แม้ว่าทีวีจอโค้ง หรือ Curved TV จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 3 ปีแล้ว แต่ปัจจุบัน สัดส่วนการใช้งานของ Curved TV ในไทยยังอยู่ที่ราว 30% ของตลาดเท่านั้น โดยเหตุผลหลักที่ผู้บริโภคไม่กล้าเลือกซื้อทีวีจอโค้ง คือ คิดว่าระดับราคาของทีวีจอโค้งจะสูงจนไม่สามารถซื้อหามาใช้ได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ปัจจุบันเริ่มมีผู้ผลิตหลายรายนำเสนอทีวีจอโค้งออกสู่ตลาด ประกอบกับการแข่งขันในตลาดทำให้ราคา Curved TV ในปัจจุบันไม่ได้สูงอย่างที่คิด ด้วยระดับราคาเริ่มต้นจอ 32 นิ้ว ที่เกือบ 2 หมื่นบาท ไล่ไปจนถึงจอโค้งรุ่นไฮเอนด์ระดับแสนบาทก็มีให้เลือกใช้
แน่นอนว่า ซัมซุงในฐานะที่เป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Curved TV จึงจำเป็นต้องออกมาให้ความรู้แก่ผู้บริโภคว่า ถึงเวลาแล้วที่ทีวีเครื่องต่อไปที่จะเปลี่ยนควรเลือกหาซื้อ Curved TV มาใช้งาน จาก 3 แนวคิดหลักๆ ในการใช้งานที่ดีต่อใจ ทั้งในแง่ของความสวยงาม คุณภาพที่ให้ภาพสมจริง และความสะดวกสบาย ภายใต้แนวคิด “Curved is Me”
เริ่มกันจาก “Curved is Style” จากการที่ Curved TV รุ่นใหม่ของซัมซุง ถูกออกแบบมาให้เปรียบเสมือนเฟอนิเจอร์ชิ้นหนึ่งในบ้าน จากเทรนด์การออกแบบบ้านยุคใหม่ที่ชอบนำทีวีวางไว้กลางห้องทำให้มีการพัฒนาดีไซน์ออกมาในรูปแบบ 360 องศา พร้อมกับขาตั้งแบบ Sleek Stand ที่ช่วยให้สามารถนำทีวีไปวางตรงจุดใดของบ้านก็ได้
ขณะเดียวกัน ด้วยการพัฒนาจอภาพให้กลายเป็นแบบ Bezel Less หรือตัวขอบจอทีวีที่มีขนาดบางมากๆ ยิ่งช่วยขับความโดดเด่นของจอภาพเมื่อเปิดใช้งานออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับด้วยเทคโนโลยีของจอภาพยุคใหม่ที่ให้ความร้อนน้อยมาก จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องมีรูระบายอากาศเหมือนทีวีสมัยก่อน และช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย
ไม่นับรวมในเรื่องของการเดินสายด้วยการที่ซัมซุงคิดค้นกล่อง One Connect ขึ้นมา ทำให้ใช้การต่อสาย HDMI เข้าทีวี กับสายไฟเท่านั้นที่จะเชื่อมต่อออกจากทีวีส่งผลให้สามารถจัดเรียงสายให้ได้ความสวยงามในการจัดวางได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ถ้าต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆก็สามารถใช้กล่อง One Connect ในการเชื่อมต่อทั้งพอร์ต HDMI USB และ สาย Component ได้ทันที
นอกจากนี้ สิ่งที่กลายเป็นความโดดเด่นมากที่สุดของ Curved TV คือการที่ตัวจอโค้งรับกับสายตา ส่งผลให้ระยะในการรับชมสามารถวางทีวีได้ใกล้กว่าจอแบนปกติ รวมถึงมุมในการนั่งรับชมที่กว้างขึ้นทำให้เห็นชัดในทุกมุม ที่สำคัญคือมีผลการทดลองจาก Harvard Medical School ที่ออกมาระบุแล้วว่า Curved TV ช่วยลดความเมื่อยล้าของสายตาได้
โดยผลที่ได้คือ เมื่อทดสอบการใช้สายตาในการมองจอภาพที่เป็นจอแบน กล้ามเนื้อตาจะมีการใช้งานอย่างหนัก เพื่อปรับโฟกัสระหว่างจุดกึ่งกลางจอภาพ กับบริเวณขอบจอทั้งหลาย เนื่องจากอยู่ในระยะที่แตกต่างกัน ในขณะที่เมื่อใช้สายตากับจอโค้งที่โอบรอบเข้ามา จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อตาได้
ถัดมา ในส่วนของ ‘Curved is Real’ ที่พูดถึงความสมจริง ด้วยการแสดงผลภาพที่ทำให้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง จากเทคโนโลยีเฉพาะของซัมซุงคือ Auto Depth Enchancer ที่นำสัญญาณภาพมาประมวลผลแยกออกเป็น 3 ระยะ เพื่อให้ภาพที่แสดงออกมามีมิติมากยิ่งขึ้น ทำให้เมื่อเทียบกับการใช้งานทีวีจอแบนทั่วไป Curved TV จะให้ภาพที่มีมิติสมจริงกว่า
สุดท้าย คือ ในส่วนของ “Curved is Smart” ที่ทำให้ Curved TV ไม่ได้เป็นเพียงโทรทัศน์ทั่วไป แต่กลายเป็นสมาร์ททีวีที่มาพร้อมกับระบบ Smart Home Entertainment ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นบนทีวีที่หลากหลายเพิ่มเติมจากการรับชมโทรทัศน์ปกติทั่วไป เพราะปัจจุบัน คอนเทนต์เริ่มกลายเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ทีวีมากขึ้น
โดยความสมาร์ทของ Curved TV จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ เรื่องของ “Smart View” ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน เพื่อแชร์คอนเทนต์จากมือถือมาสู่ทีวีได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการแชร์รูปภาพ วิดีโอ หรือจะใช้ในการแชร์คอนเทนต์จากยูทูปมาฉายบนทีวี โดยไม่ต้องเปิดทิ้งไว้ที่จอสมาร์ทโฟนก็ทำได้
ต่อมา คือ ในส่วนของ “Single Remote” ด้วยการที่ Curved TV ถูกออกแบบมาให้เน้นความสะดวกในการใช้งาน ดังนั้น การที่มีอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งกล่องทีวีดิจิตอล เคเบิลทีวี เครื่องเล่นบลูเรย์ หรือชุดโฮมเธียเตอร์ต่างๆ ถูกเชื่อมต่อเข้ากับ Curved TV ผู้ใช้ก็สามารถใช้รีโมตทีวีเพียงอันเดียวในการควบคุมอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหลายได้ทันที หรือจะใช้อีกรูปแบบหนึ่ง คือ การใช้สมาร์ทโฟนในการควบคุมสั่งงานการใช้งานทั่วๆ ไป และใช้ในการเป็นคีย์บอร์ดเสมือนสำหรับป้อนข้อมูลก็ได้เช่นเดียวกัน
ท้ายที่สุด คือ ไม้เด็ดของซัมซุง ในการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ใช้ Curved TV คือ แอปพลิเคชั่นอย่าง “TV Plus” ที่จะมีการนำซีรีส์เกาหลี มาแปลซับไทยให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันฟรีๆ รวมถึงในอนาคตจะมีการนำคอนเทนต์เพิ่มเติมจากผู้จัดละครในไทย และพันธมิตรทั้งหลายมาฉายให้ชมกันตามต้องการอีกด้วย
(บทความประชาสัมพันธ์)