ รวมถึงระบบควบคุมแสงสว่างภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ภาคการศึกษาเท่านั้น แต่ยังมีภาคเอกชนอย่าง ปตท. ที่นำเครือข่าย NB-IoT มาช่วยตรวจสอบงานบำรุงรักษาท่อก๊าซธรรมชาติ, พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค นำเครือข่าย AIS NB-IoT ไปสร้าง Smart City ในโครงการอสังหาริมทรัพย์แล้ว 15 โครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โครตรอนกรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญ และเครื่องหยอดเหรียญประเภทต่างๆ นำโซลูชัน Smart Coin Kiosk Machine ที่เป็นเซ็นเซอร์วัดปริมาณเหรียญภายในเครื่อง เชื่อมต่อเครือข่าย AIS NB-IoT ช่วยส่งข้อมูลแจ้งเตือนทันทีเมื่อเหรียญเต็มจากจุดต่างๆ ทั่วประเทศ ใช้งานจริงแล้วใน 77 จังหวัด
การนำไปให้บริการเหล่านี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยี IoT มาให้บริการอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าจากการที่เอไอเอส มีการสร้างเครือข่ายพันธมิตร AIAP มารับการพัฒนา IoT ในประเทศ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนใน IoT Ecosystem จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะนำ IoT มาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยไปอีกขั้น
ที่น่าสนใจ คือ AIS ได้รับการยอมรับจากฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ที่ประกาศให้เอไอเอส เป็น Thailand IoT Solutions Provider of the Year 2018 หรือองค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้านบริการ IoT
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ และลูกค้าที่สนใจนำ IoT Platform ไปใช้งาน สามารถเข้าไปปรึกษากับทางเอไอเอส ในการนำ Ecosystem ของ NB -IoT ตั้งแต่เครือข่าย อุปกรณ์ และแพลตฟอร์ม ได้ที่ Corporate call center โทร. 1149 หรือเว็บไซต์ http://business.ais.co.th/iot