Updated - เพย์สบาย ออกแถลงการณ์ยืนยันแล้วว่า Omise เข้าควบรวมทั้งบริษัท Paysbuy ทำให้ Omise เป็นบริษัทผู้บริหารกิจการของ Paysbuy ในทันที
อีกการเปลี่ยนแปลงของเพย์สบาย (Paysbuy) ล่าสุดมีข่าวว่า โอมิเสะ (Omise) บริการเทคโนโลยีด้านการเงินสัญชาติไทยเทเงินซื้อบริการส่วนเพย์เมนต์เกตเวย์ (Payment Gateway) หรือช่องทางทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนของกระเป๋าเงินออนไลน์ (E-wallet) โดยธุรกิจส่วนใหญ่ของเพย์สบาย ยังอยู่ภายใต้การดูแลของดีแทค (DTAC) เช่นเดิม
เพย์เมนต์เกตเวย์ (Payment Gateway) เป็นบริการที่ทำให้เว็บไซต์สามารถรับชำระค่าบริการธุรกรรมทางการเงินผ่านบัตรเครดิตได้ ขณะที่อีวอลเล็ต (E-wallet) เป็นบริการกระเป๋าเงินที่ผู้ใช้สามารถชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านแอป หรือโซลูชัน ด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดแสนสบาย อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า การซื้อกิจการ 2 ส่วนจาก Paysbuy ของ Omise ยังไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขาย โดยการประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจาก Omise สามารถระดมเงินทุน จำนวน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ รอบล่าสุดได้สำเร็จในช่วงก่อนหน้านี้ (ระดมทุนเป็นเงินดิจิตอล)
ขณะนี้ Paysbuy ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบกับร้านค้า โดยสัญญาและข้อตกลงที่มีอยู่ของร้านค้าจะยังคงเหมือนเดิม
“การบริการยังคงเดิม หากมีการพิจารณาการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์และบริการแจ้งให้ทราบในภายหลัง” ตัวแทน Paysbuy ระบุ
Paysbuy นั้นเป็นธุรกิจให้บริการชำระเงินออนไลน์อันดับต้นของเมืองไทย ข้อมูลจากงบประมาณปี 2559 บริษัท PaySbuy มีรายได้รวม 2,224.1 ล้านบาท ทำกำไร 433.9 ล้านบาท สินทรัพย์รวมมูลค่า 5,240.1 ล้านบาท ขณะที่ Omise เป็นบริษัทเกิดใหม่ มีรายได้รวม 35.7 ล้านบาท ยังมีภาวะขาดทุน 67.4 ล้านบาท มูลค่าสินทรัพย์รวม 296.7 ล้านบาท
ความน่าสนใจของดีลนี้ คือ Omise ซึ่งเป็นบริษัทเพิ่งเกิดใหม่เมื่อปี 2556 สามารถซื้อธุรกิจบางส่วนจากบริษัทลูกของยักษ์ใหญ่วงการโทรคมนาคม ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนโอกาสเติบโตของดาวรุ่งฟินเทคอย่าง Omise
Omise ก่อตั้งโดยอิศราดร หะริณสุต ผู้นั่งเก้าอี้ซีโอโอ Omise ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ปัจจุบัน Paysbuy มีใบอนุญาตบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ครอบคลุมกว่า ทำให้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ส่งให้ Omise ซึ่งถือใบอนุญาตเฉพาะส่วน จะมีโอกาสขยายธุรกิจได้มากขึ้น โดยเฉพาะตลาด E-wallet
ในระยะเวลาเพียง 3 ปี Omise ระดมทุนหลายสิบล้านเหรียญสหรัฐ เป้าหมายหลักของบริษัท คือ การเป็นผู้นำด้าน Payment service provider สำหรับเอเชีย ก่อนหน้านี้ Omise ระบุว่า ได้นำเงินจากการระดมทุนไปพัฒนาระบบ และเปิดบริการในตลาดอื่นอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2559 เช่น ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และมาเลเซีย