กสทช. เผยยอดผู้สนใจซื้อซองประมูลโครงการ USO เพื่อให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้านคับคั่ง ขณะที่เตรียมสอบ LINE mobile ของดีแทค อีกครั้งว่า เปิดให้บริการตามที่แจ้งหรือไม่ว่า เป็นเพียงแพกเกจการให้บริการรูปแบบใหม่
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงาน กสทช. เปิดขายซองประกวดราคาโครงการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ชายขอบ 3,920 หมู่บ้าน เมื่อวันที่ 20-29 มิ.ย. 2560 ที่ผ่านมา ดังนี้ 1. พื้นที่โครงการภาคเหนือ 1 จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง และลำพูน แบ่งเป็นสัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (Broadband Internet Service) มีผู้ซื้อซอง จำนวน 12 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Service) มีผู้ซื้อซอง จำนวน 9 ราย
2. พื้นที่โครงการภาคเหนือ 2 จำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี แบ่งเป็นสัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 14 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 9 ราย
3. พื้นที่โครงการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครพนม, นครราชสีมา, บึงกาฬ, บุรีรัมย์, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, เลย, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สุรินทร์, หนองบัวลำภู, อุดรธานี และอุบลราชธานี อุทัยธานี แบ่งเป็น สัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 11 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 8 ราย
4. พื้นที่โครงการภาคกลาง และภาคใต้ จำนวน 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่, กาญจนบุรี, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ชัยนาท, ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, พังงา, พัทลุง, เพชรบุรี, ระนอง, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, สงขลา, สตูล, สระแก้ว, สระบุรี, สุพรรณบุรี และสุราษฎร์ธานี และพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ได้แก่ นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา และอำเภอ จะนะ, เทพา, นาทวี, สะบ้าย้อย แบ่งเป็น สัญญาการจัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง มีผู้ซื้อซอง จำนวน 11 ราย และสัญญาการจัดให้มีสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มีผู้ซื้อซอง จำนวน 9 ราย
นายฐากร กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปสำนักงาน กสทช. กำหนดให้มีการยื่นซองข้อเสนอทางเทคนิคของทั้ง 8 สัญญาในวันที่ 17 ก.ค. 2560 เวลา 9.00-12.00 น. และจะจัดให้มีการประกวดราคา โดยใช้วิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Auction โดยอาศัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 ในวันที่ 1 ส.ค. 2560 จากนั้น คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาได้ในเดือน ส.ค. 2560 เริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2560 ไม่น้อยกว่า 15% ของหมู่บ้านเป้าหมาย และจะให้บริการครบทั้ง 3,920 หมู่บ้านภายในเดือน ก.ค. 2561
***เตรียมสอบอีกครั้งหาก LINE mobile เปิดให้บริการ
สำหรับความคืบหน้าเรื่องการเปิดให้บริการ LINE mobile นั้น นายฐากร กล่าวว่า จากการเชิญบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และบริษัท ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น จำกัด เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเปิดตัว LINE mobile นั้น สำนักงาน กสทช. ได้ทำการตรวจสอบ และวิเคราะห์จากข้อมูลแล้วได้ข้อสรุปว่า LINE mobile เป็นแพกเกจการให้บริการรูปแบบใหม่ของ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ที่ดำเนินการโดยใช้เครื่องหมายการค้าของไลน์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยมาเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า
บริการ LINE mobile จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการบริการโทรคมนาคมที่จะต้องได้รับอนุญาตจาก กสทช. อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เปิดให้บริการ LINE mobile สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการตรวจสอบอีกครั้งว่า บริการ LINE mobile มีลักษณะการให้บริการเป็นไปตามที่ทั้งสองบริษัทชี้แจงหรือไม่ รวมถึงจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของวิธีการลงทะเบียนซิมการ์ดให้เป็นไปตามกฎระเบียบของ กสทช. ด้วย