เอไอเอส เปิดตัวสุดยอดเครือข่าย AIS NEXT G ความเร็วระดับ 1 Gbps พร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ ใช้งานได้จริงแล้วทั่วประเทศ กับเทคโนโลยีเครือข่ายล่าสุด Multipath TCP เป็นการรวมความเร็วคลื่นความถี่ AIS 4G ADVANCED และ AIS SUPER WiFi เข้าด้วยกันพร้อมพลิกโฉมเอไอเอสชอปเดิม สู่ Digital Experience Shop มอบประสบการณ์จากงานบริการยุคดิจิทัล ที่ผสมผสานจิตบริการกับ AI เข้าด้วยกัน
นายปรัธนา ลีลพนัง รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเล็งเห็นถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ การใช้งานสมาร์ทโฟนแบบ Always on ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน การใช้งาน Multiple Device ตลอดจนเทรนด์การชมคอนเทนต์วิดีโอที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นว่า นอกจากลูกค้าจะต้องการใช้งานดาต้าที่สูงขึ้น ยังจำเป็นต้องใช้งานบนเครือข่ายที่มีความเร็ว และแรงกว่าเดิม
เอไอเอส จึงมุ่งคิดค้น และมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้สามารถเชื่อมต่อโลกออนไลน์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ประกอบกับศักยภาพเครือข่ายอันแข็งแกร่งที่เอไอเอสมีอยู่ ทั้งเครือข่ายมือถือ AIS 4G ADVANCED ที่ครอบคลุมเป็นอันดับ 1 ทั่วประเทศ และเครือข่าย AIS SUPER WiFi ความเร็วสูงที่ครอบคลุมกว่า 80,000 จุดทั่วประเทศ ทำให้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมเครือข่ายใหม่ “AIS NEXT G” ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของคลื่นความถี่มือถือแบบเดิม โดยความร่วมมือกับพันธมิตร KT (Korea Telecom) ผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Multipath TCP ที่สามารถรวมความเร็วอินเทอร์เน็ตของทั้งเครือข่ายมือถือ และเครือข่ายไวไฟเข้าด้วยกัน
ส่งผลให้พื้นที่ใดก็ตามที่มีทั้งเครือข่าย AIS 4G ADVANCED และ AIS SUPER WiFi อยู่ในพื้นที่เดียวกันจะสามารถให้ความเร็วในการใช้อินเทอร์เน็ตได้สูงสุดถึง 1 Gbps พร้อมกันนี้ เอไอเอสยังได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตดีไวซ์ชั้นนำอย่าง ซัมซุง ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ที่รองรับการใช้งาน AIS NEXT G ในสมาร์ทโฟนของซัมซุง เพื่อร่วมกันยกระดับประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายที่เต็มประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้าไปอีกขั้น สามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วที่สูง อย่างเช่น การ Live คอนเทนต์แบบ Realtime, สตรีมมิ่งหนัง หรือวิดีโอความละเอียดสูงแบบ 4K, ดาวน์โหลด/อัปโหลดไฟล์ขนาดใหญ่, Augmented Reality, ส่งภาพเสียงหรือวิดีโอผ่าน Cloud System ซึ่งจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเครือข่ายมือถือสำหรับคน NEXT GENERATION ที่เหนือกว่าความเร็ว 4G และ 4.5G
“ลูกค้าเอไอเอสที่ใช้เครื่อง Samsung galaxy S8, S8+, S7 และ S7Edge และใช้แพกเกจ 4G Max Speed Unlimited 1,099 บาท/เดือนขึ้นไป สามารถใช้งานเครือข่าย AIS NEXT G ได้ทันที”
ทั้งนี้ ในช่วงแรก AIS NEXT G จะใช้งานได้เฉพาะสมาร์ทโฟนที่รองรับ 4 รุ่นดังกล่าวของซัมซุง แต่ในอนาคตจะมีเครื่องรุ่นใหม่ๆ และยี่ห้ออื่นที่หลากหลายพร้อมรองรับ
ด้าน นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสใช้เงินกว่า 40 ล้านบาท พลิกโฉม เอไอเอสชอป บริเวณชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคดิจิทัล ภายใต้คอนเซ็ปต์ “AIS THE DIGITAL GALLERY” เปรียบเสมือนแหล่งรวมนวัตกรรมเทคโนโลยีของโลกยุคดิจิทัล ที่นอกจากจะสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้ได้ทดลองใช้ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลาย ทันสมัย ดีไซน์สวย จากแบรนด์ชั้นนำมากมาย โดยประกอบด้วย 5 โซนหลัก คือ.Digital Gallery เป็นพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมสุดล้ำจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ นำมาจัดแสดงให้ลูกค้าได้สัมผัสก่อนใครที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่, Wearable Tracking ต่างๆ เพื่อคนรักสุขภาพ, โดรนอุปกรณ์สุดฮิตที่นักเดินทางยุคดิจิทัลไม่ควรพลาด และแก็ดเจ็ดไฮเทคอีกมากมาย
2.Digital Bar พื้นที่ที่ให้คนรุ่นใหม่ สามารถเข้ามาทดลองใช้สินค้า, เวิร์กชอป, พูดคุย หรือปรึกษา Digital Guru ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นอย่างดี ซึ่งจะคอยเป็นผู้ช่วย และให้คำแนะนำลูกค้าอย่างมืออาชีพ 3.Connected โซนที่รวบรวม Accessory อินเทรนด์มากมายที่จะเชื่อมต่อชีวิตของลูกค้า Next Generation เข้ากับโลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เช่น กล้อง GoPro, Smart Watch, ลำโพง, หูฟัง และ Interactive Projector ที่สามารถเปลี่ยนพื้นผิวเรียบในบ้านให้เป็นหน้าจอ ทัชสกรีนทำให้สัมผัสความบันเทิง ทั้งเล่นเกม และชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอิ่ม
4.Digital Entertainment สัมผัสความเร็วเต็มสปีด จาก AIS Fibre อินเทอร์เน็ตบอร์ดแบนความเร็วสูง และประสบการณ์ความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ ทั้งจากแอป AIS PLAY และกล่อง AIS PLAYBOX ที่มาพร้อมคอนเทนต์ความบันเทิงระดับโลก ที่จะทำให้ลูกค้าได้รับความสนุกสนาน เสมือนรับชมอยู่ที่บ้าน และ 5.Serenadeห้อง รับบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าเซเรเนดโดยเฉพาะแล้ว ยังพลิกโฉมชอปแห่งนี้ให้เป็น Gallery แสดงงานศิลป์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของการแสดงผลงานศิลปะ โดยวางผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นแสดงบนแท่นโชว์ (AIS Intelligent Unit) ที่ออกแบบมาอย่างสร้างสรรค์ ทำให้สะดวกในการสัมผัส รวมทั้งจัดหมุนเวียนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สลับผลัดเปลี่ยนมาให้ลูกค้าได้สัมผัสก่อนใคร