ในช่วงที่สถานการณ์บริษัทกำลังผันผวน และซีอีโอผู้ก่อตั้งอูเบอร์ (Uber) เพิ่งลาออกไปอย่างเป็นทางการ ล่าสุด มีกระแสข่าวลือระบุว่า ผู้ที่จะมานั่งเก้าอี้ซีอีโอบริหารอูเบอร์คนต่อไปอาจจะเป็นบุคคลที่โลกรู้จักดีอย่าง “บารัก โอบามา” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งชื่นชอบธุรกิจเทคโนโลยีเป็นทุนเดิม
ข่าวลือนี้มาจากบริษัทวิจัยชื่อ โกลบอล อิควิตีส์ รีเสิร์ช (Global Equities Research) โดยทริป โชว์ดรี (Trip Chowdhry) กรรมการผู้จัดการนั้น แสดงความเห็นว่า มีความเป็นไปได้จริงที่ประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ จะขึ้นเป็นผู้นำ Uber บริการแอปพลิเคชันรถร่วมเดินทางดาวรุ่งที่กำลังประสบปัญหาถูกฟ้องร้อง และปรับโครงสร้างองค์กรยกใหญ่ในขณะนี้ เบื้องต้น Chowdhry อ้างว่า นักพัฒนาในวงการไอทีหลายรายเชื่อว่า อดีตประธานาธิบดีโอบามา อาจจะยอมเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Uber และโอบามา จะกลายเป็นสุดยอดซีอีโอที่สมบูรณ์แบบทุกด้านของ Uber
อย่างไรก็ตาม Chowdhry เชื่อว่า แม้โอบามา จะขึ้นเป็นซีอีโอ Uber จริง แต่ชื่อเสียงของโอบามา ย่อมไม่สามารถทำให้ Uber พ้นจากภาวะมูลค่าตลาดถดถอย โดยอาจจะช่วยพยุงให้สถานะของ Uber ไม่ล้มละลายไปมากกว่านี้
Chowdry ระบุว่า ขณะนี้นักพัฒนาจำนวนไม่น้อยกำลังส่งแรงใจให้กับ Uber เนื่องจาก Uber ถือเป็นบริษัทที่มีระบบอัลกอริทึมการจัดตารางเวลาที่ดีที่สุด รวมถึงเป็นต้นสังกัดซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าที่ดีที่สุด ซึ่งใช้งานอย่างแพร่หลาย ดังนั้น หาก Uber ไม่สามารถกลับมารุ่งโรจน์อีกครั้ง ก็เท่ากับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการเทคโนโลยี
หลังจากพ้นตำแหน่ง โลกเห็นโอบามา เพลิดเพลินกับกีฬากอล์ฟ เล่นเซิร์ฟ และการเซ็นสัญญาตีพิมพ์หนังสือบันทึกเรื่องเล่าของตัวเองกับสำนักพิมพ์ในนิวยอร์ก แต่เมื่อมองอดีต โอบามา แสดงจุดยืนชื่นชอบอุตสาหกรรมไอทีมาก โดยเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา สื่ออเมริกันระบุว่า โอบามาได้เดินทางไปพบผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีหลายค่าย ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยชื่อบริษัท แต่ก็ถือว่าเป็นการให้ความสำคัญกับวงการนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่โอบามา เดินทางไปเยือนกลุ่มแรกนับจากก้าวพ้นทำเนียบขาว
นอกจากนี้ สื่ออเมริกันยังทราบว่า โอบามาต้องการเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในช่วงเทอม 2 ของการนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย สตีฟ เคส (Steve Case) ผู้ร่วมก่อตั้งบริการออนไลน์ “เอโอแอล” (AOL) ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทมส์ ในบทความเรื่อง “Next Job for Obama? Silicon Valley is Hiring,” ซึ่งเน้นสะท้อนว่างานต่อไปของโอบามา อาจอยู่ที่อุตสาหกรรมไอทีอเมริกัน คำสัมภาษณ์ระบุว่า Case จะไม่แปลกใจหากซิลิกอนวัลเลย์ คือ หนึ่งในพื้นที่สำคัญสำหรับโอบามา ในวันที่ไม่มีตำแหน่งประธานาธิบดีรั้งไว้
มีการประเมินกันว่า ในช่วงที่ยังเป็นประธานาธิบดี โอบามา เยือนบริษัทเทคโนโลยีไม่น้อยกว่า 10 ครั้งทั่วแคลิฟอร์เนีย กรณีของ Uber มีการวิเคราะห์กันว่า โอบามามีสายสัมพันธ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับ Uber โดยตรงนั่นคือ เดวิด พลูฟ์ (David Plouffe) ผู้จัดการแคมเปญให้โอบามา ในปี 2008 ได้หันมาเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายของ Uber ในขณะนี้
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพียงการมโนของเหล่านักสังเกตการณ์ ซึ่งยังไม่มีใครออกมายอมรับ หรือปฏิเสธว่า จริงเท็จเพียงใด โดยนอกจากโอบามา ผู้ที่มีข่าวว่า อาจมานั่งเก้าอี้ซีอีโอ Uber คนต่อไปนั้น มีตั้งแต่ โทมัส สแต็กส์ (Thomas Staggs) อดีตประธานฝ่ายปฏิบัติการของดีสนีย์ (Disney), อดัม เบน (Adam Bain) อดีตประธานฝ่ายปฏิบัติการของทวิตเตอร์ (Twitter), ซูซาน วอชซิกิ (Susan Wojcicki) ซีอีโอแผนก YouTube ของกูเกิล, เดวิด คูช (David Cush) อดีตซีอีโอเวอร์จินอเมริกา (Virgin America) และอลัน มัลลาลี (Alan Mulally) อดีตซีอีโอฟอร์ด (Ford)
แม้แต่ เชอร์รีล แซนด์เบิร์ก (Sheryl Sandberg) ก็มีชื่อติดทำเนียบด้วย ซึ่งหลายหลังเชื่อกันว่า เป็นไปได้ยากที่สาวแกร่งของเฟซบุ๊ก จะโบยบินจากลาบริการที่เริ่มต้นมากับมือ
