xs
xsm
sm
md
lg

ไม่แค่พัทยา จับตา Rabbit Line Pay บุกแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่-ภูเก็ต-โคราช ภายในปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แรบบิท ไลน์ เพย์ (Rabbit Line Pay) ประกาศบุกแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่-ภูเก็ต-โคราช ภายในปีนี้ หลังจากจับมือรายใหญ่พัทยา “การ์ตูนเน็ตเวิร์ก อเมโซน” สร้างสรรค์สวนน้ำธีมพาร์คแรกของโลกที่รองรับการชำระเงินและดำเนินการผ่านโทรศัพท์มือถือเต็มรูปแบบ มั่นใจเป้าหมายขึ้นเบอร์หนึ่งตลาดชำระเงินผ่านมือถือใน 3 ปี หวังผู้ใช้แตะ 4-5 ล้านในปีนี้

สุรัจ พฤกษ์บุณยไชย หัวหน้ำฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Rabbit LINE Pay (RLP) กล่าวระหว่างงานแถลงความร่วมมือกับสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์กอเมโซน ที่พัทยา (CNA) ว่า เกิดขึ้นเพราะภาพลักษณ์การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว ขณะเดียวกัน ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพัทยา การใช้ RLP จะทำให้ผู้ใช้บริการสวนน้ำให้บริการสะดวก สามารถซื้อตั๋วได้ตั้งแต่ก่อนเดินทางมา มีเส้นทางด่วนหรือฟาสต์แทร็กสำหรับผู้ใช้ RLP เมื่อใช้แอปพลิเคชันจ่ายค่าอาหารเครื่องดื่ม ก็จะมีส่วนลดให้ ทั้งหมดนี้ทำให้ RLP มีลูกค้าที่กว้างขึ้น ตรงตามความต้องการขยายฐานลูกค้าที่เป็นครอบครัวมากขึ้น

“ปีนี้น่าจะเห็นการจับมือกับสถานที่ท่องเที่ยวลักษณะนี้อีก ช่วงมิถุนายนนี้ก็จะมีเปิดตัวอีก เราจะไปหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่, ภูเก็ต, โคราช ภายในปีนี้ เราจะเน้นธุรกิจทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รายเล็กและรายใหญ่” สุรัจ ระบุ โดยบอกว่า ปัจจุบัน ร้านค้าที่รองรับ RLP วันนี้มีจำนวน 9,000 ร้านค้า คาดว่าจะเกินหลักหมื่นในปีนี้

สำหรับความร่วมมือกับสวนน้ำ CNA ผู้บริหารเชื่อว่า ผู้ใช้ RLP ในสวนน้ำจะไม่กลัวสมาร์ทโฟนเปียกน้ำ เพราะที่สวนน้ำมีบริการจำหน่ายซองกันน้ำ รวมถึงสมาร์ทโฟนหลายรุ่นกันน้ำได้แบบไม่ต้องกลัวเปียก โดยสุรัจ ยอมรับว่า การปูพรมจับมือหาพันธมิตรรับชำระสินค้าและบริการผ่าน RLP นั้น เข้มข้นขึ้นชัดเจนในช่วงปีนี้ เมื่อเอไอเอส เข้ามาร่วมมือ ทำให้ทั้ง 2 บริษัทพยายามหาลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น

“ตอนนี้ก็มีคุยกับธุรกิจท่องเที่ยวอื่น สำหรับ CNA เราคุยที่แรก และคุยกันนาน เราต้องอบรมพนักงาน ดึงพนักงาน RLP มาฝึกสอนพนักงานที่นี่ ทำให้ CNA เป็นสวนน้ำดิจิทัล เป้าหมายหลัก คือ ให้คิวลูกค้ารอลดลง เราไม่ได้กำหนดเป้าหมายการใช้จ่าย นี่คือโครงการนำร่อง ไม่มีตั้งเกณฑ์ว่า หวังให้ใครใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่เราขอดูที่การเติบโต”

เบื้องต้น สุรัจ เชื่อว่า การที่ลูกค้าในสวนน้ำ CNA ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ ซึ่งอาจไม่ได้นิยมใช้งาน LINE เหมือนคนไทยนั้น ไม่ใช่ปัญหาที่อาจทำให้ RLP น้อยลง เนื่องจากสามารถใช้พาสปอร์ตเพื่อทำธุรกรรมได้ และในพื้นที่มีป้ายสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ โดยสวนน้ำ CNA มีแผนโปรโมตที่เว็บไซต์ของตัวเองด้วย และมีการตั้งงบประมาณประชาสัมพันธ์จุดขายเรื่อง “สวนน้ำดิจิทัล” ไว้ต่างหาก

เลียแคท แดนจี ประธานกรรมการบริหารสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ก อเมโซน กล่าวถึงเหตุผลที่ร่วมมือกับ LINE ว่า มาจากความชอบใช้แอปพลิเคชัน LINE โดยที่ผ่านมา ลูกค้าสวนน้ำ CNA ร้องเรียนเรื่องต่อคิวนาน เชื่อว่าการใช้ RLP จะช่วยแก้ปัญหาได้ เพิ่มความสะดวกสบาย และตอบสนองนโยบายรัฐบาลเรื่องการนำประเทศไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสด

นอกจากนี้ การที่ CNA หันมาใช้ระบบชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ยังถูกมองว่าจะแก้ปัญหาระยะยาวเรื่องการท่องเที่ยวได้ด้วย โดยวัชรพล สารสอน รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา เชื่อว่า CNA อาจเป็นต้นแบบให้สถานที่ท่องเที่ยวอื่นได้เดินตามเพื่อตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด โดยวันนี้ พัทยามีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 16 ล้านคน สัดส่วนคนไทย 50% และต่างชาติ 50% รายได้สะพัดรวม 2 แสนกว่าล้านบาทต่อปี

***หวังแชมป์อีก 3 ปี

ในภาพรวม RLP ระบุว่า บริษัทยังให้ความสำคัญที่กลุ่มลูกค้าไทยเป็นหลัก โดยตั้งเป้าว่าจะเป็นอันดับ 1 ของผู้เล่นอี-วอลเล็ต ในเมืองไทยภายในปี 2564 หรืออีก 3 ปีนับจากนี้

“วันนี้ Rabbit LINE Pay มีคนต้อนรับดีขึ้น คนสมัครมากขึ้นเพิ่มขึ้นทุกวัน คนเริ่มรู้ว่าใช้อย่างไร ในปีนี้ถือว่าเร็ว เชื่อว่าเร็วเหมือนกันทุกค่าย” สุรัจ ระบุ “การแข่งขันดุเดือดมาก ทั้งด้านการตลาด และการเซอร์วิสผู้บริโภคในมุมใหม่ ทุกคนแข่งว่าใครจะเจ๋งกว่ากันเรื่องความหลากหลาย”
นอกจากนี้ สุรัจ เผยว่า ขณะนี้มีการเจรจากับพันธมิตรนอกกรุงเทพฯ อีกราย บนข้อเสนอให้ลูกค้า RLP สามารถเติมเงินเพื่อใช้จ่ายผ่านสายรัดข้อมือเทคโนโลยีจีพีเอส ซึ่งเชื่อว่าจะต่อยอดจุดแข็งของ RLP เรื่องการไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติมของผู้ใช้ LINE ได้ดี

ผู้บริหาร RLP ทิ้งท้ายว่า บริษัทคาดหวังว่า 50% ของลูกค้าที่เข้ามาในสวนน้ำ CNA จะใช้จ่ายเงินผ่านบริการ RLP โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อล่วงหน้าก่อนเดินทางมา ทั้งหมดนี้จะปูทางไปสู่เป้าหมายใหญ่ คือ ฐานผู้ใช้บริการ RLP ที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 ล้านราย จากปัจจุบันที่มี 3 ล้านราย เพิ่มจากปีที่แล้ว 2.7 ล้านคน ท่ามกลางผู้ใช้ LINE ทั่วประเทศไทย 41 ล้านคน

สำหรับกรณีการซื้อขายกิจการระหว่างอูเบอร์ และแกร็บ (Uber และ Grab) ที่ทำธุรกิจคาบเกี่ยวกับ LINE ทั้ง LINE Taxi และ LINE MAN ผู้บริหาร Rabbit LINE Pay มองว่า จะเป็นผลดีต่อตลาด เพราะจะส่วนผลักดันให้เกิดตลาดที่ใหญ่ขึ้นในประเทศไทย โดยประเด็นที่ Grab ประกาศบุกหนักบริการอีเพย์เมนต์ในอาเซียนด้วย ผู้บริหาร RLP มั่นใจว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากวันนี้ แท็กซี่ไทยสามารถรับชำระเงินได้ผ่านหลายแอปพลิเคชันอยู่แล้ว.


กำลังโหลดความคิดเห็น