xs
xsm
sm
md
lg

ดีล Verizon ซื้อ Yahoo เรียบร้อย 13 มิ.ย. คาดลอยแพพนักงานเกิน 2 พันคน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Verizon ต้องการรวบธุรกิจ Yahoo เข้ากับ AOL เพื่อดันธุรกิจโฆษณาดิจิตอล
เวอไรซอน (Verizon) เจ้าพ่อโทรคมนาคมอเมริกัน กำลังนับถอยหลังสู่การเป็นเจ้าของอดีตเว็บท่ายักษ์ใหญ่ “ยาฮู” (Yahoo) คาดดีลสำเร็จ 13 มิถุนายนนี้ ท่ามกลางแผนลอยแพพนักงานหลายพันคน

สื่อใหญ่ซีเอ็นเอ็น (CNN) ระบุว่า ผู้ถือหุ้น Yahoo ลงมติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน เห็นชอบกับข้อตกลงใหม่เรื่อง Verizon เสนอซื้อสินทรัพย์ออนไลน์ และธุรกิจหลักของ Yahoo ด้วยราคา 4.48 พันล้านเหรียญสหรัฐ อีกครั้ง (ลดจาก 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพราะข่าว Yahoo ถูกแฮก) โดยล่าสุด ดีลนี้คาดว่า จะปิดได้ในวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2017 จุดนี้ Yahoo และเอโอแอล (AOL) จะร่วมกันตั้งบริษัทใหม่ในฐานะบริษัทลูกของ Verizon ชื่อ “โอธ” (Oath)

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า Verizon คาดว่า จะเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 2,100 คน คิดเป็น 15% ของพนักงานทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ยังไม่มีการยืนยัน มีโอกาสสูงว่า Verizon จะประกาศอย่างเป็นทางในเร็ววันหลังจากปิดดีล

โฆษก AOL ระบุเพียงว่า เป้าหมายของ Oath คือ การเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก โดยบริษัทจะมุ่งมั่นจัดการองค์กรตามที่เคยแสดงจุดยืนไว้ตั้งแต่มีการประกาศดีล ที่เปลี่ยนแปลง คือ ซีอีโอ มาริสสา เมเยอร์ (Marissa Mayer) จะโบกมือลา Yahoo บนเงินตอบแทนมูลค่า 186 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ทำให้ดีลนี้บรรลุผล

การลงมติรอบสุดท้ายของผู้ถือหุ้น Yahoo นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลานานกว่า 1 ปี หลังจากทั้ง Yahoo และ Verizon ประกาศข้อตกลงครั้งแรก เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น คือ ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ดีลนี้จำเป็นต้องมีการถกกันเพื่อหารือทางออก ที่โดดเด่น คือ กรณีที่ Verizon ตกลงลดราคาดีลซื้อ Yahoo ลง 350 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากในเวลานั้น Yahoo ยอมรับว่า บริษัทถูกแฮกข้อมูลครั้งใหญ่มากกว่า 2 ครั้ง ที่ทำให้ผู้ใช้เกิน 1 พันล้านคน มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบ

สำหรับบริษัทใหม่ ข่าววงในระบุว่า ซีอีโอของเอโอแอล (AOL) อย่าง ทิม อาร์มสตรอง (Tim Armstrong) จะรับหน้าที่ควบคุมทิศทางของ Oath โดยหลังจากดีลนี้บรรลุเรียบร้อย ส่วนธุรกิจที่เหลือของ Yahoo จะถูกเปลี่ยนชื่อธุรกิจใหม่เป็นอัลทาบา (Altaba Inc.) เพื่อดูแลจัดการสินทรัพย์ที่เหลือของ Yahoo ซึ่งมีหุ้นส่วนใหญ่ของอาลีบาบา (Alibaba) รวมอยู่ด้วย
มาริสสา เมเยอร์ (Marissa Mayer) จะโบกมือลา Yahoo บนเงินตอบแทนมูลค่า 186 ล้านเหรียญสหรัฐ
***ไทม์ไลน์ 23 ปี Yahoo “สูงสุดสู่สามัญ”

2537: เดวิด ไฟโล และ เจอรี่ หยาง ก่อตั้ง Yahoo โดยย่อจากชื่อเต็ม “Yet Another Hierarchically Organized Oracle” เพื่อรวบรวมรายชื่อเว็บไซต์น่าสนใจบนอินเทอร์เน็ตยุคนั้น

2539: Yahoo เข้าตลาดอย่างเป็นทางการ ด้วยมูลค่าตลาด 848 ล้านเหรียญสหรัฐ

2543: Yahoo หุ้นพุ่งสูงสุด 1.25 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ผลจากฟองสบู่ดอทคอม

2545: เทอรี่ ซีเมล ซีอีโอ Yahoo ยุคนั้น เสนอเงิน 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อ Google แต่เจ้าพ่อเสิร์ชบอกปฏิเสธ

2547: ฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช พบว่า ชาวอเมริกันตอนเหนือใช้งานเสิร์ชเอนจินของ Yahoo มากกว่า Google

2548: Yahoo ลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ใน Alibaba ของจีน โดยถือหุ้น 40% ของบริษัทอีคอมเมิร์ซจีน

2549: Yahoo เปิดตัวโฮมเพจเวอร์ชันภาษาไทย แต่ปิดบริการแล้วในขณะนี้

2551: Yahoo ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการ มูลค่า 4.46 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จาก Microsoft ที่ต้องการสร้างคู่แข่งขึ้นมาชนกับ Google

2554: Yahoo หวังเกาะกระแสวิดีโอออนไลน์ โดยเปิดให้บริการ Yahoo Screen เพื่อเป็นศูนย์รวมคอนเทนต์ของสถานีโทรทัศน์ NBC แต่ไปไม่รอด Yahoo Screen ปิดฉากให้บริการในมกราคม 2559

2555: อดีตผู้บริหาร Google “มาริสสา เมเยอร์” เข้ารับตำแหน่งซีอีโอยาฮู เพื่อกู้วิกฤตรายได้หด โดยเฉพาะจากกลุ่มธุรกิจโฆษณารูปแบบแบนเนอร์ที่เสื่อมความนิยม

2556: ซีอีโอเมเยอร์ ซื้อเครือข่ายสังคมอนาคตไกล Tumblr ด้วยมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการตัดสินใจซื้อกิจการครั้งใหญ่ครั้งแรกของเธอ เพื่อให้ได้ฐานผู้ใช้กลุ่มวัยรุ่น

2557: ซีอีโอเมเยอร์ เปิดให้บริการนิตยสารดิจิตอล 11 หมวด ครอบคลุมเรื่องอาหาร เทคโนโลยี กีฬา และไลฟ์สไตล์ กระทั่งกุมภาพันธ์ 2559 เนื้อหาใน 7 หมวดถูกปิดตัว ได้แก่ หมวดสุขภาพ ครอบครัว อาหาร งานช่าง ท่องเที่ยว ยานยนต์ และอสังหาฯ

2557: Yahoo ซื้อบริษัทวิเคราะห์โมบายแอปพลิเคชันชื่อ “Flurry” และผู้ให้บริการระบบเล่นวิดีโอแบบตัดสินใจอัตโนมัติ (programmatic) ชื่อ BrightRoll นี่เองที่อาจเป็นบันไดสำคัญที่ทำให้เวอไรซอน สนใจซื้อ Yahoo เพราะทั้ง 2 ส่วนนี้จะช่วยให้ AOL สร้างแพลตฟอร์มโฆษณา programmatic แบบอิงข้อมูลผู้ชม

2558: Yahoo และ Google จับมือเป็นพันธมิตรเพื่อลงโฆษณา และคุณสมบัติการเสิร์ชบนเพจของ Yahoo

2558: Yahoo ปิดสาขาในประเทศจีน

2559: Tumblr จับมือกับแอปพลิเคชันวิดีโออย่าง YouNow, Kanvas และ YouTube เพื่อให้บริการชมสดบนเว็บไซต์ Yahoo วิธีนี้แตกต่างจากสิ่งที่ Facebook, Twitter และ Google เลือกทำ เพราะ Tumblr ยกการทำงานของแต่ละแอปวิดีโอมาไว้บนเพจได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาพร้อมใส่เทคโนโลยีโดยเฉพาะอย่างที่ค่ายอื่นทำ

กำลังโหลดความคิดเห็น