xs
xsm
sm
md
lg

ชิฟ เวนเจอร์ มั่นใจ “แสนรู้” คือ ยูนิคอร์นไทยตัวแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชิฟ เวนเจอร์ ควักเงิน 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 259 ล้านบาท ลงทุนกับ “แสนรู้” สตาร์ทอัปไทยผู้พัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลบนสังคมออนไลน์ หลังเห็นแววจะเป็นยูนิคอร์นไทยตัวแรก พบเปิดบริษัทมา 4 ปี เจาะตลาดต่างประเทศแล้วถึง 15 ประเทศ หวังสานฝันไปไกล 40 ประเทศภายในปี 2562

นายวรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้งบริษัท Shif Ventures (ชิฟ เวนเจอร์ส) บริษัทระดมทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา บริษัทเดินหน้าเจรจากับสตาร์ทอัปกว่า 100 บริษัท แต่กลับพบว่า สตาร์ทอัปส่วนใหญ่มีวิสัยทัศน์เน้นการหาเงินทุนมากเกินไป จนกระทั่งได้พูดคุยธุรกิจกับ Zanroo (แสนรู้) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลการทำการตลาดผ่านสังคมออนไลน์

พบว่า บริษัทนี้ตั้งใจสร้างรายได้ให้กับบริษัท และหวังจะให้บริษัททำธุรกิจอยู่ได้ในระยะยาว ซึ่งแสนรู้ มีรายได้จากการทำตลาดเดือนแรกของการก่อตั้งบริษัทที่ 1 ล้านบาท ด้วยจุดเด่นของซอฟต์แวร์ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังขยายตลาดต่างประเทศจนกลายเป็นเบอร์ 1 ในประเทศมาเลเซีย และแสนรู้เองก็มีแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกหลายประเทศ รวมถึงตั้งเป้าเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทยอีกด้วย

ทำให้ชิฟ เวนเจอร์ ตัดสินใจลงทุนกับแสนรู้ เป็นจำนวนเงิน 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงิน 259 ล้านบาท เพื่อให้แสนรู้ นำไปขยายตลาดตามเป้าหมาย 40 ประเทศ โดยเงิน 40% นำมาใช้พัฒนาสินค้า, 30% ลงทุนสร้างทีมการตลาดในระดับโลคัลตามแต่ละประเทศที่เข้าไปทำตลาด และอีก 30% ทำการตลาดเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าจากเดิมที่เน้นเฉพาะตลาดองค์กรขนาดใหญ่ ก็จะมีการขยายไปยังกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีด้วย โดยชิฟ เวนเจอร์ นอกจากสนับสนุนเรื่องเงินทุนแล้ว ยังให้คำปรึกษาและช่วยจัดการเรื่องภาษีที่ต้องเสียในแต่ละประเทศให้คุ้มค่าที่สุดด้วย รวมถึงจะแนะนำผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ความรู้เพิ่มเติม เพื่อเสริมแกร่งในการทำธุรกิจ และจะช่วยหาลูกค้าในยุโรป และเกาหลี ให้อีกด้วย

ด้านนายชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งแสนรู้ กล่าวว่า บริษัทก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันสามารถขยายตลาดแล้วถึง 15 ประเทศ มีลูกค้าในปีที่แล้ว 187 ราย ทั้งกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค, ยานยนต์, ธนาคาร, โทรคมนาคม และอี-คอมเมิร์ซ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 260 ล้านบาท มีลูกค้ามากกว่า 300 ราย และภายในปี 2562 จะขยายตลาดไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก ทำให้มีรายได้ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งหากภายใน 2-3 ปีนับจากนี้ แสนรู้ สามารถเจาะตลาดสหรัฐอเมริกา จีน และยุโรปได้ จะทำให้แสนรู้ เป็นยูนิคอร์นไทยตัวแรก โดยปลายปีนี้มีแผนจะรุกตลาดประเทศจีนก่อน เพราะมีพันธมิตรรายใหญ่และลูกค้าในประเทศจีนแล้ว

“ความโดดเด่นของแสนรู้ คือ เป็นบริการที่ครบวงจรทั้งด้านซอฟต์แวร์ ได้แก่ Social Listening, Social Engagement ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างเจาะลึกในพื้นที่สังคมออนไลน์ยอดนิยมของแต่ละท้องถิ่นได้ และมีความแม่นยำในการตีความภาษาท้องถิ่นทุกภาษาทั่วโลก ซึ่งนอกจากการประมวลผลแล้ว ยังให้คำปรึกษาช่วยนำข้อมูลเชิงลึกนี้ไปต่อยอด เพื่อให้ลูกค้าวางกลยุทธ์ทางการตลาด หรือจัดการแก้ปัญหากับวิกฤตที่จะเกิดกับแบรนด์ได้ ขณะที่ข้อมูลมีความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ISO 27001”

นายอุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้งแสนรู้ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากเงินทุนของชิฟ เวนเจอร์ คือ “อรุณ” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อวัดอรุณที่ต่างชาติรู้จักดี โดยระบบของอรุณ จะสามารถประมวลผลผลตอบแทนในการลงทุนบนสื่อโฆษณาทุกรูปแบบไว้บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่อง่ายต่อการวิเคราะห์ และนำไปใช้งาน ทั้งสื่อโฆษณาที่ลูกค้าจ่ายเงินซื้อ (Paid Media) สื่อที่ลูกค้าสร้างเอง และเป็นของตนเอง (Owned Media) และสิ่งที่ผู้ใช้สินค้าของลูกค้าพูดถึงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ (Earned Media) ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ยังไม่มีเครื่องมือซอฟต์แวร์เพื่อการตลาดแบรนด์ไหนทำได้เหมือนอรุณ โดยต่อไปจะมีแพกเกจสำหรับเอสเอ็มอีได้เลือกใช้ด้วย

ทั้งนี้ แสนรู้วางกลยุทธ์ในการบุกตลาดต่างประเทศด้วยจุดเด่น 4 ประการ ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย 2. ทีมขายที่เข้มแข็งในแต่ละประเทศที่เข้าไปดำเนินการ 3. แผนการตลาดที่ตรงจุด และ 4. การดูแลลูกค้าและบริการหลังการขาย นอกจากนี้ ยังจะเดินหน้าทำการตลาดทุกรูปแบบ ทั้งอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ โดยวางแผนเดินสายโรดโชว์ตั้งแต่ปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้าในหลายเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา และจีน ก่อนที่จะมุ่งสู่เมืองต่าง ๆ ในยุโรปต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น