เอปสันจับตลาดสื่อสิ่งพิมพ์โฆษณาขนาดใหญ่เติบโต เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์หน้ากว้างภายในอาคาร ชูจุดเด่นคุณภาพงานพิมพ์เร็วขึ้นเท่าตัว พร้อมลดต้นทุนเฉลี่ยต่อตารางเมตรเหลือ 10 บาท จากหมึกแท้ มั่นใจภายใน 3 ปีขึ้นเบอร์ 1 ตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้างทั้งหมด
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ให้ข้อมูลว่า เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์ และเชิงอุตสาหกรรม (เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง) ในแต่ละปีจะมีจำนวนอยู่ราว 2,500 เครื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 900 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปีนี้ก็จะมีปริมาณใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่มูลค่าจะเติบโตขึ้นเล็กน้อย
โดยในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา งบประมาณในการซื้อสื่อโฆษณาเกือบทุกประเภทมีอัตราลดลงราว 4.5% แต่สื่อนอกบ้าน หรือ Out of home ประเภทสื่อโฆษณา สื่อเคลื่อนที่ และสื่อภายในห้างร้าน หรือสื่อภายในอาคาร ยังมีบทบาทสำคัญต่อการสื่อสารการตลาดของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ
“เอปสันมองถึงเทรนด์ที่อุตสาหกรรมสื่อโฆษณาโดยรวม แม้ว่าจะมีเม็ดเงินลดลง แต่ในตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ยังกลายเป็นตลาดที่มีการเติบโตอยู่ จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น ทำให้สื่อโฆษณากลางแจ้งได้รับความนิยม โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าที่มีการนำโปรโมชันใหม่ตลอดเวลา ประหยัดเวลาในการพิมพ์”
ปัจจุบัน ส่วนแบ่งตลาดของเอปสันในกลุ่มเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง จะอยู่ที่ราว 18% และคาดว่าในปีนี้จะเพิ่มเป็น 22% จากเป้าหมายที่วางไว้ว่าต้องการเติบโตราว 15% โดยมาจากเครื่องพิมพ์สื่อโฆษณา และเครื่องพิมพ์สิ่งทอ 20% ส่วนเครื่องพิมพ์ภาพ (Photolabs) และเครื่องพิมพ์เทคนิคคัล จะเติบโตราว 10%
ส่วนจุดที่ทำให้เอปสันสามารถขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ คือ คู่แข่งในตลาดไม่สามารถผลิตหัวพิมพ์ หรือผลิตหมึกพิมพ์ได้ แต่ทางเอปสันเป็นเวนเดอร์รายเดียวที่ออกแบบด้วยเอปสันเองทั้งหมด มั่นใจว่า เทคโนโลยีของหัวพิมพ์ ไมโครปิเอโซ จะสามารถต่อยอดไปได้อีกมาก ขณะที่เทคโนโลยีอื่นไม่สามารถทำได้
โดยเอปสันเริ่มทำตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง ในปี 2012 ซึ่งในช่วงนั้น หมึกแท้มีราคาแพงกว่าหมึกเทียบเท่าหลายเท่าตัว ทำให้ต้องกลับมาพิจารณาใหม่ ก่อนกลับมาทำตลาดอีกครั้งในปี 2016 ที่ผ่านมา ลดต้นทุนในการพิมพ์ด้วยการลดราคาหมึกลง 70% เพิ่มประสิทธิภาพในการพิมพ์ และระยะเวลารับประกัน 2 ปี
“ถือเป็นจุดเปลี่ยนของวงการพิมพ์สื่อกลางแจ้งที่แต่เดิมจะใช้เครื่องพิมพ์จากจีน ที่ไม่ได้มีการรับประกัน ทำให้เอปสันสามารถเข้าสู่ตลาดนี้ได้รวดเร็วมาก โดยเติบโตมากกว่าทุกแบรนด์ในตลาด รวมถึงเครื่องพิมพ์จากจีนเดิม จนแซงขึ้นมาได้ในไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา และปิดไตรมาส 4 ที่ส่วนแบ่ง 31%”
ล่าสุด เพื่อให้มีสินค้าตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น จึงได้เพิ่มรุ่น Sure Color SC-B90790 เครื่องพิมพ์หน้ากว้างภายในอาคาร 4 สี ขนาด 64 นิ้ว โดยเป็นเครื่องพิมพ์ความเร็วสูงจากการที่มี 2 หัวพิมพ์ เพื่อเพิ่มความเร็วในการพิมพ์ได้รวดเร็วขึ้นเท่าตัว เมื่อใช้งานร่วมกับหมึกพิมพ์ Epson Dye Ink จะช่วยลดต้นทุนการพิมพ์ให้เหลือเฉลี่ยตารางเมตรละ 10 บาท
เบื้องต้น พบว่าเทรนด์ความต้องการของลูกค้ากลุ่มสิ่งพิมพ์โฆษณาจะต้องการเครื่องที่มีคุณภาพมากขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ต้องประหยัดพื้นที่ใช้งาน ซึ่งถ้าเป็นหมึกน้ำจะให้รายละเอียดที่สดใส และสวยงามกว่า จึงเข้ามาตอบโจทย์ทั้งโปรดักชัน และผู้ผลิตสื่อโฆษณากลางแจ้ง ให้สามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ขณะเดียวกัน ในตอนนี้เอปสันยังถือเป็นแบรนด์เครื่องพิมพ์รายเดียวที่เน้นให้ลูกค้าใช้งานหมึกแท้ และลูกค้ากว่า 90% ใช้งานหมึกแท้ถ้าอยู่ในระยะเวลารับประกัน และลดเหลือราว 70% หลังจากหมดระยะรับประกัน แต่ถ้าเป็นแบรนด์อื่นในท้องตลาดกว่า 80-90% จะใช้หมึกเทียบเท่าตั้งแต่แรก