จากปีที่แล้ว LG V20 บุกตลาดเพื่อรุกกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการบันทึกวิดีโอด้วยระบบตั้งค่าด้วยมือ หรือระบบแมนนวล มาปีนี้ แอลจี โชว์ V30 รุ่นใหม่ที่เหนือชั้นกว่าเดิม ถูกวิจารณ์ว่ามองเหมือน Samsung Galaxy S8 แต่มีจุดเด่นเรื่องคุณภาพเสียงที่ไร้เทียมทาน
หน้าจอของ V30 ใหญ่ 6 นิ้ว สัดส่วน 18:9 หน้าจอ Quad HD OLED ขอบเครื่องมนบนขนาดที่ใหญ่กว่า iPhone 7 Plus กันน้ำกันฝุ่นตามาตรฐาน IP68 มีระบบอ่านลายนิ้วมือรูปวงกลมติดด้านหลังเครื่อง ใกล้เคียงกับบริเวณที่ตั้งกล้องดิจิตอลด้านหลัง วัสดุโลหะเคลือบแก้วดูแวววาวหรูหรา
ขนาดเครื่อง 151.7 x 75.4 x 7.3มม ทำให้เรือธงรุ่นที่ 2 ของแอลจี มีขนาดใหญ่กว่า G6 เล็กน้อย รองรับ USB Type-C ด้านล่างเครื่อง มีช่องต่อเฮดโฟน 3.5 มม. มี 4 สีให้เลือก คือ ดำ, น้ำเงิน, สีเงิน และม่วง
จุดเด่นสำคัญของ LG V30 คือ การเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของแอลจี ที่มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ทำให้หน้าจอสว่าง ให้สีสดใส และมีความคมชัดมากกว่ารุ่นอื่นที่ใช้จอ LCD โดย LG V20 และ LG V10 รุ่นก่อนหน้าล้วนมีหน้าจอขนาด 5.7 นิ้ว เทคโนโลยี Quad HD เช่นเดียวกับ LG G6 รุ่นล่าสุด นอกจากนี้ สัดส่วนหน้าจอ 18:9 ยังต่างจากสัดส่วน 16:9 ทำให้ LG V30 ถูกเรียกว่าใช้เทคโนโลยีหน้าจอ FullVision
กล้องหลังของ V30 ละเอียด 16 ล้านพิกเซล สามารถเก็บภาพ 70 องศา พร้อมระบบกันภาพสั่น (OIS) จับคู่กับเลนส์ 13 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพมุมมกว้าง 120 องศา แต่ไม่มีระบบกันสั่น สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อย คู่กับกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับ LG G6 และ LG V20
แบตเตอรี 3300 mAh ถอดออกไม่ได้ รองรับการชาร์จไร้สาย ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 835 มี RAM ขนาด 4GB พื้นที่เก็บข้อมูล 64GB เพิ่มความจุได้ด้วย microSD ระบบปฏิบัติการ Android Nougat บนกรอบ LG UX 6.0+ เริ่มเปิดให้สั่งจองในสหรัฐฯ 17 กันยายนนี้ เริ่มวางจำหน่าย 21 กันยายน ที่เกาหลี ก่อนจะขยายไปที่ยุโรป และทั่วโลก 28 กันยายน คาดว่าจะมีรุ่น V30+ เพื่อจำหน่ายในเกาหลีใต้เท่านั้น