แม้จะมีข่าวว่าบริการจ่ายเงินส่วนบุคคลผ่านโทรศัพท์มือถือของชาวอเมริกันที่ซัมซุง (Samsung) ซื้อกิจการไปนั้นถูกนักเจาะระบบชาวจีนลักลอบเข้าถึงข้อมูลมานานหลายเดือน แต่เจ้าพ่อไอทีกิมจิยืนยันว่า เหตุแฮกที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพา เบื้องต้น คาดว่าเป็นการเจาะระบบเพื่อสอดแนมมากกว่าการมุ่งทำกำไร หรือสร้างความเสียหายด้านการเงิน
สื่ออเมริกันรายงานว่า บริการลูปเพลย์ (LoopPay) บริการระบบชำระเงินผ่านอุปกรณ์พกพาสัญชาติอเมริกันที่ซัมซุงซื้อกิจการไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้น ตกเป็นเป้าหมายของนักเจาะระบบตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้น ข้อมูลชี้ว่าเหตุเจาะระบบนี้มีต้นตออยู่ที่ประเทศจีน และเป็นการเจาะระบบเพื่อหวังผลด้านการสอดแนมรายบุคคลมากกว่าการนำข้อมูลของลูกค้าบริการไปขาย หรือหาผลประโยชน์ทางการเงิน ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า การเจาะระบบครั้งนี้จะไม่ทำให้เกิดความเสียหายในรูปตัวเงินที่ชัดเจน
ทั้งหมดนี้ ซัมซุงยอมรับว่า LoopPay ถูกเจาะระบบจริงตามรายงาน แต่ยืนยันว่า คอมพิวเตอร์แม่ข่าย หรือเซิร์ฟเวอร์ที่มีช่องโหว่นั้นถูกตรวจพบ และแก้ปัญหาแล้ว ทำให้ไม่มีข้อมูลการชำระเงินส่วนตัวใดๆ ของบริการ LoopPay ที่มีความเสี่ยงต่อการแฮกครั้งนี้
LoopPay นั้นเป็นบริการที่ซัมซุงซื้อกิจการเมื่อต้นปี 2015 เพื่อนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับบริการซัมซุงเพย์ (Samsung Pay) ของตัวเอง จุดนี้ซัมซุงย้ำว่า นักแฮกชาวจีนเจาะระบบเครือข่ายสำนักงานของ LoopPay เท่านั้น ไม่ใช่ระบบสำหรับให้บริการ Samsung Pay
รายละเอียดการเจาะระบบครั้งนี้ถูกรายงานโดยนิวยอร์กไทมส์ (New York Times) ซึ่งอ้างว่าผู้เจาะระบบคือกลุ่ม “โคโดโซ กรุ้ป (Codoso Group)” สัญชาติจีน หากนับจากเดือนมีนาคม การเจาะระบบครั้งนี้ถูกตรวจจับได้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เท่ากับนักเจาะระบบสามารถเข้าออกเครือข่ายสำนักงาน LoopPay ได้นานกว่า 5 เดือน
ข่าวนี้ถือเป็นข่าวแง่ลบที่เกิดขึ้นต่อบริการ Samsung Pay ซึ่งจะเป็นคู่แข่งรายสำคัญของบริการแอปเปิลเพย์ (Apple Pay) ในอนาคต โดยทั้งหมดนี้ ซัมซุงยืนยันหนักแน่นในบล็อกของบริษัทว่า ลูกค้าซัมซุง ลูกค้า Samsung Pay และตัวบริษัทซัมซุงเองไม่ได้รับผลกระทบ หรือความเสี่ยงใดจากการแฮกครั้งนี้
