xs
xsm
sm
md
lg

ดาต้าวัน เอเชียจับมือแบล็กเบอรี่ รุกตลาด Mobility Enterprise

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดาต้าวัน เอเซีย จับมือ แบล็กเบอรี่ เปิดตัวโซลูชัน Enterprise Mobile Management รองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 หลังภาครัฐ และเอกชนขานรับเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนำพาองค์กรสู่ Digital Transformation ในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล

นายพูลสุข วัฒนายิ่งเจริญชัย ผู้อำนวยการ บริษัท ดาต้าวัน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ดาต้าวัน เอเชีย จับมือ กับบริษัท แบล็กเบอรี่ (สิงคโปร์) รุกตลาด Enterprise Mobile Management หรือโซลูชันการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ขององค์กรในประเทศไทย เพราะเห็นถึงแนวโน้มในอีก 3 ปีข้างหน้า องค์กรในเอเชียแปซิฟิกจะมุ่งสู่การทำ Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับมองเห็นศักยภาพของตลาดลูกค้าองค์กรในไทยที่มีความพร้อมทั้งภาครัฐ และเอกชน จากนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่ส่งเสริม และผลักดันให้ไทยก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิตอล จึงเห็นถึงความต้องการในด้านการสนับสนุนให้องค์กรเป็น Mobility Enterprise เพิ่มขึ้น 

เนื่องจากองค์กรในธุรกิจปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ในการทำหน้าที่ประสานกระบวนการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ งานบริการ และโซลูชันให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมปรับเปลี่ยนขั้นตอนการทำงานให้สะดวกขึ้น เพื่อช่วยสร้างความพร้อมทางธุรกิจในการแข่งขันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

“ความร่วมมือระหว่างดาต้าวัน กับแบล็กเบอรี่ ในครั้งนี้จะช่วยจัดการอุปกรณ์เชื่อมต่อที่หลากหลายให้มีระบบความปลอดภัยในการดูแลรักษาข้อมูลด้วยเทคโนโลยีระดับโลก”

ที่ผ่านมา แบล็กเบอรี่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการทำงานสนับสนุนเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลบนเครื่องสมาร์ทโฟน และร่วมกับบริษัทชั้นนำทั่วโลกกว่า 100 บริษัท ในการให้บริการระบบ Mobility Enterprise และ Security ด้วยการพัฒนาการเชื่อมโยงข้อมูลทำงานผ่านระบบ และอุปกรณ์ไอทีใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ทำให้ทราบถึงความจำเป็น ปัญหา และความสำคัญของการนำอุปกรณ์ที่หลากหลายมาใช้งานในองค์กร

โดยโซลูชัน Unified Endpoint Manager (UEM) ของแบล็กเบอรี่ จะเข้ามาช่วยทำหน้าที่จัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบาย และโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจ เพื่อการทำงานในยุคดิจิตอล สามารถรองรับการบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาบนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ได้แก่ Android, iOS, Windows 10, MacOS และ BlackBerry

ที่ผู้ใช้งานสามารถลงทะเบียนเพื่อเริ่มใช้งานด้วยตนเองผ่านการตั้งค่าอุปกรณ์เบื้องต้น เช่น E-mail , Wi-Fi และ VPN โดยอัตโนมัติ การควบคุมการติดตั้ง และใช้แอปพลิเคชัน การป้องกันการ Jailbreak/Root ไปจนถึงการค้นหาตำแหน่งของอุปกรณ์ และการล้างข้อมูลทิ้งเมื่ออุปกรณ์สูญหาย ที่สำคัญ คือ ผู้ดูแลระบบสามารถเลือกวิธีบริหารจัดการจากศูนย์กลางแบบ On-premise หรือระบบคลาวด์ก็ได้ ซึ่งค่อนข้างยืดหยุ่นในการทำงานร่วมกับระบบที่แตกต่างกันในแต่ละองค์กร

“ด้วยโซลูชันของแบล็กเบอรี่ จะทำให้การส่งข้อมูลมีความปลอดภัยอย่างยิ่ง ทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิ์ในการเปิดดูข้อมูลตามระดับความสำคัญแต่ละบุคคลได้”

ผู้บริหารดาต้าวัน กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลประกาศเดินหน้าประเทศไทยด้วยนโยบายเศรษฐกิจไทยแลนด์ 4.0 ส่งผลให้ทั้งภาครัฐ และเอกชนวางแผนนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนธุรกิจ และสร้างมูลค่าให้แก่องค์กร

ไม่ว่าจะเป็นการหันไปใช้ระบบคลาวด์ หรือการนำ IoT (Internet of Things) มาพัฒนาธุรกิจ และนำข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้จากอุปกรณ์ไอทีต่างๆ นำมาวิเคราะห์ (Big Data Analytics) และนำผลการวิเคราะห์ที่ได้มาสร้างฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ และบริการขององค์กร

ที่สำคัญ คือ เป็นแนวทางที่จะได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็น Big Data นั้น สามารถนำมาออกแบบการทำงานให้เป็นแบบ Mobility เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น และความคล่องตัวในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น โดยหัวใจสำคัญของการพัฒนาศักยภาพ เพื่อนำองค์กรสู่การแข่งขันในยุคนี้ คือ เทคโนโลยีดิจิตอล และอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัย เป็นปัจจัยสำคัญที่องค์กรให้ความสำคัญสูงสุดในยุคนี้
 
ทั้งนี้ จากความร่วมมือกับแบล็กเบอรี่ คาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าทำรายได้ประมาณ 50-60 ล้านบาทในปี 2560 และเพิ่มขึ้นในปี 2561 เป็นมากกว่า 60 ล้านบาท จากตลาดรวมที่มีการเติบโตประมาณปีละ 20-30% ทุกปี

โดยคาดว่าตลาดรวมจะเติบโตมากว่า 30% เมื่อมีการตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยลูกค้าเป้าหมายที่ทางดาต้าวัน จะเข้าไปเปิดตลาดจะเป็นลูกค้ากลุ่มธนาคาร ประกันภัย และภาครัฐ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลในระดับสูง


“จากการยืนยันความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่งด้วยผลรายงานการวิเคราะห์จากการ์ทเนอร์ ทำให้มั่นใจได้ว่า อุปกรณ์พกพาอย่างโน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ ทั้งขององค์กรหรือของส่วนตัวผู้ใช้เอง พร้อมใช้งานเพื่อสนับสนุนการทำงานเชิงธุรกิจภายใต้นโยบายด้านความปลอดภัยขององค์กร โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานส่วนตัว”
กำลังโหลดความคิดเห็น