กลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนรับไม่ได้ เมื่อทางการจีนออกกฎบังคับชาวเมืองซินเจียง ให้ติดตั้งสปายแวร์ หรือซอฟต์แวร์สอดแนมในสมาร์ทโฟนของตัวเองทุกคน โดยผู้ฝ่าฝืนอาจมีความผิดถูกจำคุก 10 วันขึ้นไป
สื่ออเมริกันอ้างรายงานจากเว็บไซต์เรดิโอฟรีเอเชีย (Radio Free Asia) ว่า รัฐบาลท้องถิ่นในเขตปกครองตัวเองชนชาติอุยกูร์มณฑลซินเจียง ได้ออกกฎให้ประชาชนในเขตนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมลงมือติดตั้งแอปพลิเคชันตรวจสอบตัวเองลงในสมาร์ทโฟน เพื่อแสดงความโปร่งใสให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบประชาชนทุกคนได้ จุดนี้รายงานระบุว่ามีการส่งเอกสารแจ้งอย่างเป็นทางการ ผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ และออนไลน์ เช่น บริการวีแชต (WeChat) ที่ชาวจีนนิยมใช้งาน
ตัวอย่างเอกสารที่ถูกส่งต่อผ่านทวิตเตอร์พบว่า รัฐบาลจีนแจ้งกฎนี้ต่อประชาชนทั้งในภาษาจีน และภาษาอุยกูร์ โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์จะต้องสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันชื่อ Jingwang
— Delinda Tien (@TienDelinda) July 14, 2017
แอปพลิเคชันนี้ถูกระบุว่าจะสามารถตรวจจับเบาะแสก่อการร้ายได้แบบอัตโนมัติ รวมถึงวิดีโอ ภาพ อีบุ๊ก เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และเนื้อหาทุกชนิดที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งหากแอปพลิเคชันนี้ตรวจจับได้ ผู้ใช้จะต้องลบเนื้อหานั้นทิ้ง
รายงานระบุด้วยว่า แอปพลิเคชัน Jinwang จะสำเนาประวัติการใช้งานแอปพลิเคชันโซเชียล และแชตอย่าง Weibo และ WeChat ด้วย โดยแอปจะระบุตัวตนผู้ใช้ด้วยหมายเลข IMEI เครื่อง รวมถึงข้อมูล SIM card และข้อมูลล็อกอิน Wi-Fi เมื่อใช้เครือข่ายข้อมูลไร้สาย จุดนี้ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ หรือเครื่องแม่ข่ายที่ให้บริการ
ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากกฎนี้อาจมีจำนวนมากกว่า 8 ล้านคน โดยประชาชนชาวอุยกูร์เหล่านี้ล้วนถูกกดดันต่อเนื่องจากกฎหมายล่าสุดที่ห้ามชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ แต่งกายแบบมุสลิมกลุ่มสุดโต่ง ห้ามไว้เครายาวเกินปกติ หรือคลุมหน้าจนมิดชิดในที่สาธารณะ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ได้เคยออกตราเป็นกฎหมายในวันที่ 1 เม.ย. ห้ามทั้งเรื่องการแต่งกาย ห้ามไม่ให้ชาวอุยกูร์หลีกเลี่ยงการวางแผนครอบครัว ห้ามไม่ส่งบุตรหลานไปโรงเรียนของรัฐ ห้ามทำลายเอกสารราชการ รวมทั้งห้ามแต่งงานโดยใช้วิธีทางศาสนาเพียงอย่างเดียว
ชาวอุยกูร์เป็นมุสลิมเชื้อสายเติร์ก มีจำนวนประชากรคิดเป็น 45% ของผู้ที่อาศัยในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เคยจัดตั้งรัฐเตอร์กิสถานตะวันออกขึ้นปกครองตนเองในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะถูกจีนเข้ายึดครองเมื่อปี 1949 เพราะเป็นแหล่งทรัพยากรที่อุดม และมีพรมแดนติดกับเอเชียกลาง
